นราธิวาส - ทหารชุดช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยนำหน่วยแพทย์ลงพื้นที่ช่วยชาวบ้านที่นราฯ พบครอบครัวสุดอนาถารวม 4 ชีวิต แม่ พ่อ และลูกอีก 2 คน บ้านได้ถูกน้ำท่วมทรัพย์สินเสียหายแทบสิ้นเนื้อประดาตัว แถมลูกคนโตกลับกลายเป็นเด็กพิการทางสมอง แม่วอนผู้ใจบุญช่วยลูกให้ได้รับการรักษาตามคำแนะนำของแพทย์
น.ท.วิรัตน์ ตะโจปะรัง ผบ.ฉก.นราธิวาส 33 อ.เมือง จ.นราธิวาส ได้นำคณะแพทย์และเจ้าหน้าที่ทหารเดินทางสำรวจความเสียหายจากเหตุอุทกภัยที่เกิดขึ้นในพื้นที่ ม.2 ต.มะนังตายอ อ.เมือง เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบในเบื้องต้น และขณะที่คณะเดินตระเวนตรวจสอบนั้น ได้เดินผ่านบ้านเลขที่ 16 นั้น พบนางแมะมานิ สะอะ อายุ 54 ปี นั่งอยู่หน้าบ้านในลักษณะอิดโรย เจ้าหน้าที่จึงได้สอบถามทราบว่า หลังจากบ้านถูกน้ำท่วมขัง ทำให้เครื่องใช้สอยและทรัพย์สินภายในบ้านถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหาย
โดยทรัพย์สินแต่ละชิ้นกว่าจะหามาได้ต้องรับจ้างกรีดยางพาราร่วมกับสามีเป็นแรมปี เนื่องจากนางแมะมานิ และสามีมีภาระทางครอบครัวจนตัวเป็นเกลียวคือ ต้องเลี้ยงลูกที่กำลังศึกษาอยู่ 3 คน และต้องเลี้ยงดูลูกคนเล็กอายุ 2 ขวบอีก 1 คน ซึ่งนางแมะมานิและสามีเป็นห่วงที่สุดคือลูกชายคนที่ 5 คือ ด.ช.อารีฟ อาแว อายุ 13 ปี ซึ่งเป็นบุคคลพิการทางสมองมาตั้งแต่กำเนิด
ทั้งนี้ นางแมะมานิและสามีไม่มีปัญญาที่จะหาเงินเพื่อนำลูกชายไปบำบัดเพื่อให้อาการดีขึ้นตามหลักการแพทย์ที่นางแมะมานิเคยไปปรึกษา โดยแต่ละวัน ด.ช.อารีฟจะเป็นเด็กที่เก็บตัวเงียบไม่ยอมพูดจากับผู้ใด หรือแม้แต่จะเล่นกับเพื่อนๆในวัยเดียวกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากวันใด ด.ช.อารีฟเจ็บป่วย นางแมะมานิและสามีต้องหยุดกรีดยางโดยที่มีมีรายได้มาจุนเจือครอบครัว เพราะต้องดูแลอาการ รวมทั้งลูกแลน้องชายของ ด.ช.อารีฟ ซึ่งอยู่ในวัยเพียง 2 ขวบเท่านั้น
และเมื่อ น.ท.วิรัตน์ ผบ.ฉก.นราธิวาส 33 ทราบความต้องการของนางแมะมานิแล้ว จึงได้นำเครื่องอุปโภคบริโภคมาแจกจ่าย รวมทั้งได้สั่งการให้ ร.อ.นพนัย สอนเดิมบาง นายทหารฝ่ายกิจการพลเรือนที่ตามคณะไปด้วย เตรียมให้การช่วยเหลือในส่วนของการนำเป็ดและไก่ไปให้เลี้ยง เพื่อนำรายได้ในส่วนนี้ใช้จ่ายในยามที่ไม่สามารถเดินทางไปรับจ้างกรีดยาง ตามงบประมาณของทหารที่สามารถช่วยเหลือได้ พร้อมทั้งได้มีการแนะนำให้นางแมะมานิ ซึ่งเป็นมารดา พยายามที่จะชวน ด.ช.อารีฟ พูดคุยให้บ่อยครั้งขึ้น ซึ่งอย่างน้อยสามมารถที่จะช่วยให้ ด.ช.อารีฟ มีวิวัฒนการที่ดีขึ้นกว่าในปัจจุบันนี้
โดยนางแมะมานิ กล่าวว่า ตนอยากขออ้อนวอนผู้ใจบุญช่วยเหลือลูกชายและครอบครัว เนื่องจากลูกที่กำลังศึกษาก็โตขึ้นทุกวัน เงินที่ต้องใช้จ่ายก็มากขึ้นเหมือนเงาตามตัว ที่สำคัญที่สุดเกรงลูกจะไม่ได้รับการศึกษาที่ดีพอ จนอาจจะนำลูกไปสู่สิ่งที่ไม่ดี ทั้งยาเสพติดและปัญหาอาชญากรรม ที่ขยายผลไปสู่ปัญหาความมั่นคงในอนาคตได้
สำหรับผู้ใจบุญที่มีจิตศรัทธาจะให้การช่วยเหลือครอบครัวสามารถติดต่อได้ที่ นางแมะมานิสะอะ หมายเลขโทรศัพท์ 088-4888646 หรือผู้ใดมีจิตศรัทธาที่จะให้การช่วยเหลือทางการเงิน สามารถส่งมาได้ที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขานราธิวาส ประเภทออมทรัพย์ หมายเลขบัญชี 055-2-71529-5