ตรัง - ชาวบ้านเมืองหมูย่างทนรับมลพิษโรงงานแปรรูปไม้ยางไม่ไหว รวมตัวกว่า 100 คนประท้วงและบุกยื่นหนังสือถึงนายอำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง เรียกร้องให้ปิดโรงงานที่มีลูกชายของ “ชาลี กางอิ่ม” นายกนครตรังร่วมหุ้นด้วย
วันนี้ (15 ก.ย.) นายโสภณ วงศ์หนองเตย พร้อมด้วยชาวบ้านหมู่ 1 บ้านลำน้ำศักดิ์สิทธิ์ ต.หนองช้างแล่น อ.ห้วยยอด จ.ตรัง กว่า 100 คน รวมตัวชุมนุมประท้วงที่หน้าที่ว่าการอำเภอห้วยยอด เพื่อยื่นหนังสือต่อนายอนวัตร ศุภศรี นายอำเภอห้วยยอด เรียกร้องให้มีการปิดโรงงานแปรรูปไม้ยางพาราของ หจก.เอสดีที พาราวู้ด เนื่องจากได้ส่งผลกระทบด้านมลภาวะเป็นพิษต่อชุมชน และยังทำให้ชาวบ้านป่วยเป็นโรคระบบทางเดินหายใจ พร้อมกันนั้นยังเรียกร้องให้ ผวจ.ตรัง และนายอำเภอห้วยยอดชี้แจงว่า จะดำเนินการอย่างไรกับโรงงานดังกล่าวที่เปิดกิจการโดยไม่มีใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย
นายโสณกล่าวว่า นับตั้งแต่โรงงานดังกล่าวเปิดทำการทำให้วิถีชาวบ้านในชุมชนเปลี่ยนไป ผลจากการที่โรงงานปล่อยเขม่าควัน กลิ่นฉุน ทั้งกลางวันและกลางคืน รวมทั้งส่งเสียงดังรบกวนชาวบ้านมานานเกือบ 3 เดือน ทำให้ชาวบ้านได้รับผลกระทบทั้งด้านสุขภาพร่างกายและจิตใจ ขณะที่สภาพแวดล้อมในชุมชนก็เป็นพิษ ใบไม้ พืชผัก มีเขม่าควันสีดำเกาะติดเต็มต้น อีกทั้งเวลาจะรับประทานอาหารต้องหนีไปตั้งวงกินกันในมุ้งมานานนับเดือนแล้ว
นายโสภณกล่าวว่า ซ้ำร้ายยังมีผู้นำชุมชนบางคนได้ร่วมมือกับโรงงานเปิดประตูน้ำที่ฝายกั้นน้ำ ทำให้คราบผงฝุ่นและคราบน้ำมันลอยอยู่เหนือน้ำในลำน้ำศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นต้นน้ำ จนไม่สามารถนำมาใช้อุปโภคบริโภคและทำการเกษตรได้ นอกจากนี้ยังทำให้ชาวบ้าน เด็กเล็กและผู้สูงอายุป่วยเป็นโรคระบบทางเดินหายใจกันมากขึ้น
ก่อนหน้านี้ชาวบ้านเคยร้องเรียนไปยัง นายไมตรี อินทุสุต ผวจ.ตรัง อุตสาหกรรม จ.ตรัง กรมทรัพยากรน้ำ แล้ว แต่เรื่องกลับเงียบหายไป โดยอุตสาหกรรมจังหวัดได้มีการทำหนังสือชี้แจงมายังชาวบ้านว่า โรงงานดังกล่าวอยู่ระหว่างรอออกใบอนุญาต ยังไม่สามารถเข้าไปดำเนินการใดๆ ได้ แต่ทางอุตสาหกรรมจังหวัดกลับปล่อยให้ทางโรงงานไม้ยางดำเนินกิจการกันได้อย่างไร ซึ่งผลกระทบดังกล่าวที่เกิดขึ้นกับชุมชนนั้น ไม่คุ้มกับที่ทางอุตสาหกรรมจังหวัดจะดำเนินคดีเปรียบเทียบปรับกับทางโรงงาน จำนวน 200,000 บาท
ต่อมานายอนวัตร ศุภศรี นายอำเภอห้วยยอด ได้ลงมารับหนังสือ พร้อมกล่าวว่า ที่ผ่านมาทางอำเภอรับทราบปัญหาความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นมาโดยตลอด และไม่ได้นิ่งนอนใจ ถึงแม้ว่าตนจะเกษียณอายุราชการภายในสิ้นเดือนนี้ก็ตาม ยืนยันว่าจะติดตามเรื่องนี้จนถึงที่สุด พร้อมกับจะรายงานความคืบหน้าไปให้กับชาวบ้านได้รับทราบ ส่วนการที่ชาวบ้านต้องการทราบว่า เรื่องนี้จะดำเนินการแล้วเสร็จภายในกี่วันนั้น ตนคงตอบไม่ได้
หลังจากนั้นนายโสภณพร้อมด้วยชาวบ้าน ได้เดินเท้าออกจากที่หน้าที่ว่าการอำเภอห้วยยอด เพื่อเดินทางไปแจ้งความดำเนินคดีกับนายเสน่ห์ ทองศักดิ์ และนายเดชอัศม์ กางอิ่ม บุตรชายนายชาลี กางอิ่ม นายกเทศมนตรีนครตรัง ในฐานะ 2 หุ้นส่วนเจ้าของโรงงานดังกล่าวที่ สภ.ห้วยยอด ในข้อหาตั้งโรงงานอุตสาหกรรมแปรรูปไม้ยางพาราโดยไม่ได้รับอนุญาต และสร้างมลภาวะเป็นพิษให้แก่ชุมชน โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอให้ทางกลุ่มชาวบ้านส่งตัวแทนมา 5 คนเข้าพบกับ พ.ต.ท.สุดจิตต์ สุวรรณรังษี สวป.สภ.ห้วยยอด ซึ่งทำหน้าที่รับแจ้งความ
พ.ต.ท.สุดจิตต์ สุวรรณรังสี สวป.สภ.ห้วยยอด กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2554 ที่ผ่านมา ทางอุตสาหกรรมจังหวัดได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้ง 2 คนในข้อหาเดียวกันนี้แล้ว และทางพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีได้รับคดีไว้ แม้ในช่วง 2-3 เดือนมานี้มีการสับเปลี่ยนพนักงานสอบสวน แต่ก็มีการมอบคดีให้กับผู้ที่มารับช่วงต่อแล้ว ต่อมาพนักงานสอบสวนได้เรียกผู้ต้องหาทั้ง 2 คนมาสอบสวน พร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหา และส่งตัวผู้ต้องหาไปที่อุตสาหกรรมจังหวัด เพื่อดำเนินคดีเปรียบเทียบปรับจำนวน 200,000 บาท แต่ล่าสุดไม่ทราบว่าทางอุตสาหกรรมจังหวัดได้ดำเนินการเปรียบเทียบปรับแล้วหรือไม่
ทั้งนี้ หากยังไม่ดำเนินการทาง สภ.ห้วยยอดจะเสนอให้ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบดำเนินการฟ้องร้องต่อศาล เพื่อให้ศาลบังคับคดี ขณะเดียวกันในส่วนของทางพนักงานสอบสวนเอง ก็จะส่งสำนวนให้อัยการดำเนินการฟ้องร้องต่อศาลด้วยเช่นกัน