ร.ร.วัดในปัตตานีไม่มีปัญหาเรื่องฮิญาบ ชี้เป็นความหลากหลายทางวัฒนธรรม

ปัตตานี - ชาวปัตตานีวิพากษ์กรณี ร.ร.มัธยมวัดหนองจอกห้าม นร.หญิงคลุมฮิญาบหนาหู ขณะเดียวกันที่ ร.ร.วัดตานีสโมสร อ.เมืองปัตตานี อนุญาตให้ นร.คลุมฮิญาบมาเรียนได้ตามปกติ ชี้เป็นความหลากหลายของวัฒนธรรมในพื้นที่

จากกรณีที่ น.ส.อาทิตยา สุไลมาน นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนมัธยมวัดหนองจอก กรุงเทพฯ ถูกทางโรงเรียนปฏิเสธการเข้าเรียน โดยให้เหตุผลว่าแต่งกายไม่ถูกระเบียบเนื่องจากสวมฮิญาบ จึงเดินทางไปพบนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อยื่นหนังสือร้องเรียนเมื่อวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งนายวรวัจน์รับปากจะดำเนินการแก้ไขให้

จากเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในกลุ่มผู้ปกครองและครูในโรงเรียน จ.ปัตตานี อย่างหนาหู โดยผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังโรงเรียนวัดตานีสโมสร (เทศบาล 2) อ.เมือง จ.ปัตตานี ซึ่งมีนักเรียนตั้งแต่ชั้นอนุบาลถึงชั้น ป.6 และมีนักเรียนทั้งพุทธ และมุสลิม จำนวนกว่า 700 คน

ทั้งนี้ นักเรียนมุสลิมทั้งชายและหญิงต่างสวมใส่ชุดที่ถูกต้องตามหลักศาสนาอิสลามมาเรียนหนังสือปกติ โดยเฉพาะนักเรียนหญิงที่ถือเป็นปัญหาจากกรณีดังกล่าวก็สวมใส่ผ้าคลุมผมหรือฮิญาบทุกคน และเรียนหนังสือร่วมกับเพื่อนต่างศาสนาตามปกติ แม้แต่ครูผู้สอนที่เป็นมุสลิมก็ยังสวมใส่ฮิญาบมาสอนหนังสือตามปกติเช่นกัน

นางปียะภรณ์ ด้วงตุด รองผู้อำนวยการโรงเรียน กล่าวว่า เราอยู่ร่วมกัน 3 วัฒนธรรม ไม่ว่าที่ไหนจังหวัดไหนเราสามารถที่จะเรียนรู้อยู่ร่วมกันได้ ฉะนั้น การจัดการเรียนการสอนก็ไม่มีปัญหากับการที่นักเรียนหญิงต้องสวมใส่ผ้าคลุม หรือฮิญาบ มาโรงเรียน ทั้งนักเรียนมุสลิมที่ใส่ผ้าคลุมผม และนักเรียนไทยพุทธในโรงเรียนแห่งนี้ก็อยู่ด้วยกันอย่างปกติไม่มีปัญหาอะไร เป็นเพราะสังคมของคนในพื้นที่นี้ก็เคยชินกับความหลากหลายทางวัฒนธรรมอยู่แล้ว

ด.ญ.ลีน่า แวหะยี นักเรียนชั้น ป.6 กล่าวว่า ตนใส่ผ้าคลุมผม หรือฮิญาบมาโรงเรียนตั้งแต่อยู่ชั้น ป.4 ก็ไม่มีปัญหาอะไร ครูหรือเพื่อนต่างศาสนาก็ไม่ได้รังเกียจ และตนก็จะใส่ฮิญาบมาเรียนตลอดไป