นราธิวาส - เปิดแถลงข่าวสรุปเหตุจลาจลเรือนจำนราฯ หลังยืดเยื้อ 2 วันเต็ม เผยอาจสร้างเรือนจำใหม่แก้ปัญหาแออัด ส่วนผู้บาดเจ็บ 3 รายต้องรอผลจากแพทย์ว่าเป็นอาวุธชนิดใด
วันนี้ (12 ส.ค.) เมื่อเวลา 17.00 น. พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รองปลัดกระทรวงยุติธรรม และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เปิดแถลงข่าว เพื่อทำความเข้าใจกับสื่อมวลชนในการนำเสนอข่าว กรณีนักโทษชายในเรือนกลางจังหวัดนราธิวาสก่อเหตุจลาจลขณะที่เจ้าหน้าที่ทำการตรวจค้นเรือนนอนเพื่อกวาดล้างยาเสพติด ซึ่งยืดเยื้อมาตั้งแต่เมื่อวานนี้ (11 ส.ค.) ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน
ในที่สุด ตัวแทนนักโทษได้เข้าเจรจากับเจ้าหน้าที่ และมีข้อสรุปร่วมกัน ดังนี้คือ 1.ให้ผู้ต้องหานำอาวุธทุกชนิดมาส่งให้กับเจ้าหน้าที่ พร้อมทั้งให้เจ้าหน้าที่ทุกนายถอนกำลังออกจากพื้นที่ 2.ทางกรมราชทัณฑ์จะเข้าซ่อมแซมเรือนนอนที่เสียหายจากการกระทำของผู้ต้องขัง
3.ให้เจ้าหน้าที่จัดหาอาหาร น้ำดื่ม รวมไปถึงสิทธิขั้นพื้นที่ให้กับผู้ต้องขัง 4.ให้ผู้ต้องขังทุกคนเข้าเรือนนอนตามปกติ และ 5.หากผู้ต้องขังเด็ดขาดรายใดมีความประสงค์จะขอย้ายไปอยู่ยังเรือนจำใกล้ภูมิลำเนา ให้ทำเรื่องขอต่อกรมราชทัณฑ์ ซึ่งจะมีการพิจารณาเป็นกรณีพิเศษ
หลังจากผลการเจรจาเป็นที่สิ้นสุดตัวแทนทั้ง 2 ราย ได้เข้าไปทำความเข้าใจกับผู้ต้องขังทั้ง 1,158 คน จนผู้ต้องขังทุกคนยอมส่งคืนอาวุธ ก่อนเข้าไปอยู่ภายในเรือนนอนของแต่ละคนตามปกติ และในวันพรุ่งนี้ (13 ส.ค.) เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จะเข้าไปตรวจสอบความเสียหายภายในเรือนจำ พร้อมทั้งจะได้เข้าซ่อมแซมเพื่อให้กลับคืนสู่สภาวะปกติต่อไป
คณะทำงานครั้งนี้ เปิดเผยว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นเนื่องมาจากความแออัดภายในเรือนจำจังหวัดนราธิวาส ที่มีผู้ต้องขังจำนวนมาก ซึ่งกระทรวงยุติธรรมจะรีบแก้ไข้ปัญหาความแออัดนี้อย่างเร่งด่วน เช่น การย้ายนักโทษบางส่วนไปอยู่ในเรือนจำอื่น รวมไปถึงการสร้างเรือนจำนราธิวาสหลังใหม่ด้วย
ด้าน นายธนน เวชกรกานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า การดำเนินการในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ใช้วิธีการที่เบาบางที่สุด เพื่อไม่ให้เป็นเงื่อนไขต่อการก่อเหตุร้าย
ส่วนรายงานข่าวว่ามีผู้ต้องขังได้รับบาดเจ็บจำนวน 3 ราย ขณะนี้ต้องรอผลการตรวจสอบจากแพทย์ก่อนว่า บาดแผลนั้นเกิดจากอาวุธชนิดใด
ส่วนการรักษาความปลอดภัย ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ถอนกำลังออกบางส่วนแล้วเหลือเพียงกำลังรอบนอกที่ยังคงตรึงพื้นที่อยู่ ซึ่งโดยปกติแล้วกำลังบางส่วนนี้มีการรักษาความปลอดภัยอยู่รายรอบรั้วกำแพงเรือนจำเป็นจุดๆ อยู่ก่อนหน้าแล้ว ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์จลาจลขึ้น
ส่วนโทรศัพท์มือถือ และยาเสพติดที่ยึดได้ไปก่อนหน้านั้น ขณะนี้จังหวัดนราธิวาสได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาสาเหตุของการเล็ดลอดสิ่งต้องห้ามต่างๆ ที่เข้าไปภายในเรือนจำจังหวัดนราธิวาสแล้ว
