สุราษฎร์ธานี- บสย.ใต้ตอนบน 7 จว.อนุมัติสินเชื่อ 5 เดือนแรกแล้วกว่า 900 ล้านบาท ธุรกิจบริการ-ด้านการเกษตรเป็นหลัก ส่วนเป้าตลอดปีตั้งไว้ที่ 4.4 พันล้าน เผย ครม.อนุมัติสินเชื่อ PGS3 กว่า3.6 หมื่นล้าน
นายเทียบจิตต์ จันทรภูติพลากร ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายกิจการสาขา บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ดูแลสำนักงานจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งพื้นที่รับผิดชอบพื้นที่ภาคใต้ตอนบน 7 จังหวัดได้แก่ จ.ประจวบคีรีขันธ์, จ.สุราษฎร์ธานี, จ.ชุมพร, จ.ระนอง , จ.กระบี่, จ.พังงา, จ.ภูเก็ต เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 31 พฤษภาคม 2554 มีอนุมัติค้ำประกันสินเชื่อให้กับผู้ประกอบการธุรกิจเอสเอ็มอีจำนวน 358 ราย วงเงินอนุมัติค้ำประกันรวม 903.87 ล้านบาท
สำหรับจังหวัดที่ได้รับผลการค้ำประกันสูงสุดได้แก่ จ.สุราษฎร์ธานี อนุมัติค้ำประกันจำนวน 112 ราย วงเงิน 263.6 ล้านบาท รองลงมาได้แก่ จ.ภูเก็ต อนุมัติค้ำประกันจำนวน 76 ราย วงเงิน 213.63 ล้านบาท จ.กระบี่ อนุมัติค้ำประกัน จำนวน 48 ราย วงเงิน 77.16 ล้านบาท จ.ระนอง อนุมัติค้ำประกันจำนวน 36 ราย วงเงิน 143.53 ล้านบาท จ.ชุมพร อนุมัติค้ำประกันจำนวน 33 ราย วงเงิน 90.68 ล้านบาท จ.ประจวบคีรีขันธ์ อนุมัติค้ำประกันจำนวน 32 ราย วงเงิน 67.38 ล้านบาท และ จ.พังงา อนุมัติค้ำประกันจำนวน 21ราย วงเงิน 47.9 ล้านบาท
ขณะที่ประเภทธุรกิจส่วนใหญ่ที่มีการอนุมัติค้ำประกัน ได้แก่ ธุรกิจการบริการ ธุรกิจการเกษตร ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ธุรกิจเคมีภัณฑ์/เวชภัณฑ์ และธุรกิจยานยนต์ สำหรับในปีนี้ 2554 ทาง บสย.จังหวัดสุราษฏร์ธานี ได้กำหนดเป้าหมายวงเงินอนุมัติค้ำประกันจำนวนประมาณ 4,400 ล้านบาท
สำหรับศักยภาพพื้นที่ของจังหวัดภาคใต้ตอนบน ธุรกิจอุตสาหกรรมด้านการเกษตร และธุรกิจด้านการท่องเที่ยวและบริการมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นธุรกิจที่ บสย. ตั้งเป้าเข้าไปค้ำประกันสินเชื่อเป็นส่วนใหญ่ในปีนี้ เพราะพื้นที่ภาคใต้ตอนบนมีการลงทุนด้านท่องเที่ยว และอุตสาหกรรมด้านเกษตรเป็นหลัก โดยเฉพาะการลงทุนด้านการท่องเที่ยว มีการขยายตัวทั้ง 2 ฝั่งทะเล ทั้งด้านอันดามัน และอ่าวไทย ซึ่งแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเดินทางแวะเวียนเข้ามาเป็นจำนวนมาก
พร้อมกันนี้ บสย.เปิดตัวโครงการค้ำประกันสินเชื่อ PGS3 3.6 หมื่นล้านบาทหลังจากคณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอให้ บสย.ดำเนินโครงการ Portfolio Guarantee Scheme (PGS) ระยะที่ 3 วงเงินค้ำประกัน 36,000 ล้านบาท ครั้งนี้ สถาบันการเงิน 20 กว่าแห่งทั่วประเทศ พร้อมที่จะให้ความร่วมมือในการช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ตามนโยบายของรัฐบาล
ทั้งนี้ บสย.สามารถค้ำประกัน ช่วยเหลือ SMEs จนเต็มวงเงิน 6 หมื่นล้านบาท ในปีที่ผ่านมา ตามนโยบายกระทรวงการคลัง โดยจะเห็นได้จาก ปริมาณการอนุมัติค้ำประกันให้แก่ผู้ประกอบการรายใหม่ของ บสย.ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด จะเห็นได้จากการขยายตัวของการค้ำประกันในปี 2552 และ 2553 มีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับปี 2551 ที่อยู่ที่ระดับ 3,253 ล้านบาท มาอยู่ที่ 21,558 ล้านบาทในปี 2552 และในปี 2553 อยู่ที่ 42,585 ล้านบาทตามลำดับ ถือเป็นการขยายตัวเพิ่มขึ้นกว่า 13 เท่าตัว ในการค้ำประกันเมื่อเทียบกับปี 51 และปี 53
ปัจจุบันผลการดำเนินงานโดยรวม บสย.ให้การค้ำประกันสินเชื่อแล้วทั้งสิ้น จำนวน 40,952 ราย วงเงิน 115,934.52 ล้านบาท ภาระค้ำประกันคงเหลือ 26,949 ราย วงเงิน 76,999.29 ล้านบาท ธุรกิจย่อยที่จัดอยู่ในหมวดธุรกิจที่มียอดอนุมัติค้ำประกันสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ การบริการ อาหารและเครื่องดื่ม เหล็กผลิตภัณฑ์และเครื่องจักร การผลิตสินค้าและการค้าอื่นๆ และเกษตรกรรม
นอกจากนี้ มติ ครม.ยังอนุมัติวงเงินสินเชื่อ 2,000 ล้านบาท แก่ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมในกลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์ไทย ธุรกิจแฟรนไชส์ และธุรกิจขายตรง ระยะเวลาสิ้นสุดการรับคำขอสินเชื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2554 ที่ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย(ธพว.)
บสย.และสถาบันการเงินชั้นนำของประเทศ ได้เตรียมความพร้อมสำหรับการให้บริการ แก่วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(SMEs) ที่มีศักยภาพแต่ขาดหลักทรัพย์ค้ำประกันในการขอกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงิน เพื่อให้ผู้ประกอบการได้รับอนุมัติสินเชื่อจากสถาบันการเงินในวงเงินที่เพียงพอกับความต้องการ โดยผู้ประกอบการที่มีความสนใจที่จะใช้บริการค้ำประกัน โครงการ Portfolio Guarantee Scheme (PGS) ระยะที่ 3 วงเงินค้ำประกัน 36,000 ล้านบาท สามารถติดต่อสอบถาม บสย.สำนักงานสาขาสุราษฎร์ธานี โทร 0-7721-9801-2