ยะลา - แม่ค้าไทยพุทธและมุสลิมย่านถนนรวมมิตรกว่า 100 คนลุกฮือปิดถนนประท้วงหลังได้รับผลกระทบจาก เซฟตี้โซน 2 ทำให้พ่อค้าแม่ขายขายของได้น้อยลงจากการลดเส้นทางเข้าออก
จากกรณีที่เกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิด 34 จุดในเขตเทศบาลนครยะลาและพื้นที่รอบนอกเขตเทศบาล เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บกว่า 60 คน เหตุเกิดเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 25 ต.ค.54 ที่ผ่านมา ซึ่งภายหลังเกิดเหตุทางกองอำนวยการร่วมรักษาความปลอดภัยจังหวัดยะลา (กอ.รมน.จ.ยะลา) ได้มีการวางมาตรการในการดูแลรักษาความปลอดภัยชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ย่านการค้า
โดยเฉพาะถนนสายรวมมิตร เขตเทศบาลนครยะลา ซึ่งถูกกลุ่มคนร้ายลอบวางระเบิดจำนวนหลายจุดในวันดังกล่าว และที่ผ่านมาก็เกิดระเบิดขึ้นหลายต่อหลายครั้งมาแล้ว โดยมีการจัดการจราจรเป็นการเดินรถทางเดียว (one way) และอนุญาตให้รถเข้าพื้นที่ได้เพียง 5 เส้นทาง มีทางออก 11 ช่องทาง ใช้กำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และ กองกำลังภาคประชาชน กว่า 200 นาย คอยตรวจสอบรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และบุคคลที่จะเข้า - ออก อย่างละเอียด ทำให้ถนนรวมมิตร เป็นเซฟตี้โซน 2 ในย่านการค้าในเขตเทศบาลนครยะลา
วันนี้ (2 ธ.ค.) ที่บริเวณปากซอยสองพี่น้อง หน้าโชว์รูมรถยนต์มาสด้า ถนนรวมมิตร ในเขตเทศบาลนครยะลา พ่อค้า แม่ค้า ชาวไทยพุทธ และชาวไทยมุสลิมกว่า 100 คน ได้นำแผงเหล็กกั้นถนน และ ป้ายเขียนข้อความ “ไม่ได้สร้างปัญหา แต่ว่าเดือดร้อน ค้าขายไม่ได้”, “ ขอบคุณสำหรับความปลอดภัย แต่ขอให้คิดถึงปากท้องด้วย”, “ซื้อไม่ได้ ขายไม่ออก”, “เซฟตี้โซน คิดดีแต่ต้องมีทางเข้าและออกหลายทาง” มาปิดถนนสายรวมมิตร ไม่ให้รถวิ่งผ่าน เพื่อเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหา การจัดการจราจรใหม่ หลังได้รับผลกระทบ ทำให้ค้าขายไม่ได้ สร้างภาระให้กับครอบครัว มีความเดือดร้อน
ทั้งนี้ นายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา (ฝ่ายความมั่นคง) นายประเสริฐ พงษ์สุวรรณศิริ ส.ส.ยะลา พรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางมาพูดคุยกับกลุ่มพ่อค้า แม่ค้า โดยมี นางสาวหทัย บุญโชติ เป็นตัวแทนกลุ่มแม่ค้าในการเรียกร้อง ซึ่ง นายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา (ฝ่ายความมั่นคง) ได้พูดคุยกับแกนนำ และกลุ่มพ่อค้า แม่ค้า พร้อมนัดแนะให้ไปรวมตัวกันเพื่อให้ข้อมูล และพูดคุยเพื่อปรับเปลี่ยนเส้นทางตามคำเรียกร้องที่ศูนย์เยาวชนเทศบาลนครยะลาในช่วงบ่าย กลุ่มพ่อค้า แม่ค้า ชาวบ้าน จึงยอมสลายตัวในเวลา 11.30 น.
นางสาวหทัย บุญโชติ ตัวแทนกลุ่มแม่ค้า กล่าวว่า จากการบังคับใช้เส้นทางเดินรถทางเดียว และ กำหนดทางเข้าจำนวน 5 ช่อง ทาง กำหนดทางออก จำนวน 11 ปรากฏว่าทำให้ผู้ประกอบการค้า และประชาชนที่พักอาศัยบริเวณถนนรวมมิตร และซอยต่าง ๆ ในละแวกใกล้เคียงต่าง ได้รับผลกระทบความเดือดร้อนอย่างรุนแรง การจราจรไม่คล่องตัว รวมทั้งการประกอบอาชีพค้าขายทำให้รายได้ลดลงธุรกิจซบเซา เพื่อให้ความเป็นอยู่ของประชาชน และผู้ประกอบการค้าในย่านรวมมิตรให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และมีความปลอดภัย ตนเองขอให้ทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกส่วนพิจารณาทบทวนการจัดการตั้งเซฟตี้โซน 2 ให้มีทางเข้าออกเพิ่มมากกว่านี้ ซึ่งแม่ค้าทุกคนขอขอบคุณฝ่ายเจ้าหน้าที่ที่ได้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยให้ แต่อยากจะขอให้พิจารณาแก้ไขปรับปรุงเส้นทางเข้าออกให้ด้วย
