ตรัง - แม้ราคายางพาราจะผันผวนไปมาอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา แต่ธุรกิจจำหน่ายยางรถยนต์และอุปกรณ์เสริมรายใหญ่ของจังหวัดตรังก็ยังคงมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการตามปกติ ซึ่งภายใน 3 เดือนนั้นมีการปรับราคาถึง 2 ครั้งประมาณ 20%
นายวินัย พัฒนโกวิทย์ ผู้จัดการห้างหุ้นส่วนจำกัด พัฒนออโต้ไทร์ ธุรกิจจำหน่ายยางรถยนต์และอุปกรณ์เสริมรายใหญ่ของจังหวัดตรัง ในเครือ Cockpit เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ยางพารามีราคาพุ่งสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ทำให้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจจำหน่ายยางรถยนต์มากพอสมควร เนื่องจากในยางรถยนต์ 1 เส้นจะมีส่วนประกอบของยางพาราถึง 60% ที่เหลือ 40% จะเป็นในส่วนของขดลวด ผ้าใบ และเคมีภัณฑ์ต่างๆ ซึ่งแม้ว่าวิวัฒนาการจะก้าวไกลไปอย่างมากแค่ไหน สัดส่วนของการใช้ยางพาราธรรมชาติก็ยังคงต้องสูงอยู่อย่างนี้ เพื่อรักษาคุณภาพในการผลิตยางรถยนต์
ทั้งนี้ จากสภาวะด้านราคายางพาราที่ผันผวนอย่างมาก ทำให้ทางบริษัทใหญ่ต้องปรับขึ้นราคาจำหน่ายยางรถยนต์มาแล้วถึง 2 ครั้ง รวมประมาณ 20% โดยครั้งแรกเมื่อช่วงเดือนธันวาคม 2553 และครั้งล่าสุดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2554 ที่ผ่านมา หรือเฉลี่ยปรับขึ้นราคาครั้งละ 5-8% อันเป็นผลมาจากวัตถุดิบ หรือต้นทุนจากยางพาราที่สูงขึ้นมาก ทำให้ร้านค้ารายย่อย หรือร้านค้าในเครือข่ายตามสาขาต่างๆ จำเป็นที่จะต้องปรับราคาสินค้าขึ้นตามบริษัทใหญ่ ซึ่งถือเป็นปรากฎการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เนื่องจากปกติการปรับราคายางรถยนต์ จะมีแค่เพียงปีละ 1 ครั้ง และครั้งละ 3-5% เท่านั้น
ผู้จัดการ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พัฒนออโต้ไทร์ เปิดเผยอีกว่า อย่างไรก็ตาม โชคดีที่ลูกค้าส่วนใหญ่ของทางร้านจะอยู่ในภาคใต้ ซึ่งต่างก็รับรู้ถึงสถานการณ์ความเปลี่ยนแปลงด้านราคายางพาราเป็นอย่างดี จึงเข้าใจถึงความจำเป็นที่จะต้องปรับขึ้นสินค้ายางรถยนต์ อีกทั้งเศรษฐกิจหลักของจังหวัดตรังก็ยังขึ้นกับยางพาราด้วย และถ้าสถานการณ์ยางพารายังคงเป็นอยู่เช่นนี้ คือ มีความต้องการสูงแต่มีปริมาณสินค้าน้อย อีกทั้งสภาพเศรษฐกิจโดยรวมยังค่อนข้างจะดีอยู่เช่นนี้ จะส่งผลบวกต่อธุรกิจต่างๆ รวมทั้งยางรถยนต์ ให้เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี 2554
ทั้งนี้ นับตั้งแต่มีการปรับขึ้นสินค้ายางรถยนต์มาแล้ว 2 ครั้ง แต่โดยภาพรวมก็ยังคงมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการตามปกติ เพราะราคาสินค้าภาคการเกษตร โดยเฉพาะยางพารา ยังอยู่ในภาวะที่ดีในระดับหนึ่ง ถึงแม้ว่าสินค้าจำเป็นอย่างอื่นจะต้องปรับขึ้นราคาไปบ้างแล้วก็ตาม ขณะเดียวกัน ทางร้านก็ได้มีการนำกลยุทธ์ต่างๆ มาใช้ เพื่อเป็นการกระตุ้นด้านการตลาดร่วมกับทางบริษัทใหญ่
เช่น มีการแจกแถม หรือลุ้นโชค สำหรับผู้ที่มาซื้อสินค้า อีกทั้งการที่รถยนต์ขายดีมากขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมานี้ ก็ทำให้สินค้ายางรถยนต์มีผลพลอยได้จนเกิดความคึกคักตามไปด้วย
นายวินัย พัฒนโกวิทย์ ผู้จัดการห้างหุ้นส่วนจำกัด พัฒนออโต้ไทร์ ธุรกิจจำหน่ายยางรถยนต์และอุปกรณ์เสริมรายใหญ่ของจังหวัดตรัง ในเครือ Cockpit เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ยางพารามีราคาพุ่งสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ทำให้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจจำหน่ายยางรถยนต์มากพอสมควร เนื่องจากในยางรถยนต์ 1 เส้นจะมีส่วนประกอบของยางพาราถึง 60% ที่เหลือ 40% จะเป็นในส่วนของขดลวด ผ้าใบ และเคมีภัณฑ์ต่างๆ ซึ่งแม้ว่าวิวัฒนาการจะก้าวไกลไปอย่างมากแค่ไหน สัดส่วนของการใช้ยางพาราธรรมชาติก็ยังคงต้องสูงอยู่อย่างนี้ เพื่อรักษาคุณภาพในการผลิตยางรถยนต์
ทั้งนี้ จากสภาวะด้านราคายางพาราที่ผันผวนอย่างมาก ทำให้ทางบริษัทใหญ่ต้องปรับขึ้นราคาจำหน่ายยางรถยนต์มาแล้วถึง 2 ครั้ง รวมประมาณ 20% โดยครั้งแรกเมื่อช่วงเดือนธันวาคม 2553 และครั้งล่าสุดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2554 ที่ผ่านมา หรือเฉลี่ยปรับขึ้นราคาครั้งละ 5-8% อันเป็นผลมาจากวัตถุดิบ หรือต้นทุนจากยางพาราที่สูงขึ้นมาก ทำให้ร้านค้ารายย่อย หรือร้านค้าในเครือข่ายตามสาขาต่างๆ จำเป็นที่จะต้องปรับราคาสินค้าขึ้นตามบริษัทใหญ่ ซึ่งถือเป็นปรากฎการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เนื่องจากปกติการปรับราคายางรถยนต์ จะมีแค่เพียงปีละ 1 ครั้ง และครั้งละ 3-5% เท่านั้น
ผู้จัดการ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พัฒนออโต้ไทร์ เปิดเผยอีกว่า อย่างไรก็ตาม โชคดีที่ลูกค้าส่วนใหญ่ของทางร้านจะอยู่ในภาคใต้ ซึ่งต่างก็รับรู้ถึงสถานการณ์ความเปลี่ยนแปลงด้านราคายางพาราเป็นอย่างดี จึงเข้าใจถึงความจำเป็นที่จะต้องปรับขึ้นสินค้ายางรถยนต์ อีกทั้งเศรษฐกิจหลักของจังหวัดตรังก็ยังขึ้นกับยางพาราด้วย และถ้าสถานการณ์ยางพารายังคงเป็นอยู่เช่นนี้ คือ มีความต้องการสูงแต่มีปริมาณสินค้าน้อย อีกทั้งสภาพเศรษฐกิจโดยรวมยังค่อนข้างจะดีอยู่เช่นนี้ จะส่งผลบวกต่อธุรกิจต่างๆ รวมทั้งยางรถยนต์ ให้เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี 2554
ทั้งนี้ นับตั้งแต่มีการปรับขึ้นสินค้ายางรถยนต์มาแล้ว 2 ครั้ง แต่โดยภาพรวมก็ยังคงมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการตามปกติ เพราะราคาสินค้าภาคการเกษตร โดยเฉพาะยางพารา ยังอยู่ในภาวะที่ดีในระดับหนึ่ง ถึงแม้ว่าสินค้าจำเป็นอย่างอื่นจะต้องปรับขึ้นราคาไปบ้างแล้วก็ตาม ขณะเดียวกัน ทางร้านก็ได้มีการนำกลยุทธ์ต่างๆ มาใช้ เพื่อเป็นการกระตุ้นด้านการตลาดร่วมกับทางบริษัทใหญ่
เช่น มีการแจกแถม หรือลุ้นโชค สำหรับผู้ที่มาซื้อสินค้า อีกทั้งการที่รถยนต์ขายดีมากขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมานี้ ก็ทำให้สินค้ายางรถยนต์มีผลพลอยได้จนเกิดความคึกคักตามไปด้วย
