ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล สมาชิกสภาที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ฟันธง “10 ปี” ไฟใต้ลุกโชติช่วง เหตุมีคน 4 กลุ่มได้ประโยชน์จากท่ามกลางไฟใต้ หวั่นทำให้ประชาชนเตรียมลุกฮือให้รัฐจำนน ไทยพุทธเผยเหลือเพียง 60,000 คนที่ยังอยู่ในเขตเมือง แต่ชนบทอพยพแทบสิ้น
นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล สมาชิกสภาที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (สปต.) ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ได้ให้สัมภาษณ์นักข่าวหนังสือพิมพ์อาซาฮี ชิมบุน ประเทศญี่ปุ่น ว่า สถานการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยังคงมีความรุนแรงมากขึ้น ตามที่ขบวนการ บีอาร์เอ็นโคออร์ดิเนต ตั้งเป้าหมายเอาไว้ และยังไม่มีการเปลี่ยนนโยบายและยุทธวิธีในการปฏิบัติการ
“ประเด็นสำคัญในการก่อการร้าย มีนโยบายสร้างความสะพรึงกลัวให้เกิดขึ้นกับประชาชน เพื่อควบคุมมวลชนเอาไว้ เพราะประชาชนในพื้นที่ประมาณร้อยละ 50 ยังยืนอยู่ตรงกลาง ให้ประชาชนเห็นว่ารัฐบาลไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ขบวนการพยายามควบคุมและดึงกลุ่มนี้มาให้ได้ ประชาชนที่ยืนข้างขบวนการร้อยละ 20 และอีกร้อยละ30 อยู่ฝ่ายรัฐ ส่วนผู้ที่นิยมเรื่องการแบ่งแยกดินแดน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะเป็นบุคคลมีความรู้ นักวิชาการ ผู้นำศาสนา และกลุ่มเครือญาติเจ้าเมืองเก่าในอดีต”
นายไชยยงค์ เปิดเผยว่า ยุทธวิธีของขบวนการบีอาร์เอ็นโคออร์ดิเนต ยังใช้ยุทธวิธีกองกำลังแบบกองโจร ทำลายทุกสิ่งที่เป็นของรัฐ วิธีการที่ใช้ก็สลับหมุนเวียน ลักลอบซุ่มโจมตี วางระเบิด คาร์บอมบ์ ตนเชื่อภายใน 10 ปี หากสงครามกองโจรยังมียืดเยื้ออยู่ รัฐบาลจะเป็นผู้แพ้ เพราะประชาชนในพื้นที่ทนไม่ไหว แล้วออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลยอม เพราะปัจจุบันคนไทยพุทธอพยพออกนอกพื้นที่เกือบจะหมด โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบทแทบไม่เหลือ ยกเว้นในเขตเมืองที่ยังมีอยู่เหลือประมาณ 60,000 คน จาก 200,000 คน
“ปัญหาสำคัญอีกประการ คือมีกลุ่มที่ไม่อยากให้ยุติลงมี 4 กลุ่ม มีกลุ่มค้าอาวุธสงคราม กลุ่มการเมืองท้องถิ่น กลุ่มผู้ค้าของเถื่อน และกลุ่มค้ายาเสพติด ขบวนการบีอาร์เอ็นได้รับประโยชน์จากทุกขบวนการค้าของเถื่อน ที่จะต้องจ่ายเงินให้เพื่อจะได้นำเงินไปสร้างกองกำลัง” นายไชยยงค์กล่าวสรุป