ศูนย์ข่าวภูเก็ต-นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง เผยผลศึกษาความเป็นไปได้ขุดอุโมงค์ป่าตองเสร็จสมบูรณ์อีก 3 เดือน นำเสนอกระทรวงคมนาคมหางบมาลงทุน 5-6 พันล้านบาท ส่วนชาวบ้านที่ออกมาคัดค้านไม่ต้องกังวลค่าเวนคืนที่ดิน เป็นไปตามราคาตลาดอย่างแน่นอน
นายเปี่ยน กี่สิ้น นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการก่อสร้างทางหลวงแนวใหม่กะทู้-ป่าตอง (โครงการขุดอุโมงค์กะทู้-ป่าตอง) ว่า จากการที่เทศบาลเมืองป่าตองได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาทำการศึกษาความเป็นไปได้โครงการขุดอุโมงค์ป่าตอง ซึ่งขณะนี้ผลการศึกษาระบุชัดเจนแล้วว่าทางเลือกที่ 2 เป็นทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด ซึ่งทางเลือกนี้จุดเริ่มต้นของโครงการเริ่มตั้งแต่ประมาณ กม.0+850 ของทางหลวงหมายเลข 4029 ที่บริเวณหน้าสนามแข่งรถ Go-Kart Speedway ซ้อนทับถนนสายเดิมยาวประมาณ 500 เมตร แล้วจะเบี่ยงซ้ายขึ้นไปลอดใต้เขานาคเกิด ซึ่งเป็นอุโมงค์ยาวประมาณ 1,165 เมตร ตัดผ่านถนนพิศิษฐ์กรณียาว 204 เมตร แล้วมาบรรจบถนนผังเมืองสาย ก.ซึ่งเป็นทางยกระดับมีความยาวประมาณ 2.95 กม
ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนที่บริษัทที่ปรึกษากำลังดำเนินการสำรวจ ในเรื่องของความเป็นไปได้ทางวิศวกรรมทั้งในเรื่องของสภาพดิน และผลกระทบสิ่งแวดล้อม ซึ่งคาดว่าทุกขั้นตอนการศึกษาจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ และพร้อมที่จะส่งรายงานผลการศึกษาทั้งหมดให้กับเทศบาลเมืองป่าตองได้ภายในเวลา 3 เดือนนับจากนี้ หลังจากนั้น เทศบาลฯจะนำผลการศึกษาดังกล่าวเสนอไปยังกรมทางหลวงชนบท กระทรวงคมนาคม เพื่อให้ทางกระทรวงคมนาคมเป็นเจ้าภาพในการผลักดันหางบประมาณมาดำเนินการ
นายเปี่ยน กล่าวอีกว่า โครงการขุดอุโมงค์ป่าตองคาดว่าจะต้องใช้งบประมาณในการก่อสร้างไม่ต่ำกว่า 5,000-6,000 ล้านบาท โดยทางเลือกในการลงทุนนั้นมีหลายทางเลือกด้วยกัน ทั้งการลงทุนโดยรัฐบาล การลงทุนโดยนักลงทุนต่างชาติหรือคนไทย รวมไปถึงการร่วมลงทุนระหว่างรัฐบาลและเอกชน แต่โดยส่วนตัวแล้วคิดว่า รัฐบาลน่าจะเป็นผู้ลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน
อย่างไรก็ตาม หากรัฐบาลติดขัดในเรื่องงบประมาณที่จะมาลงทุนการให้เอกชนจากต่างชาติเข้ามาลงทุนก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ซึ่งภายหลังจากที่เทศบาลฯต้องการที่จะผลักดันให้เกิดอุโมงค์ป่าตองปรากฎว่า มีเอกชนจากต่างชาติสนใจเข้ามาลงทุนทั้งเกาหลีและจีน เป็นต้น
นายเปี่ยน ยังกล่าวถึงกรณีที่ชาวบ้านจากชุมชนบ้านมอญออกมาคัดค้านโครงการ เพราะเห็นว่าโครงการดังกล่าวจะกระทบกับวิถีชีวิตของชาวบ้าน ว่า เทศบาลฯและบริษัทที่ปรึกษาได้ชี้แจงทำความเข้าใจกับชาวบ้านไปแล้ว ชาวบ้านก็เข้าใจแต่ยังเป็นห่วงในเรื่องของค่าเวนคืนที่เกรงว่าจะได้ราคาที่ต่ำกว่าราคาตลาด
การเวนคืนที่ดินจากชาวบ้านนั้นตามรัฐธรรมนูญกำหนดไว้แล้วว่าจะต้องเวนคืนในราคาตลาด หากโครงการนี้ดำเนินการก็ต้องเวนคืนในราคาตลาดอยู่แล้ว โดยราคาที่ดินในป่าตองที่อยู่บริเวณถนนสาย ก. ไร่ละ 80 ล้านบาท และหากอยู่ในซอยต่างๆที่ถัดไปจากริมถนนจะอยู่ที่ไร่ละ 10-20 ล้านบาท ซึ่งชาวบ้านไม่ต้องกังวล และเทศบาลฯก็ยืนยันจะผลักดันโครงการนี้ให้เกิดขึ้นให้ได้ เพราะเป็นโครงการที่จะเกิดประโยชน์ต่อภูเก็ตและป่าตอง โดยเฉพาะการลดการสูญเสียจากอุบัติเหตุ จากการใช้รถใช้ถนนบนเขาป่าตองที่เกิดขึ้นปีละจำนวนมากและมีผู้เสียชีวิตจำนวนมากเช่นกัน
