ชาวบ้านบุกศาลากลางตรังบังคับพ่อเมืองปิดโรงงานไม้ยาง

ตรัง - ม็อบต้านโรงงานแปรรูปไม้ยางอำเภอห้วยยอด บุกศาลากลางยื่นหนังสือพ่อเมืองตรังสั่งปิดกิจการ หลังทำให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม เผยผู้ตรวจการแผ่นดินเตรียมลงพื้นที่ 14 ต.ค. นี้ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง

วันนี้ (7 ต.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น. ที่หน้าศาลากลาง จ.ตรัง หลังใหม่ นายโสภณ วงศ์หนองเตย พร้อมด้วยชาวบ้านหมู่ที่ 1และหมู่ที่ 2 บ้านลำศักดิ์สิทธิ์ ต.หนองช้างแล่น หมู่ที่ 4 และ 6 ต.ท่างิ้ว อ.ห้วยยอด จ.ตรัง กว่า 100 คน ได้เดินทางมาชุมนุมประท้วง เพื่อยื่นหนังสือต่อนายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง โดยเรียกร้องให้สั่งปิดโรงงานแปรรูปไม้ยางพาราของ หจก.เอส ดี ที พาราวู้ด จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ หมู่ที่ 1 ต.หนองช้างแล่น อ.ห้วยยอด เนื่องจากโรงงานไม่มีใบอนุญาตเปิดดำเนินการ และยังสร้างมลภาวะเป็นพิษกระทบต่อสภาพแวดล้อมในชุมชนด้วย

กลุ่มผู้ประท้วงได้นำรถบรรทุก 6 ล้อ มาติดตั้งเครื่องขยายเสียงโจมตีการปฏิบัติงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และยังได้นำถังน้ำมันที่ดัดแปลงพร้อมตะแกรงมาจุดไฟ เพื่อประกอบอาหารรับประทานมื้อกลางวัน ระหว่างรอยื่นหนังสือแก่นายไมตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดอีกด้วย โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และ อส. ดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด

นายโสภณ วงศ์หนองเตย แกนนำชาวบ้าน เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาชาวบ้านได้ร้องเรียนปัญหาที่โรงงานแปรรูปไม้ยางพาราดังกล่าว เปิดกิจการโดยไม่ได้รับใบอนุญาตมานานถึง 4 เดือนเต็ม ไปยังหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้า กลับปล่อยให้โรงงานดำเนินกิจการต่อไป และสร้างผลกระทบให้กับชุมชน โดยได้ปล่อยเขม่าควัน ผงฝุ่นขี้เลื่อย กลิ่นเหม็นของน้ำยาแปรรูปไม้ยางพารา ซึ่งชาวบ้านได้สูดดมเข้าไปจนทำให้เป็นโรคระบบทางเดินหายใจ รวมทั้งคราบน้ำมันลอยเป็นแพในอ่างเก็บน้ำลำศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเคยมีสัตว์น้ำอุดมสมบูรณ์ จนไม่สามารถลงไปหามาเป็นอาหารได้ เมื่อลงไปจะเป็นผื่นคันแดงทั้งตัว และสัตว์น้ำตายและหายไปหมด รวมทั้งยังเสียงดังรบกวนตลอดเวลาด้วย

ทั้งนี้ จากปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้ชาวบ้านไม่อาจทนอยู่ในสภาพสิ่งแวดล้อมที่เลวร้ายเช่นนี้ได้อีก จึงจำเป็นต้องนำเรื่องนี้ถวายฎีกาต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เพื่อให้ทรงพระกรุณาพระราชทานแนวทางแก้ปัญหา เพราะชาวบ้านไม่สามารถจะทนทุกข์ทรมานกับผงฝุ่นเขม่าควันต่อไปได้อีก

พร้อมกันนี้ได้มีข้อเรียกร้อง 3 ข้อ ให้ทางจังหวัดดำเนินการ คือ 1.ให้มีคำสั่งปิดโรงงานทันที 2.ให้ดำเนินคดีตามกฎหมายถึงที่สุดทั้งทางแพ่งและทางอาญากับโรงงาน เพื่อนำเงินมาชดใช้เยียวยาแก่ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ และ 3.ให้ลงโทษอุตสาหกรรมจังหวัด ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ที่ปล่อยให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน

ต่อมา นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ได้เดินทางมารับหนังสือพร้อมกับกล่าวว่า ที่ผ่านมาตนรับรู้ถึงปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนมาโดยตลอด และไม่ได้นิ่งเฉย ส่วนการที่ชาวบ้านเรียกร้องให้สั่งปิดโรงงานนั้น ตนไม่มีอำนาจดำเนินการในเรื่องนี้ เพราะโรงงานยังไม่ได้เปิดดำเนินกิจการ ซึ่งตนทำได้เพียงเป็นคนกลางรับเรื่องร้องเรียนทั้งหมดก่อนรวบรวมส่งไปให้กับกรมโรงงานอุตสาหกรรม

หลังจากนั้น ทางกรมโรงงานอุตสาหกรรม ก็จะส่งเรื่องทั้งหมดไปยังอธิบดีกรมโรงงาน เพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป และพร้อมกันนี้ ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองของอำเภอห้วยยอด ร่วมกับชาวบ้าน เฝ้าระวังไม่ให้ทางโรงงานเปิดดำเนินกิจการตั้งแต่วันที่ 7-14 ต.ค. จนกว่าทางผู้ตรวจการแผ่นดิน จะลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงในวันที่ 14 ต.ค.นี้ เพื่อไกล่เกลี่ยความขัดแย้งทั้งหมด

ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด อุตสาหกรรมจังหวัด อำเภอห้วยยอด และตัวแทนชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน ได้มีการทำบันทึกข้อตกลงร่วมกันว่าจะทำการแก้ไขปัญหากรณีโรงงานดังกล่าว 3 ข้อ คือ 1.ไม่ให้โรงงานดังกล่าวลักลอบเปิดดำเนินกิจการตลอด 24 ชม. 2.หากฝ่าฝืนให้ดำเนินการตามกฎหมายโดยเคร่งครัด และ 3. สำหรับกรณีของผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 ต.หนองช้างแล่น อ.ห้วยยอด ให้ทางอำเภอห้วยยอด ตรวจสอบข้อเท็จจริงตามข้อร้องเรียน และให้อำเภอดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ซึ่งทางกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงพอใจและสลายตัวในที่สุดเมื่อเวลา 15.30 น.