ตาก - กะเหรี่ยงอพยพเริ่มทยอยกลับบ้านแล้ว หลังพม่าไล่ตีฐานที่มั่น DKBA กระเจิง พร้อมเตรียมนำชนเผ่า “ม้ง” เข้าครองพื้นที่เป็น “กันชน” แทน หลังทำสำเร็จมาแล้วหลายจุดตลอดแนวชายแดนตรงข้ามเมืองตาก
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตาก ว่า การกวาดล้างชนกลุ่มน้อยกระเหรี่ยงดีเคบีเอ สังกัดกองพลน้อยกลูโบ๊ะ ทู และ เคเอ็นยู โดยเฉพาะค่ายอะซิน ซึ่งอยู่ทางใต้บ้านใจโด่งประมาณ 25 กม.เป็นกองบัญชาการใหญ่ของกองกำลังชนกลุ่มน้อยเคเอ็นยู และ ดีเคบีเอ ภายใต้การนำของ พ.อ.นะคะมุย โดยตลอดสองวันที่ผ่านมา ทหารพม่าสามารถยึดพื้นที่ตรงข้าม อ.อุ้มผาง ของชนกลุ่มน้อย รวมทั้งเผาค่ายทิ้งทั้งหมด ทำให้ตั้งแต่คืนวันที่ 6 พ.ค.54 เป็นต้นมา เสียงปืนใหญ่เริ่มสงบ
ทั้งนี้ การกวาดล้างอย่างต่อเนื่อง เพราะพม่าต้องการความปลอดภัยในพื้นที่ตลอดแนวชายแดนตาก เพื่อการเปิดด่านเมียวดี ส่วนกองกำลังชนกลุ่มน้อยที่แตกทัพได้กลายเป็นกลุ่มกองโจรคอยซุ่มโจมตีทหารพม่าบางส่วน โดยกำลังที่เหลือส่วนใหญ่ได้มุ่งหน้าไปทางใต้เข้าเมืองพญาตองซู จ.กาญจนบุรี
นายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก กล่าวว่า ขณะนี้บริเวณพื้นที่ตรงข้าม อ.อุ้มผาง เสียงปืนเริ่มสงบ เพราะทหารพม่ายึดพื้นที่จากชนกลุ่มน้อยกะเหรี่ยงได้เบ็ดเสร็จ รวมทั้งวางกำลังครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด และได้ประสานทางอำเภออุ้มผาง และ ตชด.กองร้อย 3473 ให้แจ้งผู้อพยพชาวพม่าให้เดินกลับได้แล้ว โดยทางทหารพม่าจะรับรองความปลอดภัย ซึ่งก็ได้รับการตอบรับที่ดี เพราะผู้อพยพเริ่มทยอยกลับกันจำนวนมาก เนื่องจากเป็นห่วงบ้านและทรัพย์สินที่นำมาไม่ได้ ซึ่งตนได้สั่งการนายเชวงศักดิ์ ใจคำ นายอำเภออุ้มผางเข้าไปอำนวยความสะดวกให้กับผู้อพยพ จนถึงขณะนี้ยังเหลืออยู่ที่สำนักสงฆ์บ้านเปิงเคลิ่งประมาณ 300 คน
นายสามารถ ยังกล่าวอีกว่า ทหารพม่าได้ใช้ยุทธวิธีใหม่ คือหลังจากยึดพื้นที่ของทหารกะเหรี่ยงได้แล้ว จะนำมวลชนม้งจากประเทศลาว เข้าไปอยู่เป็นกันชนป้องกันทหารกะเหรี่ยงกลับมายึดพื้นที่คืน ซึ่งพม่าทำสำเร็จแล้วคือหมู่บ้านฝั่งตรงข้ามบ้านวาเล่ย์ ต.วาเล่ย์ อ.พบพระ ที่พม่านำม้งลาวประมาณ 50 ครอบครัวเข้ามาอยู่แทน พร้อมกับตั้งหมู่บ้านขึ้นมาใหม่เป็นหมู่บ้านวาเล่ย์ใหม่ ซึ่งฝั่งไทยคือบ้านวาเล่ย์เหนือนั่นเอง
ยุทธวิธีแบบนี้ทำให้พื้นที่ตลอดแนวชายแดน ตั้งแต่ที่ บ้านโก๊กโก่ ตรงข้าม อ.แม่ระมาด เมียวดี บ้านห้วยน้ำนัก บ้านแม่โกนเกน ตรงข้าม อ.แม่สอด และบ้านวาเล่ย์ บ้านแม่ออกฮู ตรงข้าม อ.พบพระ เกิดความสงบมากว่า 2 เดือนแล้ว และพื้นที่บ้านใจโด่ง ตรงข้ามบ้านเปิงเคลิ่ง ของไทย พม่าก็จะนำมวลชนชาวม้งเข้ามาอยู่แทนเช่นกัน
