ยะลา - หน่วยงานต่างๆ ในยะลาเร่งขุดลอกทางระบายน้ำพร้อมผันน้ำบางส่วนลงสู่แม่น้ำให้เร็วขึ้น หลังกรมอุตุฯ เตือนภาคใต้มีฝนตกหนัก และในพื้นที่ยะลา มีฝนตกหนักต่อเนื่องแล้ว
หลังจากที่กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนภาคใต้ว่าจะมีฝนหนัก ให้เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน และ น้ำป่าไหล ในพื้นที่ภาคใต้ฝั่งตะวันออก ซึ่งจะมีฝนเพิ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 21 พฤศจิกายน 2554 ไปจนถึงวันที่ 26 พฤศจิกายน 2554 โดยจะมีฝนกระจายถึงเกือบทั่วไป หรือร้อยละ 60-70 ของพื้นที่กับมีฝนหนักบางพื้นที่ ส่วนมากบริเวณ จ.ชุมพร สุราษฏร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และ จ.นราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนตั้งแต่ จ.สุราษฎร์ธานี ลงไปทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ให้เจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเตรียมพร้อมให้การช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่เฝ้าระวัง และติดตามข้อมูลจากศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติอย่างใกล้ชิดนั้น
วันนี้ (21 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ยะลา ว่าเกิดฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง และหากเกิดฝนตกในลักษณะอย่างนี้ติดต่อกันหลายวันอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน และดินถล่มปิดเส้นทางคมนามคมในพื้นที่เสี่ยงภัยได้ ได้แก่ พื้นที่ราบบริเวณ อ.เมือง และ อ.รามัน ซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่ลุ่มน้ำปัตตานี มีแม่น้ำสายหลักที่สำคัญ คือ แม่น้ำปัตตานี ไหลจาก อ.เบตง จ.ยะลา ไปลงอ่าวไทยที่ อ.เมือง จ.ปัตตานี และแม่น้ำสายบุรี ไหลผ่าน อ.รามัน จ.ยะลา
ทั้งนี้ ในส่วนการรับมือน้ำท่วมในเขตรอบนอกเขตเทศบาลนครยะลา และในเขตเทศบาลนครยะลา นายพงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศมนตรีนครยะลา ได้เร่งให้มีการขุดลอกสันดอนต่างๆ ในย่านชุมชนตลาดเก่า รวมทั้งขุดลอกแม่น้ำปัตตานีที่ยังตื่นเขินบริเวณบ้านท่าสาป ซึ่งกำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้
ส่วนที่อยู่นอกเขตเทศบาลนครยะลา ได้รับความร่วมมือจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดยะลา หรือ อบจ. มาช่วยดำเนินการขุดลอกในเขตเทศบาลตำบลสะเตงนอก และส่วนหนึ่งมีการขุดลอกเส้นทางน้ำ และผันน้ำที่มาจากพื้นที่ ต.โกตาบารู อ.รามัน จ.ยะลา พื้นที่ ต.บุดี อ.เมืองยะลา ให้ออกไปทางบ้านปรามะ ต.วังพญา อ.รามัน ลงสู่แม่น้ำสายบุรี เพื่อที่จะลดไม่ให้น้ำไหลเข้ามาร่วมในเขตเทศบาลนครยะลา
