มส.ระบุ โรงเรียนวัดหนองจอก ยืนยัน นร.หญิงไม่ให้แต่งฮิญาบ ชี้ ไม่ลิดรอนสิทธิ แต่อยากให้เคารพข้อปฏิบัติและธรรมเนียมของแต่ละศาสนา ชี้ ทางออกให้หาโรงเรียนที่เหมาะสมเรียน
วันนี้ (30 ม.ค.) ที่วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ กล่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคม(มส.) ว่า ในการประชุม มส.วันนี้ ได้มีรายงานกรณีโรงเรียนวัดหนองจอก ห้ามนักเรียนหญิงมุสลิมแต่งฮิญาบตามหลักศาสนาอิสลาม โดยทางพระมงคลญาณคุณ เจ้าอาวาสวัดหนองจอก ได้ทำหนังสือเสนอต่อที่ประชุม มส.ซึ่งทางวัดยังยืนยันว่า ไม่ให้แต่งผ้าฮิญาบ เนื่องจากพื้นที่สถานศึกษาอยู่ในเขตของวัด ถึงแม้ว่า จะมีผู้เรียกร้องบางกลุ่มอ้างถึงกฎกระทรวงศึกษาธิการ ปี 2551 ข้อ 12 ว่าด้วยการแต่งกายของนักเรียน สามารถแต่งกายตามหลักศาสนาที่ตนนับถือได้ ซึ่งทางวัดหนองจอก ยังยืนยันว่า จะนำกฎกระทรวงดังกล่าวมาอ้างมิได้ เพราะโรงเรียนวัดหนองจอก เป็นพื้นที่ศาสนสมบัติของวัดควรปฏิบัติตามเงื่อนไขและขนบธรรมเนียมของวัด
เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวทางวัดหนองจอก ทางวัดหนองจอกเสนอให้นักเรียนหญิงที่ต้องการแต่งฮิญาบ ควรจะปฏิบัติตามข้อปฏิบัติของวัด หากยังยืนยันที่จะแต่งฮิญาบ ควรหาสถานศึกษาที่เหมาะสมกับหลักศาสนาจะเหมาะสมกว่า
นายนพรัตน์ กล่าวว่า ที่ประชุม มส.รับทราบข้อเสนอของวัดหนองจอก อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมเห็นว่า ควรปรึกษาหารือกัน เพื่อหาทางออกที่เหมาะสม และไม่เกิดผลกระทบต่อคนหมู่มาก โดยไม่อยากให้โยงเรื่องมาเป็นประเด็นการเมืองและสร้างความแตกแยกระหว่างศาสนา หรือมีปัญหาบนปลาย ซึ่งโรงเรียนแห่งนี้ก่อตั้งมา 57 ปี ไม่เคยมีปัญหาเรื่องการแต่งกาย เพราะผู้ปกครองก็เข้าใจขนบธรรมเนียมปฏิบัติของแต่ละศาสนาเป็นอย่างดี
“เราไปสถานที่ของชาวมุสลิม ก็ต้องเคารพกติกาของเขา เราก็มีกติกาและขนบธรรมเนียมปฏิบัติของเรา อยากให้ทุกฝ่ายเปิดใจให้กว้าง อย่ามองว่า เป็นเรื่องลิดรอนสิทธิเสรีภาพเพียงอย่างเดียวอยากให้มองบริบทอื่นประกอบเข้าไปด้วย ตนคิดว่า ปัญหาดังกล่าวจะจบลงด้วยดี โดยไม่มีการโยงไปสร้างความเสียหายระหว่างศาสนา” นายนพรัตน์ กล่าว
วันนี้ (30 ม.ค.) ที่วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ กล่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคม(มส.) ว่า ในการประชุม มส.วันนี้ ได้มีรายงานกรณีโรงเรียนวัดหนองจอก ห้ามนักเรียนหญิงมุสลิมแต่งฮิญาบตามหลักศาสนาอิสลาม โดยทางพระมงคลญาณคุณ เจ้าอาวาสวัดหนองจอก ได้ทำหนังสือเสนอต่อที่ประชุม มส.ซึ่งทางวัดยังยืนยันว่า ไม่ให้แต่งผ้าฮิญาบ เนื่องจากพื้นที่สถานศึกษาอยู่ในเขตของวัด ถึงแม้ว่า จะมีผู้เรียกร้องบางกลุ่มอ้างถึงกฎกระทรวงศึกษาธิการ ปี 2551 ข้อ 12 ว่าด้วยการแต่งกายของนักเรียน สามารถแต่งกายตามหลักศาสนาที่ตนนับถือได้ ซึ่งทางวัดหนองจอก ยังยืนยันว่า จะนำกฎกระทรวงดังกล่าวมาอ้างมิได้ เพราะโรงเรียนวัดหนองจอก เป็นพื้นที่ศาสนสมบัติของวัดควรปฏิบัติตามเงื่อนไขและขนบธรรมเนียมของวัด
เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวทางวัดหนองจอก ทางวัดหนองจอกเสนอให้นักเรียนหญิงที่ต้องการแต่งฮิญาบ ควรจะปฏิบัติตามข้อปฏิบัติของวัด หากยังยืนยันที่จะแต่งฮิญาบ ควรหาสถานศึกษาที่เหมาะสมกับหลักศาสนาจะเหมาะสมกว่า
นายนพรัตน์ กล่าวว่า ที่ประชุม มส.รับทราบข้อเสนอของวัดหนองจอก อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมเห็นว่า ควรปรึกษาหารือกัน เพื่อหาทางออกที่เหมาะสม และไม่เกิดผลกระทบต่อคนหมู่มาก โดยไม่อยากให้โยงเรื่องมาเป็นประเด็นการเมืองและสร้างความแตกแยกระหว่างศาสนา หรือมีปัญหาบนปลาย ซึ่งโรงเรียนแห่งนี้ก่อตั้งมา 57 ปี ไม่เคยมีปัญหาเรื่องการแต่งกาย เพราะผู้ปกครองก็เข้าใจขนบธรรมเนียมปฏิบัติของแต่ละศาสนาเป็นอย่างดี
“เราไปสถานที่ของชาวมุสลิม ก็ต้องเคารพกติกาของเขา เราก็มีกติกาและขนบธรรมเนียมปฏิบัติของเรา อยากให้ทุกฝ่ายเปิดใจให้กว้าง อย่ามองว่า เป็นเรื่องลิดรอนสิทธิเสรีภาพเพียงอย่างเดียวอยากให้มองบริบทอื่นประกอบเข้าไปด้วย ตนคิดว่า ปัญหาดังกล่าวจะจบลงด้วยดี โดยไม่มีการโยงไปสร้างความเสียหายระหว่างศาสนา” นายนพรัตน์ กล่าว