xs
xsm
sm
md
lg

ปิดแล้วการลาดตระเวนร่วมกองกำลังไทย-มาเลเซีย ครั้ง 23 ที่เบตง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ยะลา - ทำพิธีปิด และ “การลาดตระเวนร่วมแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย” ครั้งที่ 23 ที่ทั้งทหาร และ ตชด.ฝ่ายไทย ได้ปฏิบัติการร่วมกับกองกำลังฝ่ายมาเลเซียมาเป็นเวลา 13 วัน เผยบรรลุเป้าหมายการแก้ปัญหาชายแดนของ 2 ประเทศ

วันนี้ (13 พ.ค.) ที่บริเวณหลักเขตแดนที่ 53/100 บ้านซาโห่ ต.ธารน้ำทิพย์ อ.เบตง จ.ยะลา พ.ท.วิรัช วทัญญู หัวหน้าแผนกป้องกันชายแดน ฉก.ยะลา นายคุณวุฒิ มงคลประจักษ์ นายกเทศมนตรี เมืองเบตง พ.ต.ท.เชษฐ์วิทย์ นีระฮิง ผบร้อย ตชด.4456 เบตง พร้อมด้วย พันตรี จาเกเตสัน (JEPIASON) รองผู้บังคับการกองพลน้อยป้องกันชายแดนประเทศมาเลเซีย พร้อมคณะ เดินทางไปเป็นประธานร่วมในพิธีปิดการลาดตระเวนร่วมแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย ครั้งที่ 23 พื้นที่ B ยะลา-เปรัค โดยมีหัวหน้าส่วนราชการทั้งสองประเทศเข้าร่วมในการปิดการลาดตระเวนในครั้งนี้

การลาดตระเวนร่วมแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย ได้ทำการลาดตระเวนมาตั้งแต่วันที่ 1-13 พ.ค.2554 โดยมีกำลังพลทั้งสองประเทศรวม 60 นาย เพื่อเป็นการปฏิบัติการทางทหารในลักษณะของชุดปฏิบัติการหน่วยทหารขนาดเล็กทั้งสองประเทศ สามารถปฏิบัติการในลักษณะของการลาดตระเวนหาข่าว การลาดตระเวนป้องกันการลักลอบนำยาเสพติดเข้าประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นที่ว่างงานและผู้ใช้แรงงานตามแนวชายแดน

การป้องกันปัญหาบุคคลสองสัญชาติ เนื่องจากประชาชนของทั้งสองประเทศตามแนวชายแดนส่วนใหญ่เป็นเครือญาติกันสามารถเข้า-ออกได้ตลอดเวลา ซึ่งบุคคลที่ถือสองสัญชาติทำให้เกิดปัญหาเมื่อมีการกระทำผิดกฎหมายแล้วหลบหนีไปอีกประเทศหนึ่ง

การป้องกันลักลอบหลบหนีเข้าเมือง เนื่องจากปัจจุบันยังมีการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองของบุคคลต่างด้าวสัญชาติต่างๆ เพื่อเข้าไปขายแรงงานในประเทศเพื่อนบ้าน และปัญหาการลักลอบขนสินค้าหลบหนีภาษีของพ่อค้าบางกลุ่มที่ต้องการผลประโยชน์ โดยไม่คำนึงถึงข้อกฎหมาย รวมทั้งการลาดตระเวนหากพบเป้าหมายหรือปะทะกับข้าศึก และเข้าทำการช่วยเหลือหน่วยที่อยู่ในพื้นที่เมื่อได้รับการร้องขอ ตลอดทั้งพิทักษ์ประชาชนและทรัพยากรในพื้นที่

พ.ท.วิรัช วทัญญู หัวหน้าแผนกป้องกันชายแดน ฉก.ยะลา ได้กล่าวให้โอวาทในการปิดการลาดตระเวนร่วมในครั้งนี้ว่า ปัจจุบันผู้ก่อการร้ายได้พยายามทุกวิถีทางที่จะบ่อนทำลายประเทศชาติ โดยใช้กำลังทำการก่อความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งการลาดตระเวนตามแนวชายแดนจำเป็นที่จะต้องมีการร่วมมือกันทุกฝ่าย ทั้งทหาร ตำรวจ พลเรือน และอาสาสมัครทุกรูปแบบ

“เพราะฉะนั้นการลาดตระเวนร่วมแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย ซึ่งจะต้องปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่แนวชายแดนที่ยากลำบากเป็นป่าและภูเขา จึงถือว่ามีความสำคัญมากในการป้องกันประเทศ” พ.ท.วิรัช กล่าว

แต่อย่างไรก็ตาม การลาดตระเวนร่วมในห้วงที่ผ่านมา ทำให้ทราบว่า การลาดตระเวนร่วมในครั้งนี้ได้บรรลุวัตถุประสงค์ทั้งสองประเทศที่ได้กำหนดไว้ และดำรงไว้ซึ่งความสัมพันธ์อันดีของกำลังป้องกันชายแดนของทั้งสองประเทศ ซึ่งจะทำให้การแก้ไขปัญหาตามแนวชายแดนในทุกมิติเป็นไปอย่างสอดคล้องและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

กำลังโหลดความคิดเห็น