xs
xsm
sm
md
lg

ชาวกระบี่ร้องนายทุนรุกป่าชายเลนเสียหาย 200 ไร่ แฉทำลายต้นไม้ใหญ่ปลูกปาล์มเตรียมออกเอกสารสิทธิ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กระบี่ - ชาวชุมชนโรงเลื่อยร้องเรียนยังมีการบุกรุกทำลายพื้นที่ป่าชายเลนต่อเนื่องในพื้นที่รอยตอ่ 3 หมู่บ้าน ในตำบลคลองท่อมใต้ อ.คลองท่อม จ.กระบี่ เสียหายแล้วไม่ต่ำกว่า 200 ไร่ แฉทำลายต้นไม่ใหญ่ปลูกปาล์มน้ำมัน เตรียมออกเอกสารสิทธิทับพื้นที่ป่าชายเลนสร้างรีสอร์ตหรู ล่าสุด ชาวบ้านที่เป็นสมาชิกกลุ่มรักป่าริมเลขอถอนตัว เหตุร้องเรียนแล้วไม่คืบแถมยังถูกข่มขู่จากกลุ่มอิทธิพล หวั่นไม่ปลอดภัย

วันนี้ (28 เม.ย.) ชาวบ้านชุมชนโรงเลื่อย ม.2 ต.คลองท่อมใต้ อ.คลองท่อม จ.กระบี่ ร้องเรียนกับสื่อมวลชน ว่า พบการบุกรุกทำลายป่าชายเลนเสียหายจำนวนกว่า 200 ไร่ โดยบริเวณ ป่าชายเลนที่ถูกทำลาย อยู่ริมสองฝั่งคลองในพื้นที่รอยต่อระหว่าง ม.2 บ้านคลองท่อมใต้ ม.6 บ้านคลองขนาน และ ม.7 บ้านใต้

โดยที่ผ่านมา ได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบหลายครั้ง แต่สุดท้ายเรื่องก็เงียบหาย เพราะผู้บุกรุกเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ภายหลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย นายทรงฤทธิ์ บำรุง ประธานกลุ่มรักษ์ป่าริมเลบ้านเรา และชาวบ้านจำนวนหนึ่ง พบบริเวณสองฝั่งคลองมีต้นไม้ป่าชายเลนอุดมสมบูรณ์ มีต้นไม้โกงกางใหญ่อยู่จำนวนมาก แต่เมื่อมองลอดแนวป่าโกงกางริมคลองออกไป พบต้นไม้ถูกโค่นทำลายจำนวนมากบางจุดก็มีการปลูกปาล์มน้ำมันอายุ -3-4 ปี รวมเนื้อที่กว่า 200 ไร่

นายทรงฤทธิ์ บำรุง ประธานกลุ่มรักป่าริมเลบ้านเรา เปิดเผยว่า พบการบุกรุกทำลายป่าชายเลนมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 เมื่อแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบก็ไม่สามารรถจับกุมผู้กระทำผิดได้ เพราะผู้บุกรุกรู้ตัวล่วงหน้าก่อนทุกครั้ง

จนกระทั่งขณะนี้พื้นที่ป่าชายเลนถูกบุกรุกปลูกปาล์มน้ำมันสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้แล้ว รวมเนื้อที่ไม่ต่ำกว่า 200 ไร่ เหลือเพียงตอไม้ใหญ่ เพียงไม่กี่ต้น นอกจากนั้น ก็เป็นสวนปาล์มน้ำมัน และทราบมาว่า จะมีการเตรียมปลูกสร้างรีสอร์ทริมทะเล ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ และนักการเมืองคอยอำนวยความสะดวก ซึ่งตนเชื่อว่าบริเวณดังกล่าว ไม่มีเอกสารสิทธิใดๆ และได้ร้องเรียนไปยังหน่วยงานของรัฐหลายครั้งเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ แต่ไม่คืบหน้า กลับถูกข่มขู่โดยการบอกฝากชาวบ้าน ให้ระวังตัวไว้ จนกระทั่งขณะนี้สมาชิกกลุ่มรักป่าริมเลที่มีอยู่กว่า 30 คนก็ถอนตัวออกไปหมดแล้ว เหลือตนเพียงคนเดียว เพราะถูกข่มขู่ทุกคามตลอด พอแจ้งเจ้าหน้าที่ก็อ้างไม่มีหลักฐาน

ด้าน นายสมเกียรติ วรรณบวร หัวหน้าสถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 24 (คลองท่อม) กล่าวว่า พื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตป่าชายเลนตามประกาศมติ ครม.พ.ศ.2530 รวมเนื้อที่ ประมาณ 1,000 กว่าไร่ ในพื้นที่ ม.2, ม.3, ม.6 และ ม.7 ต.คลองท่อมใต้ อ.คลองท่อม ตั้งแต่ปี2545 เป็นต้นมาเริ่มมีการบุกรุกป่าชายเลน ปลูกปาล์มน้ำมัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจมีการจับกุมดำเนินแล้วเกือบ 20 คดี เนื้อที่บุกรุกกว่า 300 ไร่ ส่วนใหญ่ปลูกปาล์มน้ำมัน มะพร้าว หลังตรวจยึดพื้นที่ได้ขออนุมัติจากจังหวัดเพื่อทำลายอาสิน ตามมาตรา25 พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ แต่ที่ผ่านมา ชาวบ้านร้องกรรมการสิทธิฯ เพื่อให้ทางจังหวัดชะลอการทำลายอาสิน ส่งผลทำให้ผลอาสินโตขึ้นเรื่อยๆ

นายสมเกียรติ กล่าวต่อว่า หลังจากนั้น ตนได้ดำเนินการทำหนังสือขออนุมัติจากนายอำเภอ และผู้ว่าราชการจังหวัดไปอีกครั้ง เพื่อดำเนินการรื้อถอนอาสิน แต่ก็ยังไม่ได้รับการอนุมัติ จึงทำให้เกิดปัญหาตามมา และนอกจากนนี้หลายหน่วยงานก็เข้ามาตรวจสอบต่อเนื่อง ทั้งนี้ เมื่อปลายปี 53 คณะกรรมาธิการสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา ก็ได้เข้ามาดำเดินการ โดยมีมติให้ ที่ดินอำเภอทำการรังวัดแนวเขต ซึ่งอยู่ระหว่างรอผลการรังวัด อย่างไรก็ตาม

ในเบื้องต้น พบว่า พื้นที่บริเวณป่าชายเลนที่จะมีการสำรวจรังวัดแนวเขต ยังมีสภาพป่าอุดมสมบูรณ์มาก มีพื้นที่บางส่วนที่ชาวบ้านมีการอ้างเอกสารสิทธิ น.ส.3 ก.นั้น เป็นพื้นที่ป่าชายเลนที่ยังมีคงวามอุดมสมบูรณ์ ไม่มีการทำประโยชน์ต่อเนื่อง ยังมีต้นไม้ขนาดใหญ่ อายุนับร้อยปี หลายสิบต้น ขอยืนยันว่าไม่มีใครกล้าออกเอกสารสิทธิให้อย่างแน่นอน และการที่เจ้าหน้าที่รังวัดก็ยังต้องรออีกหลายหน่วยงานเข้ามาร่วมดำเนินการ ซึ่งต้นก็ได้รายงานความคืบหน้าไปทางจังหวัดแล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น