ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เรือนจำภูเก็ตตรวจพบโทรศัพท์มือถือ 6 เครื่องบรรจุกล่องไม้ถูกโยนข้ามกำแพงเข้ามา เผยแนวโน้มเพิ่มขึ้น เฉพาะเดือนมีนาฯ 54 ตรวจพบแล้วร่วม 20 เครื่อง พร้อมเตือนญาติอย่าคิดส่งโทรศัพท์ให้นักโทษเพราะไม่ได้ใช้แน่นอน เจ้าหน้าที่จะเพิ่มความเข้มต่อเนื่อง
นายระพินทร์ นิชานนท์ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า วันนี้ (6 เม.ย.) ได้รับรายงานจากทางเจ้าหน้าเวรประจำวันของเรือนจำซึ่งทำการตรวจตราความเรียบร้อยบริเวณโดยรอบเรือนจำจังหวัดภูเก็ตก่อนที่จะมีการเปิดให้ผู้ต้องขังออกมาจากเรือนนอน ซึ่งจากการตรวจสอบพื้นที่พบกล่องไม้ขนาดความยาวประมาณ 1 ฟุต 2 กล่อง ตกอยู่บริเวณด้านข้างรั้วกำแพงเรือนจำด้านหลังโรงงานจักสาน โดยมี 1 กล่องแตกอยู่เนื่องจากแรงกระแทกตอนโยน ทำให้เห็นมีโทรศัพท์มือถือบรรจุอยู่ภายใน จึงนำมาตรวจสอบรายละเอียดทั้ง 2 กล่อง พบภายในบรรจุโทรศัพท์มือถือกล่องละ 3 เครื่อง รวมทั้งหมด 6 เครื่อง พร้อมด้วยอุปกรณ์ต่อพ่วง จึงตรวจยึดไว้เพื่อเป็นหลักฐาน และจะได้แจ้งความดำเนินคดีเพื่อหาผู้กระทำผิดมาลงโทษต่อไป
นายระพินทร์กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่มีการตรวจสอบพบการโยนโทรศัพท์มือถือเข้ามาในเรือนจำอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเมื่อวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมาก็มีการตรวจพบโทรศัพท์มือที่ถูกโยนเข้ามาเพื่อส่งให้กับผู้ต้องขัง 5 เครื่อง และเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตรวจพบโทรศัพท์มือถือที่มีการโยนเข้ามาในเรือนจำแล้วประมาณ 20 เครื่อง และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นกลุ่มที่ต้องการนำมาใช้ในเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เพราะในส่วนของเรือนจำก็มีโทรศัพท์สาธารณะไว้บริการอยู่แล้ว
จึงอยากฝากไปยังผู้ที่คิดจะทำผิด และญาติผู้ต้องขังว่าอย่าทำเช่นนี้อีก เพราะเป็นการเสียเวลาและเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์ เนื่องจากโทรศัพท์ที่โยนเข้ามาในเรือนจำนั้นไม่ถึงมือผู้รับแน่นนอน ส่วนใหญ่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดได้ทั้งหมด ซึ่งอนาคตก็จะได้มีการนำเครื่องตัดสัญญาณโทรศัพท์มาใช้เพื่อป้องกันการลักลอบใช้โทรศัพท์มือถือในเรือนจำ
นายระพินทร์กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาในส่วนของเรือนจำได้มีการจู่โจมตรวจค้นเรือนนอนของผู้ต้องขังมาโดยตลอด ทั้งการใช้กำลังเจ้าหน้าที่ของเรือนจำเองและการใช้กำลังเจ้าหน้าที่จากภายนอกเพื่อเป็นการป้องปรามการกระทำความผิดของผู้ต้องขัง รวมถึงมาตรการอื่นๆ ตามความเหมาะสม โดยปัจจุบันเรือนจำจังหวัดภูเก็ตมีผู้ต้องขังทั้งชายและหญิงจำนวนรวมประมาณ 1,390 คน ประมาณ 80% เป็นผู้ต้องขังที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด
