ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - "โลมาอิรวดี" ในทะเลสาบสงขลาลดลงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดพบลูกโลมาเพศเมียตายเพิ่มอีก 1 ตัวในพื้นที่นอกเขตอนุรักษ์และเป็นตัวที่ 6 ในรอบปีนี้
วันนี้ (7 ส.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. นายอุทัย ยอดจันทร์ ประธานชมรมอนุรักษ์โลมาอิรวดีบ้านแหลมหาด ต.เกาะใหญ่ อ.กระแสสินธุ์ จ.สงขลา ได้รับการประสานจากชาวประมงพื้นบ้านว่า พบลูกโลมาอิรวดีตายอีก 1 ตัว ในพื้นที่ทำการประมงนอกเขตอนุรักษ์โลมาบ้านแหลมหาด ม.6 ต.เกาะใหญ่ อ.กระแสสินธุ์ ออกไป 3 กิโลเมตร
โดยชาวประมงได้ลากกลับเข้าฝั่งและพบว่าเป็นลูกโลมาเพศเมียความยาวประมาณ 1 เมตร ยังมีสายสะดือติดอยู่ที่ท้องคาดว่าเป็นลูกโลมาที่คลอดมาไม่เกิน 1 เดือน
นายผัน รอดชุม ชาวประมงกลุ่มอนุรักษ์โลมาอิรวดีบ้านแหลมหาด เปิดเผยว่า พบลูกโลมาตัวนี้ลอยตายอยู่ในทะเลสาบสงขลา โดยที่ตัวแม่โลมายังว่ายน้ำวนเวียนอยู่ใกล้ ๆ กับซากลูกของมันด้วยความเป็นห่วง ส่วนสาเหตุการตายของลูกโลมาตัวนี้คาดว่าอาจจะติดอวนชาวประมง เนื่องจากตามลำตัวมีลักษณะของรอยรัด
อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุนายสันติ นิลวัตน์ นักวิชาการประมงชำนาญการ ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง พร้อมทีมเจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยฯ ได้เดินทางไปนำซากลูกโลมาตัวนี้มาผ่าพิสูจน์หาสาเหตุของการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง เพื่อนำไปใช้วางแผนในการอนุรักษ์
นายสันติ นิลวัตน์ นักวิชาการประมงชำนาญการ เผยว่า ลูกโลมาตัวนี้เป็นโลมาอิรวดีในทะเลสาบสงขลาตัวที่ 6 ที่ตายในรอบปีนี้ หลังจากที่ผ่านมามีโลมาอิรวดีในทะเลสาบสงขลาตายไปแล้ว 13 ตัว ซึ่งสาเหตุการตายส่วนใหญ่เกิดจากติดเครื่องมือประมง
ทั้งนี้ จึงขอความร่วมมือชาวประมงในทะเลสาบสงขลาช่วยกันอนุรักษ์โลมาอิรวดี แม้ทางกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งได้ทำการวางทุ่นในพื้นที่ทะเลสาบสงขลาตอนบนเนื้อที่ 100 ตารางกิโลเมตร เพื่อเป็นเครื่องหมายแสดงเขตที่อยู่ของโลมาอิรวดี ซึ่งจะทำให้โลมาอิรวดีปลอดภัยมากขึ้นแล้ว แต่อาจจะมีโลมาว่ายน้ำออกไปหากินนอกเขตอนุรักษ์ และมีความเสี่ยงที่จะไปติดเครื่องมือทำการประมงสูง ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้โลมาอิรวดีในทะเลสาบสงขลาตายอย่างต่อเนื่องและอยู่ในภาวะเสี่ยงที่จะสูญพันธุ์ในระยะเวลาอันใกล้นี้