ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เครือข่ายวิชาชีพครูแห่งประเทศไทยชี้ไม่มีครูประเทศไหนตกเป็นเหยื่อความขัดแย้งมากเท่าไทย ล่าสุดรายที่ 144 ฝากรัฐบาลใหม่แก้ปัญหาให้ถูกจุด
วันนี้ (7 ส.ค.) นายบุญช่วย ทองศรี ประธานเครือข่ายวิชาชีพครูแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เหตุการณ์ครูเสียชีวิตเนื่องมาจากการก่อเหตุความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2547 จนถึงปัจจุบัน ล่าสุดเป็นรายที่ 144 แล้ว ซึ่งไม่มีประเทศไหนที่เกิดความขัดแย้งและมีครูตกเป็นเหยื่อมากเท่า 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล สมาชิกสภาที่ปรึกษาการบริหารและพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (สปต.ศอ.บต.) เปิดเผยว่า เดือนรอมฎอนมักจะมีเหตุความรุนแรงมากกว่าปกติ โดยฝ่ายกองข่าว กอ.รมน.ภาค 4 ระบุว่าเป็นการปลุกระดมของขบวนการบีอาร์เอ็นให้ก่อเหตุร้ายฆ่าคน เพราะถือว่าจะได้บุญกว่าเวลาปกติถึง 10 เท่า ซึ่งเป็นความเชื่อที่ผิด และในระยะ 7 ปีที่ผ่านมานี้ การแก้ปัญหาเพื่อป้องกันชีวิตครู และการแก้ปัญหาการบิดเบือนคำสอนศาสนายังไม่ได้ผลเท่าใดนัก
นายไชยยงค์กล่าวอีกว่า สุดท้ายเงื่อนไขที่ก่อให้เกิดความรุนแรงคือการอุ้มฆ่า ซึ่งหายไปจาก 3 จังหวัดมากว่า 2 ปีได้กลับมาเกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อเดือน มิ.ย.ที่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา 2 ราย เป็นการสร้างเงื่อนไขความรุนแรงให้เข้าสู่กับดักบีอาร์เอ็นอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากต้องการที่จะเพิ่มสงครามประชาชนให้มากขึ้นรัฐบาลใหม่
“นายกรัฐมนตรีใหม่ คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ที่เข้ามาบริหาร จึงควรนำเอาประเด็นความล้มเหลวทั้งหมดที่เกิดขึ้นในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้สรุปเป็นบทเรียน และสร้างนโยบายใหม่ที่คล้องกับข้อเท็จจริง เพราะจากเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นสรุปได้ว่า การแก้ปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เราเดินไม่ถูกทาง”
วันนี้ (7 ส.ค.) นายบุญช่วย ทองศรี ประธานเครือข่ายวิชาชีพครูแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เหตุการณ์ครูเสียชีวิตเนื่องมาจากการก่อเหตุความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2547 จนถึงปัจจุบัน ล่าสุดเป็นรายที่ 144 แล้ว ซึ่งไม่มีประเทศไหนที่เกิดความขัดแย้งและมีครูตกเป็นเหยื่อมากเท่า 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล สมาชิกสภาที่ปรึกษาการบริหารและพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (สปต.ศอ.บต.) เปิดเผยว่า เดือนรอมฎอนมักจะมีเหตุความรุนแรงมากกว่าปกติ โดยฝ่ายกองข่าว กอ.รมน.ภาค 4 ระบุว่าเป็นการปลุกระดมของขบวนการบีอาร์เอ็นให้ก่อเหตุร้ายฆ่าคน เพราะถือว่าจะได้บุญกว่าเวลาปกติถึง 10 เท่า ซึ่งเป็นความเชื่อที่ผิด และในระยะ 7 ปีที่ผ่านมานี้ การแก้ปัญหาเพื่อป้องกันชีวิตครู และการแก้ปัญหาการบิดเบือนคำสอนศาสนายังไม่ได้ผลเท่าใดนัก
นายไชยยงค์กล่าวอีกว่า สุดท้ายเงื่อนไขที่ก่อให้เกิดความรุนแรงคือการอุ้มฆ่า ซึ่งหายไปจาก 3 จังหวัดมากว่า 2 ปีได้กลับมาเกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อเดือน มิ.ย.ที่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา 2 ราย เป็นการสร้างเงื่อนไขความรุนแรงให้เข้าสู่กับดักบีอาร์เอ็นอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากต้องการที่จะเพิ่มสงครามประชาชนให้มากขึ้นรัฐบาลใหม่
“นายกรัฐมนตรีใหม่ คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ที่เข้ามาบริหาร จึงควรนำเอาประเด็นความล้มเหลวทั้งหมดที่เกิดขึ้นในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้สรุปเป็นบทเรียน และสร้างนโยบายใหม่ที่คล้องกับข้อเท็จจริง เพราะจากเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นสรุปได้ว่า การแก้ปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เราเดินไม่ถูกทาง”