พม่าถล่มกะเหรี่ยงตรงข้ามอุ้มผาง ทำชาวบ้านหนีตายเข้าไทยวุ่น

ตาก - พม่าเคลื่อนกำลังถล่มฐานกะเหรี่ยงตรงข้ามอุ้มผาง ห่างจากพรมแดนไทย-พม่า แค่ 30 กม.ทำให้ชาวบ้านอพยพหนีตายเข้าไทยกว่า 400 คน

วันนี้ (3 พ.ค.) มีรายงานข่าวจากสถานการณ์ชายแดนไทย-พม่า ด้านจังหวัดตาก แจ้งว่า ทหารรัฐบาลพม่า พร้อมอาวุธยุทโธปกรณ์ ได้เคลื่อนเข้าโจมตีค่ายของกองกำลังทหารกะเหรี่ยงพุทธเพื่อประชาธิปไตย (DKBA) กองพันที่ 18 ภายใต้การบังคับบัญชาของ พล.ต.นะคะมุย บริเวณบ้านใจโด่ง ห่างจากชายแดนไทยตรงข้ามบ้านเปิงเคลิ่ง ต.แม่จัน อ.อุ้มผาง ประมาณ 30 กม.อยู่

โดยทั้งสองฝ่ายมีการยิงปืนใหญ่ถล่มใส่กันตลอดตั้งแต่กลางดึกเป็นต้นมา ส่งผลให้มีราษฎรบ้านกะมาเคลอะ บ้านแม่นะอะ และบ้านใจโด่ง จำนวน 415 คนซึ่งเป็นเด็ก สตรีและคนชรา ได้อพยพหนีตายข้ามมาหลบภัยที่บ้านเปิงเคลิ่ง บ้านห้วยแดน ต.แม่จัน

ล่าสุด ทางกองร้อย ตชด.ที่ 3473 ได้เข้าไปตรวจสอบเบื้องต้นรวมทั้งได้วางกำลังตลอดแนวชายแดนเพื่อป้องกันเหตุร้าย จากนั้นได้ประสานอำเภออุ้มผาง นำผู้อพยพทั้งหมดไปพักที่สำนักสงฆ์บ้านเปิงเคลิ่งเป็นการชั่วคราวแล้ว

นายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ขณะนี้การสู้รบของพม่ากับกะเหรี่ยงในพื้นที่ อ.แม่สอด อ.แม่ระมาด และ อ.พบพระ เริ่มสงบเพราะทหารพม่าได้ยึดพื้นที่ไว้หมดรวมทั้งวางกำลังควบคุมตลอดพื้นที่ คงเหลือ อ.ท่าสองยาง และอุ้มผาง ซึ่งขณะนี้มาการปะทะที่ตรงข้ามบ้านเปิงเคลิ่ง ต.แม่จัน เนื่องจากทหารพม่าเจ้าโจมตีทหารดีเคบีเอ และชนกลุ่มน้อยเคเอ็นยู เพื่อขับไล่ให้ถอยร่นออกจากพื้นที่

ส่งผลให้มีผู้อพยพชาวพม่าหนีเข้าฝั่งไทยกว่า 400 คน ซึ่งได้สั่งการ นายเชวงศักดิ์ ใจคำ นายอำเภออุ้มผาง นำเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลผู้อพยพรวมทั้งให้ความช่วยเหลือในด้านมนุษยธรรม นำอาหาร น้ำดื่มไปแจกจ่ายให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น ซึ่งหากการสู้รบของทหารพม่าและทหารกะเหรี่ยงสงบก็จะผลักดันกลับทันที