นราธิวาส - ประธานชมรมโรงแรมสุไหงโก-ลก ยืนยันนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียไม่ได้ตื่นตระหนกกับเหตุการณ์คาร์บอมบ์และจักรยานยนต์ ขณะที่สมาชิกสภาที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินมาตรการส่งเสริมการลงทุนในระยะยาวให้ได้ ด้านแม่ทัพภาคที่ 4 เตรียมปรับแผนรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ พร้อมประกาศพร้อมเดินหน้าปราบปรามสิ่งผิดกฎหมายทุกรูปแบบ เพราะเป็นต้นเหตุของการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่
ภายหลังจากที่เกิดเหตุคาร์บอมบ์และจักรยานยนต์บอมบ์ 3 จุดในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 ก.ย. ที่ผ่านมา จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก และเสียชีวิตจำนวน 4 รายนั้น
วันนี้ (17 ก.ย.) นายแสงทอง ปรีชาวุฒิเดช ประธานชมรมโรงแรม อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส กล่าวว เหตุการณ์ดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของกลุ่มนักท่องเที่ยว มีเพียงเช็กเอาต์ออกจากโรงแรมในวันเสาร์ตามปกติของกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย โดยเมื่อเช้านี้กลุ่มนักท่องเที่ยวบางส่วนยังคงออกมาหาอาหารรับประทานกันปกติ ขณะที่ร้านค้าในพื้นที่ซึ่งอยู่บริเวณใกล้เคียงจุดเกิดเหตุและร้านค้าในเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ยังคงมีการเปิดร้านกันตามปกติเช่นกัน จากพฤติกรรมดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าประชาชนและนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียไม่ได้มีความตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมากนัก
อย่างไรก็ตาม จากเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นอยากเรียกร้องให้มีการเพิ่มมาตรการการรักษาความปลอดภัย ที่เข้มงวดและรัดกุมมากยิ่งขึ้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย เพราะ อ.สุไหงโก-ลก เป็นเมืองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดชายแดนภาคใต้
ขณะที่นายปกรณ์ ปรีชาวุฒิเดช สมาชิกสภาที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า ส่งผลต่อความเชื่อมั่นใจการค้าการลงทุนและเศรษฐกิจจังหวัดชายแดน เพราะจากการที่สามารถคุมสถานการณ์ในเมืองหลัก เช่น เมืองยะลา เมืองปัตตานี เมืองนราธิวาส เมืองเบตง และเมืองสุไหงโก-ลก ได้ในระยะหนึ่งที่ผ่านมา ทำให้เกิดการค้าและเงินหมุนเวียนในจังหวัดชายแดนภาคใต้มากขึ้น
จากการแถลงนโยบายเร่งด่วน เพื่อแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนใต้ของ ต่อมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรรัฐมนตรี แกนนำหอการค้าในกลุ่มจังหวัดภาคใต้ชายแดน หอการค้าไทย อันประกอบด้วย (1) ประธานหอการค้ากลุ่มจังหวัดภาคใต้ชายแดน และประธานหอการค้า 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้มีกำหนดนัดหารือร่วมกัน ในการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ “จัดทำยุทธศาสตร์ด้านเศรษฐกิจของกลุ่มจังหวัดภาคใต้ชายแดน ที่สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล” ในวันจันทร์ที่ 19 กันยายน 2554
นอกจากนี้ จะขอเข้าพบเพื่อยื่นข้อเสนอต่อรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง) ที่มีกำหนดการเดินทางมาเปิดกิจกรรม โครงการของกระทรวงพาณิชย์ที่จังหวัดปัตตานีในวันเดียวกัน เพื่อให้รัฐบาลเร่งกำหนดนโยบายในการส่งเสริมความเชื่อมั่นใจการค้าการลงทุน
โดยเฉพาะมาตรการของรัฐบาลที่ผ่านมาหลายอย่างดีอยู่แล้ว แต่เป็นการจัดมาตรการระยะ 3 ปีเท่านั้น ยังไม่สามารถส่งเสริมให้เกิดความเชื่อมั่นในการลงทุนระยะยาว ทั้งจากนักลงทุนในพื้นที่และนักลงทุนภายนอกได้ ทั้งที่มีโอกาสในการเชื่อมโยงประชาคมเศรฐษกิจอาเซียน เนื่องจากมีทรัพยากรบุคคลที่มีวัฒนธรรมและภาษาที่ใกล้เคียงกับพลเมืองส่วนใหญ่ของอาเซียน แต่ยังคงมีอุปสรรคสำคัญที่ต้องรับความเสี่ยงในการลงทุนขนาดใหญ่ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ยังไม่มีความชัดเจนใดๆ ที่จะสามารถสร้างความมั่นใจให้ได้
ด้าน พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมคณะเดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุระเบิดคาร์บอมบ์และจักรยานยนต์บอมบ์ โดยยืนยันว่าจะให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุความไม่สงบในครั้งนี้ให้ได้ ทั้งนี้ยอมรับว่ามาตรการการกรักษาความปลอดภัยต้องมีการปรับยุทธศาสตร์ให้มีความเข้มงวดมากขึ้น เพื่อให้ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนได้รับการดูแลความปลอดภัยขั้นสูงสุด
ส่วนการปราบปรามสิ่งผิดกฎหมายที่เชื่อมโยงกับสถานการณ์ความไม่สงบนั้น หน่วยงานฝ่ายความมั่นคง 3 ฝ่ายก็ยังพร้อมเดินหน้าดำเนินการอย่างถึงที่สุด เพราะเป็นผลประโยชน์ทับซ้อนที่เป็นต้นเหตุของการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ปัจจุบันนี้
ภายหลังจากที่เกิดเหตุคาร์บอมบ์และจักรยานยนต์บอมบ์ 3 จุดในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 ก.ย. ที่ผ่านมา จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก และเสียชีวิตจำนวน 4 รายนั้น
วันนี้ (17 ก.ย.) นายแสงทอง ปรีชาวุฒิเดช ประธานชมรมโรงแรม อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส กล่าวว เหตุการณ์ดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของกลุ่มนักท่องเที่ยว มีเพียงเช็กเอาต์ออกจากโรงแรมในวันเสาร์ตามปกติของกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย โดยเมื่อเช้านี้กลุ่มนักท่องเที่ยวบางส่วนยังคงออกมาหาอาหารรับประทานกันปกติ ขณะที่ร้านค้าในพื้นที่ซึ่งอยู่บริเวณใกล้เคียงจุดเกิดเหตุและร้านค้าในเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ยังคงมีการเปิดร้านกันตามปกติเช่นกัน จากพฤติกรรมดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าประชาชนและนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียไม่ได้มีความตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมากนัก
อย่างไรก็ตาม จากเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นอยากเรียกร้องให้มีการเพิ่มมาตรการการรักษาความปลอดภัย ที่เข้มงวดและรัดกุมมากยิ่งขึ้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย เพราะ อ.สุไหงโก-ลก เป็นเมืองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดชายแดนภาคใต้
ขณะที่นายปกรณ์ ปรีชาวุฒิเดช สมาชิกสภาที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า ส่งผลต่อความเชื่อมั่นใจการค้าการลงทุนและเศรษฐกิจจังหวัดชายแดน เพราะจากการที่สามารถคุมสถานการณ์ในเมืองหลัก เช่น เมืองยะลา เมืองปัตตานี เมืองนราธิวาส เมืองเบตง และเมืองสุไหงโก-ลก ได้ในระยะหนึ่งที่ผ่านมา ทำให้เกิดการค้าและเงินหมุนเวียนในจังหวัดชายแดนภาคใต้มากขึ้น
จากการแถลงนโยบายเร่งด่วน เพื่อแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนใต้ของ ต่อมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรรัฐมนตรี แกนนำหอการค้าในกลุ่มจังหวัดภาคใต้ชายแดน หอการค้าไทย อันประกอบด้วย (1) ประธานหอการค้ากลุ่มจังหวัดภาคใต้ชายแดน และประธานหอการค้า 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้มีกำหนดนัดหารือร่วมกัน ในการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ “จัดทำยุทธศาสตร์ด้านเศรษฐกิจของกลุ่มจังหวัดภาคใต้ชายแดน ที่สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล” ในวันจันทร์ที่ 19 กันยายน 2554
นอกจากนี้ จะขอเข้าพบเพื่อยื่นข้อเสนอต่อรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง) ที่มีกำหนดการเดินทางมาเปิดกิจกรรม โครงการของกระทรวงพาณิชย์ที่จังหวัดปัตตานีในวันเดียวกัน เพื่อให้รัฐบาลเร่งกำหนดนโยบายในการส่งเสริมความเชื่อมั่นใจการค้าการลงทุน
โดยเฉพาะมาตรการของรัฐบาลที่ผ่านมาหลายอย่างดีอยู่แล้ว แต่เป็นการจัดมาตรการระยะ 3 ปีเท่านั้น ยังไม่สามารถส่งเสริมให้เกิดความเชื่อมั่นในการลงทุนระยะยาว ทั้งจากนักลงทุนในพื้นที่และนักลงทุนภายนอกได้ ทั้งที่มีโอกาสในการเชื่อมโยงประชาคมเศรฐษกิจอาเซียน เนื่องจากมีทรัพยากรบุคคลที่มีวัฒนธรรมและภาษาที่ใกล้เคียงกับพลเมืองส่วนใหญ่ของอาเซียน แต่ยังคงมีอุปสรรคสำคัญที่ต้องรับความเสี่ยงในการลงทุนขนาดใหญ่ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ยังไม่มีความชัดเจนใดๆ ที่จะสามารถสร้างความมั่นใจให้ได้
ด้าน พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมคณะเดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุระเบิดคาร์บอมบ์และจักรยานยนต์บอมบ์ โดยยืนยันว่าจะให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุความไม่สงบในครั้งนี้ให้ได้ ทั้งนี้ยอมรับว่ามาตรการการกรักษาความปลอดภัยต้องมีการปรับยุทธศาสตร์ให้มีความเข้มงวดมากขึ้น เพื่อให้ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนได้รับการดูแลความปลอดภัยขั้นสูงสุด
ส่วนการปราบปรามสิ่งผิดกฎหมายที่เชื่อมโยงกับสถานการณ์ความไม่สงบนั้น หน่วยงานฝ่ายความมั่นคง 3 ฝ่ายก็ยังพร้อมเดินหน้าดำเนินการอย่างถึงที่สุด เพราะเป็นผลประโยชน์ทับซ้อนที่เป็นต้นเหตุของการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ปัจจุบันนี้
