ตาก - ชาวกะเหรี่ยงสัญชาติพม่าหนีตายทะลักเข้าไทยไม่หยุด หลังกองกำลังทหารพม่าบุกยึดกองพันที่ 18 ดีเคบีเอ ได้ ล่าสุด ทำให้ยอดผู้อพยพมีมากกว่า 1,200 คนแล้ว และบางส่วนเริ่มมีอาการเจ็บป่วยเกิดขึ้น
เจ้าหน้าที่ระดับสูงกองกำลังกะเหรี่ยงพุทธเพื่อประชาธิปไตย (DKBA) แจ้งว่า ทหารพม่าเข้าไปโจมตีกองกำลังทหารกะเหรี่ยงพุทธเพื่อประชาธิปไตย (DKBA) อีกระลอกหนึ่ง หลังจากที่เข้าโจมตีด้วยอาวุธหนักไป แล้ว 2-3 ครั้ง ในรอบ 2 วันที่ผ่านมา ส่งผลให้ชาวบ้านเสียชีวิต 2 ราย ทหารดีเคบีเอ.ตาย 2 บาดเจ็บ 8 ราย ทหารพม่าสามารถยึดค่ายดีเคบีเอ กองพันที่ 18 ได้ รวมทั้งได้เผาทำลายค่ายดังกล่าวจนหมด ขณะที่กำลังทหารกะเหรี่ยงดีเคบีเอ.และทหารกะเหรี่ยงเคเอ็นยู ได้ล่าถอยจากค่าย เพื่อมุ่งหน้าเข้าพื้นที่ชายแดนด้าน อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นปราการสุดท้ายของ พ.อ.นะคะมุย ผู้บังคับการกองกำลังทหารกะเหรี่ยงพุทธเพื่อประชาธิปไตย
นายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก กล่าวว่า เหตุปะทะดังกล่าวทำให้มีผู้อพยพชาวกะเหรี่ยงสัญชาติพม่า ทะลักเข้ามาที่บ้านนุกาโถวา บ้านสะคานเต๊ะ บ้านใจโด่ง อ.อุ้มผาง จ.ตาก กว่า 1,200 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในฝั่งพม่า ตรงข้ามบ้านเปิ้งเคิ่ง ตำบลแม่จัน อ.อุ้มผาง โดยกระจัดกระจายไปตามจุดต่างๆ ตามแนวชายแดน และมีมากกว่า 700 คน ที่มาอาศัยบริเวณสำนักสงฆ์บ้านเปิงเคลิ่ง และตามเส้นทางเข้าบ้านเปิงเคลิ่ง ต.แม่จัน ขณะที่ยังมีอีกบางส่วนกำลังทยอยขนทรัพย์สิน ข้ามเข้ามาฝั่งไทยอย่างไม่ขาดสาย เนื่องจากทหารพม่าเข้ายึดพื้นที่บริเวณดังกล่าวเกือบหมด เพราะหวั่นว่าทหารพม่าจะทำร้ายหรือจับกุมตัว
ในขณะที่ทหาร ฉก.ร.4 และ ตชด.ที่ 347 ได้จัดกำลังเข้าไปดูและสกัดกั้นไม่ให้ทหารกะเหรี่ยงหลบข้ามมาโดยปะปนกับผู้อพยพ
นายเชวงศักดิ์ ใจคำ นายอำเภออุ้มผางได้ส่งเจ้าหน้าที่ อส.เข้าดูแลช่วยเหลือภายในศูนย์อพยพชั่วคราวสำนักสงฆ์บ้านเปิงเคลิ่ง ในเบื้องต้นพบว่า จำนวนผู้อพยพมากเกินไปทำให้อยู่อย่างแออัด จึงได้สร้างเพิงพักชั่วคราวขึ้นมาเพิ่มที่บริเวณพื้นที่ใกล้เคียง ในขณะที่เอ็นจีโอที่อยู่ในศูนย์อพยพบ้านนุโพ อ.อุ้มผาง ได้เข้าไปดูแลให้ความช่วยเหลือผู้อพยพในด้านเวชภัณฑ์และยารักษาโรค ซึ่งผู้อพยพบางส่วนที่เป็นเด็กและคนชราเริ่มเจ็บป่วยกันบ้างแล้ว
