ศูนย์ข่าวภูเก็ต - จังหวัดภูเก็ตแก้ปัญหายาเสพติด โดยให้งบเรือนจำติดกล้อง CCTV 12 จุด ป้องกันคนร้ายลักลอบโยนยาเสพติด-โทรศัพท์มือถือ ให้ผู้ต้องขัง หลังพบมีการลักลอบโยนสิ่งของให้ผู้ต้องขังบ่อยครั้ง
วันนี้ (30 ส.ค.) นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวในการเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดภูเก็ต ครั้งที่ 8/2554 ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต (หลังใหม่) ว่า ปัญหายาเสพติดถือเป็นปัญหาสำคัญที่ทุกหน่วยงานจะต้องร่วมกันป้องกันปละปราบปรามอย่างเข้มข้น ซึ่งขณะนี้จังหวัดภูเก็ตได้อนุมัติงบประมาณให้กับเรือนจำจังหวัดภูเก็ตจำนวน 96,000 บาท เพื่อนำไปใช้ในการติดตั้งกล้องวงจรปิด (CCTV) จำนวน 12 จุด ทั้งบริเวณกำแพงเรือนจำ และบริเวณที่ควบคุมผู้ต้องขังคดียาเสพติดรายสำคัญ และ คดีอุจฉกรรจ์
ทั้งนี้ เพื่อช่วยในการป้องกันและแก้ปัญหาการลักลอบนำเข้ายาเสพติด รวมทั้งมือถือเข้าไปในในเรือนจำ เพราะที่ผ่านมามีการลักลอบโยนสิ่งของทั้งยาเสพติดประเภทต่างๆ และโทรศัพท์มือถือเข้าไปในเรือนจำให้กับผู้ต้องขังมาอย่างต่อเนื่อง
การติดตั้งกล้องวงจรปิดในบริเวณต่างๆ เชื่อว่า จะช่วยสกัดกั้นการลักลอบโยนยาเสพติดเข้าไปให้กับผู้ต้องขังได้อย่างแน่นอน
ขณะที่ นายระพินทร์ นิชานนท์ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ในช่วงประมาณ 5-6 เดือนที่ผ่านมา ในส่วนของเรือนจำจังหวัดภูเก็ตมีการลักลอบโยนโทรศัพท์มือถือ รวมทั้งยาเสพติดเข้ามาบ่อยครั้ง บางเดือนมีการลักลอบโยนเข้ามาหลายครั้ง หรือครั้งละประมาณ 3-10 เครื่อง ซึ่งส่วนใหญ่เจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบและเก็บได้ก่อนที่จะถึงมือผู้ต้องขัง โดยคนร้ายจะโยนสิ่งของเข้านี้มาทางบริเวณกำแพงเรือนจำ
อย่างไรก็ตาม หลังมีการตรวจพบว่า มีการลักลอบโยนโทรศัพท์เข้าไปในเรือนจำ เจ้าหน้าที่ได้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจตรวจสอบ แต่ก็ยังมีการลักลอบทำอยู่แต่จำนวนลดลง ซึ่งที่ผ่านมาไม่สามารถไม่สามารถกุมตัวผู้กระทำความผิดได้
นายระพินทร์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับงบประมาณที่จังหวัดภูเก็ตอนุมัติให้จำนวน 96,000 บาท เพื่อนำไปใช้ติดตั้ง CCTV จำนวน 12 จุด เบื้องต้นกำหนดไว้ที่บริเวณกำแพงด้านในและนอกเรือน บริเวณเรือนนอน หรือที่กุมขังผู้ต้องหาคดียาเสพติดและคดีอุจฉกรรจ์ ซึ่งเชื่อว่าก็จะช่วยลดปัญหาการนำสิ่งของที่ไม่ถูกต้องเข้าไปในเรือนจำได้ระดับหนึ่ง
ปัจจุบันเรือนจำจังหวัดภูเก็ตมีผู้ต้องหา ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดประมาณ 82.43% จากจำนวนผู้ต้องขังซึ่งจะมีจำนวนประมาณ 1,500 คน ซึ่งเพิ่มจากอดีตที่มีผู้ต้องขังในคดียาเสพติดอยู่ที่ประมาณ 70%