ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - พบโลมาอิรวดีท้องแก่อายุประมาณ 15 ปี ในทะเลสาบสงขลาตายอีก 1 ตัว เป็นตัวที่ 4 ในปี 2555 สาเหตุติดอวนชาวประมง วอนชาวประมงวางอวนนอนเขตทุ่นสีชมพู
วันนี้ (18 มี.ค.) นายอุทัย ยอดจันทร์ ประธานชมรมอนุรักษ์โลมาอิราวดีบ้านแหลมหาด ต.เกาะใหญ่ อ.กระแสสินธุ์ จ.สงขลา ได้รับแจ้งจากชาวบ้านที่ประกอบอาชีพประมงในทะเลสาบสงขลาว่า พบโลมาอิรวดีลอยตายอยู่ในทะเลสาบสงขลา พื้นที่บ้านโคกพระ ม.1 ต.โรง อ.กระแสสินธุ์ ห่างชายฝั่งประมาณ 3 กิโลเมตร หลังจากนั้นก็ได้นำเรือออกไปลากซากโลมากลับเข้าฝั่ง พร้อมกับประสานไปยังเจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง มาตรวจสอบ
จากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่า เป็นโลมาเพศเมีย ความยาวประมาณ 2 เมตร น้ำหนักกว่า 100 กิโลกรัม อายุประมาณ 15 ปี เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 4-5 วัน ตามบริเวณลำตัวพบร่องรอยการติดอวนเครื่องมือการทำประมง โดยเจ้าหน้าที่ระบุว่าตัวแม่เป็นโลมาท้องแก่ใกล้คลอด แต่ขณะกำลังออกหากินในทะเลสาบสงขลา เกิดไปติดอวนของชาวประมง โลมาท้องแก่จึงพยายามดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอด เป็นเหตุให้ลูกทะลักหลุดออกมาและเสียชีวิตเนื่องจากมีสายรกติดอยู่กับท้องที่แตก
สำหรับการตายของโลมาอิรวดีในทะเลสาบสงขลาตัวนี้เป็นตัวที่ 4 ในรอบปี 2555 ขณะที่เมื่อปี 2553 โลมาตายไปแล้ว 13 ตัว และปี 2554 โลมาตายไปอีกกว่า 10 ตัว ซึ่งอยู่ในภาวะเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์
นายสันติ นิลวัตน์ นักวิชาการประมงชำนาญการ ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง เปิดเผยว่า การเสียชีวิตของโลมาท้องแก่นี้เป็นตัวที่ 4 ในรอบปีนี้ สำหรับสาเหตุการตาย คือ ติดอวนเครื่องมือประมงเป็นสาเหตุหลัก อยากขอความร่วมมือชาวประมงที่วางอวนปลาบึก ปลาสวาย ให้วางอวนนอกแนวทุ่นสีชมพู เพราะในทะเลสาบสงขลาตอนบน ทางกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งได้วางทุ่นไปแล้ว เนื้อที่ประมาณ 100 ตารางกิโลเมตร ซึ่งทุ่นนี้จะเป็นทุ่นลักษณะสีชมพูลอยอยู่ในทะเลให้เห็น
ทุ่นนี้จะเป็นเครื่องหมายแสดงว่า โลมาอิรวดีในทะเลสาบสงขลาจะอาศัยอยู่ในบริเวณแนวทุ่น หากวางอวนนอกแนวเขต จะทำให้โลมาอิรวดีติดอวนได้น้อยลง ซึ่งจะช่วยโลมาอิรวดีไม่ให้สูญพันธุ์ ส่วนสถานการณ์โลมาอิรวดีในทะเลสาบสงขลาขณะนี้อยู่ในขั้นน่าเป็นห่วง เนื่องจากมีโลมาลดน้อยลงทุกปี