ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผบช.เรือนจำภูเก็ตเผยติดแล้วกล้องวงจรปิด 12 ตัวรอบรั้วเรือนจำ จังหวัดหนุนงบ 96,000 บาท ป้องกันคนร้ายลักลอบโยนโทรศัพท์มือถือ-ยาเสพติดให้ผู้ต้องขัง เริ่มใช้วันนี้
วันนี้ (13 ก.ย.) นายระพินทร์ นิชานนท์ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการติดตั้งกล้อง CCTV หรือกล้องวงจรปิด รอบรั้วเรือนจำจังหวัดภูเก็ตเพื่อป้องกันการลักลอบโยนสิ่งของผิดกฎหมาย เช่น โทรศัพท์มือถือ ยาเสพติด ให้ผู้ต้องขังว่า ตามที่จังหวัดภูเก็ตสนับสนุนงบประมาณให้เรือนจำจังหวัดภูเก็ตจำนวน 96,000 บาท เพื่อติดตั้งกล้อง CCTV หรือกล้องวงจรปิด บริเวณรั้วกำแพงของเรือนจำจังหวัดภูเก็ต จำนวน 12 ตัว เพื่อป้องกันการลักลอบโยนโทรศัพท์มือถือ ยาเสพติด ให้กับผู้ต้องขัง ภายในเรือนจำ
ทั้งนี้ เนื่องจากก่อนหน้านี้มีการลักลอบโยนสิ่งของผิดกฎหมายข้าไปในเรือนจำบ่อยครั้ง จึงจำเป็นที่จะต้องมีมาตรการในการเฝ้าระวังป้องกัน ซึ่งนอกจากกำลังเจ้าหน้าที่แล้ว กล้องวงจรปิดก็จะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยป้องกันการลักลอบโยนโทรศัพท์ และยาเสพติดเข้าเรือนจำ โดยขณะนี้การติดตั้งกล้อง CCTV ทั้ง 12 ตัว ได้ดำเนินการเสร็จแล้ว เป็นการติดตั้งตามจุดต่างๆ ทั้งบริเวณกำแพงเรือนจำ และ บริเวณที่ควบคุมผู้ต้องขังคดียาเสพติดรายสำคัญ และ คดีอุกฉกรรจ์ ซึ่งเริ่มใช้งานตั้งแต่วันนี้ (13 ก.ย.) เป็นต้นไป
กล้อง CCTV ทั้ง 12 ตัวนั้นจะเฝ้าตรวจสอบพฤติกรรมของบุคคลที่เข้ามาบริเวณรอบๆเรือนจำจังหวัดภูเก็ต ซึ่งจะเป็นการป้องปรามไม่ให้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น ซึ่งจะเป็นการช่วยป้องกันการลักลอบโยนโทรศัพท์มือถือและยาเสพติดเข้าในเรือนจำได้ระดับหนึ่ง
นายระพินทร์กล่าวว่า ในช่วงประมาณ 5-6 เดือนที่ผ่านมา ในส่วนของเรือนจำจังหวัดภูเก็ตมีการตรวจยึดโทรศัพท์มือถือที่คนร้ายลักลอบโยน เข้ามาในเรือนจำแล้วไม่น้อยกว่า 50 เครื่อง ซึ่งสามารถตรวจยึดได้ก่อนถึงมือผู้ต้องขัง โดยคนร้ายที่ลักลอบโยนโทรศัพท์มือถือให้ผู้ต้องขังพยายามทุกวิถีทางในการส่งโทรศัพท์ให้ผู้ต้องขัง ทั้งใส่ในกล่องไม้ ยัดในตัวหนู ซุกซ่อนในหนังสือ และอื่นๆ การโยนโทรศัพท์ข้ามกำแพงเป็นวิธีที่พบบ่อยที่สุด โดยโยนครั้งละประมาณ 3-10 เครื่อง
อย่างไรก็ตาม หลังมีการตรวจพบว่ามีการลักลอบโยนโทรศัพท์เข้าไปในเรือนจำ เจ้าหน้าที่ได้เพิ่มความเข้มในการตรวจตรวจสอบ แต่ก็ยังมีการลักลอบทำอยู่ ซึ่งที่ผ่านมาไม่สามารถจับกุมตัวผู้กระทำความผิดได้ และเชื่อว่าหลังจากติดตั้งกล้อง CCTV แล้วจะทำให้สามารถติดตามจับกุมคนที่กระทำความผิดได้อย่างแน่นอน พร้อมลดปัญหาการโยนสิ่งผิดกฎหมายเข้าเรือนจำได้ด้วย