ตาก - กองกำลังทหารกะเหรี่ยงพุทธ DKBA จับมือ KNU ส่งกำลังเสริมโจมตีทหารพม่าที่ชายแดนไทย-พม่า ตรงข้ามอุ้มผางต่อเนื่อง หวังตีคืนพื้นที่ ป้องผลประโยชน์ภาษีเถื่อนจากแร่
พ.ต.อ.รุ่งสุริยา เผือกประพันธ์ ผู้กำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 34 ตาก กล่าวถึงสถานการณ์การสู้รบระหว่างทหารพม่ากับทหารกะเหรี่ยง DKBA บริเวณบ้านใจโด่ง ในประเทศพม่า ซึ่งตั้งอยู่ห่างชายแดนไทยบ้านเปิงเคลิ่ง ต.แม่จัน อ.อุ้มผาง ประมาณ 30 กม.ที่ทำให้มีผู้อพยพชาวกะเหรี่ยงสัญชาติพม่า นับพันคนทะลักเข้ามาในพื้นที่บ้านเปิงเคลิ่ง ซึ่งทางราชการต้องนำผู้อพยพทั้งหมดไปอยู่ที่สำนักสงฆ์บ้านเปิงเคลิ่ง เป็นการชั่วคราว นอกจากนี้ ยังมีบางส่วนที่อาศัยตามชายป่าแนวตะเข็บชายแดนฝั่งไทย ว่า ขณะนี้แม้ทหารพม่าจะเข้ายึดพื้นที่ค่ายทหารกองกำลังทหารกะเหรี่ยงพุทธเพื่อประชาธิปไตย (DKBA) ได้ทั้งหมดแล้วก็ตาม
แต่กองกำลังทหาร DKBA และกองกำลังสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยงอิสระ KNU ขณะนี้กลายเป็นพันธมิตรกันแล้ว หลังจากถูกทหารพม่าไล่ต้อนจนเกือบจนมุม ได้นำกำลังทหารกะเหรี่ยงจากค่ายอะชิน ของเคเอ็นยู ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านใจโด่งประมาณ 25 กม.เข้าซุ่มโจมตีทหารพม่าอย่างต่อเนื่อง เสียงปืนได้ยินถึงฝั่งไทย แต่ไม่มีกระสุนตกเข้ามาทางฝั่งไทยแต่อย่างใด และตนได้สั่งการกองร้อย ตชด.ที่ 3473 นำกำลังเข้าไปควบคุมสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รวมทั้งควบคุมผู้อพยพให้อยู่ในพื้นที่จำกัด
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า พื้นที่ทางบ้านใจโด่ง อดีตเป็นพื้นที่ยึดครองของ DKBAเพราะบริเวณดังกล่าวมีเหมืองแร่สังกะสีและแร่เหล็ก ซึ่งมีนายทหารไทยนอกราชการทำอยู่ และจ่ายภาษีเถื่อนให้กับทหาร ดีเคบีเอ เมื่อทหารพม่าเข้ายึดจึงเกิดการสู้รบชิงพื้นที่อย่างรุนแรง เพราะต้องการปกครองผลประโยชน์จากการให้สัมปทานแร่ดังกล่าว
