ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ชาวบ้านมอญ ป่าตองกว่า 200 คน รวมตัวประท้วงไม่เอาอุโมงค์ป่าตอง ส่งผลกระทบต่อวิถีชุมชนบ้านมอญ เสนอขยายถนนเป็น 4 เลนแทน ขณะที่กลุ่มบริษัทที่ปรึกษายืนยันทางเลือกที่ 2 เหมาะสมสุด ปรับเปลี่ยนรูปแบบให้กระทบชาวบ้านน้อยสุด
เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (9 พ.ค.) ที่ห้องประชุมชั้น 4 ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลเมืองป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต บริษัท เอพซิลอน จำกัด ร่วมกับ ศูนย์วิศวกรรมพลังงานและสิ่งแวดล้อม คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บริษัท แพลนโปร จำกัด จัดรับฟังความคิดเห็นกลุ่มย่อยครั้งที่ 2 การศึกษาความเหมาะสมทางด้านเศรษฐกิจ สังคม วิศวกรรม และผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการก่อสร้างทางหลวงแนวใหม่เชื่อมต่อกะทู้-ป่าตอง ซึ่งมีประชาชนในพื้นที่ป่าตองทั้งกลุ่มที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับโครงการดังกล่าวมาร่วมแสดงความคิดเห็น
โดยเฉพาะประชาชนจากชุมชนบ้านมอญ ที่ไม่เห็นด้วยกับโครงการนี้มาตั้งแต่ต้น ได้รวมตัวกันประมาณ 200 คน เดินทางมายังศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเพื่อคัดค้านพร้อมกับปราศรัยไม่เอาโครงการขุดอุโมงค์ป่าตอง เนื่องจากโครงการดังกล่าวต้องตัดผ่านชุมชนบ้านมอญทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน
ชาวบ้านมอญยืนยันไม่เอาอุโมงค์
เสนอขยายถนนเป็นสี่เลน
นายพาณิช สมบัติ แกนนำชาวบ้านมอญ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต กล่าวถึงการคัดค้านการขุดโมงค์ป่าตอง ว่า ขณะนี้ในส่วนของชาวบ้านบ้านมอญไม่ต้องการโครงการขุดอุโมงค์ที่ตัดเข้ามาในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นทางเลือกใดก็ตาม เนื่องจากถ้ามีการตัดอุโมงค์เข้ามาชุมชนบ้านมอญจะได้รับผลกระทบโดยตรง
โดยเฉพาะวิถีชีวิตของคนในชุมชน สำหรับชุมชนชาวบ้านมอญนั้นเป็นชุมชนเก่าแก่ที่ชาวบ้านอาศัยมาเป็นเวลานานแล้ว ถ้ามีการตัดอุโมงค์ก็จะส่งผลกระทบทำให้ชุมชนเก่าแก่ที่เหลืออยู่เพียงชุมชนเดียวสูญหายไปอย่างแน่นอน ส่วนการเวนคืนนั้นราคาที่ได้มาเชื่อว่าชาวบ้านไม่สามารถที่จะไปหาซื้อบ้านสำหรับอยู่อาศัยได้ นอกจากนั้น อาชีพของชาวบ้านก็จะถูกทำลาย รวมทั้งเรื่องของสิ่งแวดล้อม
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของแนวทางในการแก้ไขปัญหาและลดอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนั้น นายพาณิช กล่าวว่า ในส่วนของชาวบ้านได้นำเสนอแนวทางในการปรับปรุง และขยายถนนทางขึ้นเขาป่าตองให้กว้างขึ้น โดยตัดเป็นถนนสี่เลน และตัดถนนคู่ขนานขึ้นมาอีกเส้นทางหนึ่งเชื่อมจากถนนผังเมืองสาย ก.มายังเขากมลาเชื่อว่าจุดนี้ก็น่าจะสามารถแก้ไขปัญหาและลดอุบัติเหตุได้
ขณะที่ นายธัชพล ขมิ้นทอง ชาวบ้านชุมชนบ้านมอญ กล่าวว่า ชาวบ้านชุมชนบ้านมอญไม่เอาโครงการขุดอุโมงค์แน่นอน เพราะถ้ามีการขุดอุโมงค์และปากอุโมงค์มาโผล่ที่ชุมชนบ้านมอญชาวบ้านในชุมชนจะได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก บ้านเรือนจะถูกเวนคืนเงินค่าเวนคืนที่ได้มาก็ไม่สามารถที่จะนำไปซื้อที่ดินเพื่อสร้างที่อยู่อาศัยในพื้นที่ป่าตองได้ และการขุดอุโมงค์ดังกล่าวจะทำลายชุมชนเก่าแก่และเป็นชุมชนดั้งเดิมของป่าตองที่เหลืออยู่เพียงชุมชนเดียว
จึงอยากให้ยกเลิกโครงการขุดอุโมงค์ และหันไปปรุงปรุงถนนให้เป็นถนนสี่เลนแทน รวมทั้งตัดถนนเส้นใหม่เชื่อมจากถนนผังเมืองสาย ก.ด้านป่าต้อง ผ่านทางเทือกเขากมลา และไปลงที่ชุมชนสี่กอฝั่ง อ.กะทู้ซึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหาและลดอุบัติเหตุลงไปได้
นายธัชพล กล่าวต่อว่า การขุดอุโมงค์นั้น ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนอย่างแน่นอน ซึ่งตอนนี้มีชาวบ้านอยู่ในพื้นที่ประมาณ 70 หลังคาเรือน นอกจากนั้นยังเป็นการทำลายระบบนิเวศ ส่วนเรื่องของความปลอดภัยก็เป็นเรื่องสำคัญใช่ว่าเมื่อมีการสร้างอุโมงค์แล้วจะไม่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น ซึ่งจากการศึกษาพบว่าอุโมงค์หลายๆ แห่งในต่างประเทศมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยครั้ง
นอกจากนั้น สิ่งที่จะตามมากับอุโมงค์ คือ คนที่จะใช้เส้นทางนี้ในการเดินทางจะต้องเสียค่าใช้จ่าย นอกจากนั้นเชื่อว่าโดยศักยภาพของท้องถิ่นไม่สามารถดำเนินโครงการดังกล่าวได้เอง และจะต้องให้เอกชนเข้ามาดำเนินการเมื่อเอกชนเข้ามาดำเนินค่าจ่ายในการใช้อุโมงค์เอกชนก็จะเป็นผู้กำหนด ซึ่งราคาเท่าไหร่ยังไม่รู้ คนที่ต้องรับภาระคือประชาชนผู้ใช้เส้นทาง คนบ้านมอยจึงขอยืนยันว่าไม่เอาโครงการขุดอุโมงค์แน่นอน ไม่ว่าจะเปลี่ยนเส้นทางอย่างไรก็ตาม
บริษัทที่ปรึกษายืนยันเส้นทางที่ 2 เหมาะสุด
ปรับให้กระทบ ปชช.น้อยที่สุด
อย่างไรก็ตาม กลุ่มบริษัทที่ปรึกษาได้ชี้แจงทำความเข้าใจกับชาวบ้าน และยังยืนยันว่า ทางเลือกที่ 2 ยังเป็นทางเลือกที่เหมาะสมทั้งในด้านวิศวกรรม การลงทุน และผลกระทบสิ่งแวดล้อม แต่ได้มีการปรับเปลี่ยนการก่อสร้างในเลือกที่ 2 ให้มีผลกระทบต่อชาวบ้านน้อยที่สุด โดยได้มีการปรับเปลี่ยนการก่อสร้างในเลือกที่ 2 ให้มีผลกระทบต่อชาวบ้านน้อยที่สุด ด้วยการปรับแนวลงมาใกล้ถนน 50 ปี เพื่อลดผลกระทบกับราชประชานุสรณ์ และบริเวณชุมชนดั้งเดิม
โดยโครงการเริ่มต้นโดยเบี่ยงออกจากถนนทางหลวงหมายเลข 4029 ที่ประมาณ กม.0+850 มาทางด้านฝั่งช้าย (ฝั่งทิศใต้) เป็นถนนขนาด 4 ช่องทางจราจร ทางแยกบริเวณนี้เป็นทางยกระดับดิน ควบคุมการจราจรด้ว้ยระบบสัญญาณไฟ โดยในอนาคตเมื่อปริมาณการจราจรมากขึ้น อาจก่อสร้างสะพานลอยข้ามแยกตามแนวทางหลวงหมายเลข 4029 เพื่อลดจังหวะของรอบสัญญาณไฟได้
แนวเส้นทางจะเบี่ยงตัวลงทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ และลอดใต้ป่าเขานาคเกิด โดยเข้าสู่ช่วงโครงสร้างปากอุโมงค์ ประมาณ กม.0+565 และเป็นโครงสร้างอุโมงค์ลอดใต้ป่าเขานาคเกิดที่กม.0+600 อุโมงค์ผายออกจนเป็นรูปตัดทั่วไปของอุโมงค์ที่ กม.0+740 และคงระยะห่างไว้ถึงประมาณ กม.1+900 จึงจะเริ่มลู่เข้าหากันจนถึงปากอุโมงค์ที่ กม.2+145 ที่ระดับความสูงประมาณ +45.65 ม.รทก.รวมความยาวอุโมงค์ 1,580 เมตร จากนั้นแนวเส้นทางจะเป็นโครงสร้างสะพานข้ามถนนพิศิษฐ์กรณีย์ยาว 504 เมตร ความยาวช่วงสะพานจำนวน 3 ช่อง โดยสิ้นสุดโครงสร้างที่กม.2+686 และเข้าเชื่อมกับถนนตามผังเมืองรวมสาย ก.ที่บริเวณใกล้อาคาร ARK Resort ฝั่งเหนือ รวมความยาวประมาณ 3.047 กม.