กระบี่ - เจ้าหน้าที่สถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 24 รวบนายทุนใหญ่ พร้อมคนงานชาวพม่า 2 คน ขณะเข้าบุกรุกปักหลักเขตในพื้นที่ป่าชายเลนที่คลองท่อมใต้ จ.กระบี่ เบื้องต้นผู้ต้องหาพยายามต่อรองเจ้าหน้าที่ อ้างเป็นเจ้าของต้นปาล์มที่ปลูกในพื้นที่กว่า 300 ต้น แต่ไม่รู้ว่าอยุ่ในเขตป่าชายเลน เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย
เมื่อเวลา 11.30 น.วันนี้ (16 มิ.ย.) นายสมเกียรติ วรรณบวร หัวหน้าสถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 24 รับแจ้งว่า มีนายทุนนำคนงานบุกรุกปักแนวเขต ในพื้นที่ป่าชายเลน ท้องที่บ้านใต้ ม.7 ต.คลองท่อมใต้ อ.คลองท่อม จ.กระบี่ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยนายทศพร เอ่งฉ้วน ผู้ช่วยหัวหน้าสถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 24 และเจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวน 6 นาย โดยมีนายทรงฤทธิ์ บำรุง ประธานกลุ่มอนุรักษ์ป่าริมเลบ้านเรา พร้อมชาวบ้านในพื้นที่ ร่วมตรวจสอบ
เมื่อไปถึงพบบริเวณดังกล่าว พบมีการบุกรุกปลูกปาล์มน้ำมันอายุประมาณ 4 ปี กว่า 300 ต้นและมีร่องรอยการตัดต้นไม้ใหญ่จำนวนกว่า 20 ต้น รวมเนื้อที่ 14 ไร่ นอกจากนั้นพบคนงานกำลังปักไม้ใผ่ แต้มสีแดง แสดงอาณาเขต เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าทำการจับกุม ได้ผู้ต้องหาทั้งหมด 3 คน ประกอบด้วย นายสมจิตร พิกุล อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 73/1 ม.7 ต.คลองท่อมใต้ นายแสง อายุ 40 ปีและนายทูรย์ อายุ 20 ปี ทั้งสองเป็นคนงานชาวพม่า โดยแจ้งข้อหากระทำผิดพ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 และ พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 ฐานบุกรุก ก่อสร้างแผ้วถาง และทำลายพื้นที่ ป่าชายเลน โดยผิดกฎหมาย
ขณะทำการจับกุม นายสมจิตร ได้อ้างเป็นเจ้าของที่ดินบริเวณดังกล่าว โดยมีหลักฐาน ภบท.5 และในวันนี้ได้คนงานมาปักหลักแนวเขตกันระหว่าปาชายเลนและที่ดินของตน และพยายามที่จะต่อรองกับหัวหน้าที่สถานี โดยอ้างว่า ไม่รู้ว่าอยู่ในเขตป่าชายเลน ขอให้เจ้าหน้าทีไม่ต้องจับกุม และยินดีที่จะจ่ายให้ว่ามา แต่หัวหน้าสถานีไม่ยอมพร้อมสั่งให้เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.คลองท่อม ดำเนินคดีตามกฎหมาย เบื้องต้นนายสมจิตรให้การรับสารภาพ และอ้างว่าเป็นเจ้าของต้นปาล์มน้ำมันที่ปลูกทั้งหมด แต่ไม่รู้ว่าเป็นที่ป่าชายเลน
ด้าน นายสมเกียรติ วรรณบวร หัวหน้าสถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 24 กล่าวว่า สำหรับนายสมจิตร นั้น ถือเป็นนายทุนรายใหญ่ เดิมเป็นคนจังหวัดกาญจนบุรี เคยเป็นทหารเกณฑ์ อยู่ที่ กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 15 คลองท่อม เมื่อประมาณปี 2536 หลังปลดประจำการก็ได้กลับไปทำงานบริษัทแห่งหนึ่งที่เมืองกาญจน์ และได้ว่าจ้างคนงานเข้ามาบุกรุกปลูกปาล์มน้ำมัน และเข้ามาดูเป็นครั้งคราว ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่พยายามติดตามจับกุมตัวหลายครั้ง แต่ไหวตัวทัน จับได้แต่คนงาน จนกระทั่งครั้งนี้เจ้าหน้าที่วางแผนมาเป็นอย่างดี และสามารถจับกุมตัวได้ในที่สุด
เมื่อเวลา 11.30 น.วันนี้ (16 มิ.ย.) นายสมเกียรติ วรรณบวร หัวหน้าสถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 24 รับแจ้งว่า มีนายทุนนำคนงานบุกรุกปักแนวเขต ในพื้นที่ป่าชายเลน ท้องที่บ้านใต้ ม.7 ต.คลองท่อมใต้ อ.คลองท่อม จ.กระบี่ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยนายทศพร เอ่งฉ้วน ผู้ช่วยหัวหน้าสถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 24 และเจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวน 6 นาย โดยมีนายทรงฤทธิ์ บำรุง ประธานกลุ่มอนุรักษ์ป่าริมเลบ้านเรา พร้อมชาวบ้านในพื้นที่ ร่วมตรวจสอบ
เมื่อไปถึงพบบริเวณดังกล่าว พบมีการบุกรุกปลูกปาล์มน้ำมันอายุประมาณ 4 ปี กว่า 300 ต้นและมีร่องรอยการตัดต้นไม้ใหญ่จำนวนกว่า 20 ต้น รวมเนื้อที่ 14 ไร่ นอกจากนั้นพบคนงานกำลังปักไม้ใผ่ แต้มสีแดง แสดงอาณาเขต เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าทำการจับกุม ได้ผู้ต้องหาทั้งหมด 3 คน ประกอบด้วย นายสมจิตร พิกุล อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 73/1 ม.7 ต.คลองท่อมใต้ นายแสง อายุ 40 ปีและนายทูรย์ อายุ 20 ปี ทั้งสองเป็นคนงานชาวพม่า โดยแจ้งข้อหากระทำผิดพ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 และ พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 ฐานบุกรุก ก่อสร้างแผ้วถาง และทำลายพื้นที่ ป่าชายเลน โดยผิดกฎหมาย
ขณะทำการจับกุม นายสมจิตร ได้อ้างเป็นเจ้าของที่ดินบริเวณดังกล่าว โดยมีหลักฐาน ภบท.5 และในวันนี้ได้คนงานมาปักหลักแนวเขตกันระหว่าปาชายเลนและที่ดินของตน และพยายามที่จะต่อรองกับหัวหน้าที่สถานี โดยอ้างว่า ไม่รู้ว่าอยู่ในเขตป่าชายเลน ขอให้เจ้าหน้าทีไม่ต้องจับกุม และยินดีที่จะจ่ายให้ว่ามา แต่หัวหน้าสถานีไม่ยอมพร้อมสั่งให้เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.คลองท่อม ดำเนินคดีตามกฎหมาย เบื้องต้นนายสมจิตรให้การรับสารภาพ และอ้างว่าเป็นเจ้าของต้นปาล์มน้ำมันที่ปลูกทั้งหมด แต่ไม่รู้ว่าเป็นที่ป่าชายเลน
ด้าน นายสมเกียรติ วรรณบวร หัวหน้าสถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 24 กล่าวว่า สำหรับนายสมจิตร นั้น ถือเป็นนายทุนรายใหญ่ เดิมเป็นคนจังหวัดกาญจนบุรี เคยเป็นทหารเกณฑ์ อยู่ที่ กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 15 คลองท่อม เมื่อประมาณปี 2536 หลังปลดประจำการก็ได้กลับไปทำงานบริษัทแห่งหนึ่งที่เมืองกาญจน์ และได้ว่าจ้างคนงานเข้ามาบุกรุกปลูกปาล์มน้ำมัน และเข้ามาดูเป็นครั้งคราว ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่พยายามติดตามจับกุมตัวหลายครั้ง แต่ไหวตัวทัน จับได้แต่คนงาน จนกระทั่งครั้งนี้เจ้าหน้าที่วางแผนมาเป็นอย่างดี และสามารถจับกุมตัวได้ในที่สุด