xs
xsm
sm
md
lg

ราคายาง-ภาวะเงินเฟ้อผลักชาวตรังหันซื้อทองเพื่อความมั่นคง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้ประกอบการร้านทองรายใหญ่ของตรังคาดการณ์ปีนี้ราคาทองคำไม่น่าจะปรับขึ้นเกิน 2,000 บาท แต่ขณะเดียวกันอาจปรับตัวลงก็เป็นได้ด้วย
ตรัง - ผู้ประกอบการจำหน่ายทองคำรายใหญ่ในจังหวัดตรัง ยอมรับสถานการณ์ด้านราคาของยางพารา และภาวะเงินเฟ้อ ทำให้คนตรังหันมาซื้อทองเพื่อสร้างความมั่นคงและอุ่นใจมากขึ้น คาดราคาทองคำในปีนี้จะมีการปรับตัวขึ้น-ลงไม่หวือหวานัก

นายบุญชู ศัยศักดิ์พงษ์ เจ้าของร้านทองตุ้นเฮงหลี ผู้ประกอบการจำหน่ายทองคำรายใหญ่ในจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า แม้ว่าในขณะนี้ราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้นอย่างมาก แต่ก็ยังเป็นสินค้าที่ประชาชนชาวตรังให้ความสนใจเข้ามาซื้อหากันอย่างคึกคัก ซึ่งเป็นผลมาจากราคายางพาราที่ปรับตัวสูงขึ้นมาโดยตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมา นอกจากนั้นยังเป็นความนิยมชอบส่วนตัวเกี่ยวกับเรื่องสินค้าของประดับ ประกอบกับการที่ทองคำมีราคาสูงขึ้นมาอย่างต่อเนื่องด้วย จากเดิมจะอยู่แค่บาทละ 12,000-13,000 บาท แต่ได้มีการปรับตัวสูงขึ้นเป็นบาทละกว่า 20,000 บาทในปัจจุบัน หรือมีการปรับตัวสูงขึ้นประมาณ 30%

ทำให้ผู้คนมีการปรับเปลี่ยนมาออมเงินในรูปแบบทองคำกันมากขึ้น เพราะถือว่ามีแนวโน้มสดใส และคุ้มค่ามากกว่าการออมเงินในรูปแบบอื่นๆ ซึ่งถ้าเป็นการออมเงินในรูปแบบฝากเงินกับทางธนาคารจะได้ดอกเบี้ยแค่ปีละ 2% ต่างกับการออมเงินในรูปแบบทองคำแท่งที่จะได้ดอกเบี้ยสูงถึงปีละ 7-8% ทำให้ร้านทองหลายแห่งสามารถขายทองคำแท่งได้มากขึ้น ยิ่งราคายางพาราพุ่งสูงขึ้นมากเท่าไหร่ เหมือนอย่างเช่นเมื่อช่วงต้นปี 2554 ก็ยิ่งทำให้ทองคำขายดีมากขึ้นตามมาเท่านั้น

ขณะเดียวกัน จากการที่ในขณะนี้เกิดสภาพเงินเฟ้อสูง จึงทำให้ค่าของเงินลดลง แต่ละคนจึงอยากหาลู่ทางเก็บเงินให้มั่นคง และเห็นว่าทองคำเป็นสิ่งที่ดีที่สุด

อย่างไรก็ตาม ในช่วงประมาณกลางเดือนมีนาคม 2554 ที่ผ่านมา ซึ่งราคายางพาราตกลงมาอย่างฮวบฮาบ จากกิโลกรัมละเกือบ 200 บาท เหลือแค่กิโลกรัมละ 60-70 บาทนั้น ก็ทำให้ลูกค้าตามร้านทองต่างๆ หดหายไปอย่างทันตาเห็น โดยเฉพาะในวันแรกที่ราคายางพาราเหลือแค่ที่กิโลกรัมละ 60 บาท ทำให้มีลูกค้าแห่นำทองคำมาเทขายกันเป็นจำนวนมาก และไม่มีการมาซื้อทองคำเลย แต่หลังจากที่ราคายางพาราเริ่มปรับตัวสูงขึ้นอีกครั้ง ลูกค้าตามร้านทองต่างๆ ก็กลับมาคึกคักเหมือนเช่นดังเดิม จึงถือว่าเป็นผลกระทบในช่วงระยะเวลาเพียงสั้นๆ ซึ่งมิได้สร้างความเสียหายที่รุนแรงให้กับผู้ประกอบการ

ทั้งนี้ สำหรับสถานการณ์ด้านราคาทองคำตลอดทั้งปีนี้ โดยความเห็นส่วนตัวเชื่อว่า จะพุ่งสูงขึ้นไม่เกินบาทละ 22,000-23,000 บาท หรือสูงขึ้นกว่าปัจจุบันไม่เกินบาทละ 1,000-2,000 บาท แต่ขณะเดียวกันก็มีแนวโน้มที่ราคาทองคำจะตกลงมาต่ำกว่าบาทละ 20,000 บาทได้ด้วย อันเป็นผลมาจากการที่ประชาชนชาวตรังในยุคปัจจุบันมีการติดตามข้อมูลข่าวสารมากขึ้น และมีความอ่อนไหวต่อสถานการณ์ต่างๆ มากขึ้น ฉะนั้น หากมีปัจจัยอะไรที่รุนแรงนอกเหนือความคาดหมายมากระทบจะมีส่วนทำให้สถานการณ์ด้านราคาทองคำมีความผันผวนโดยง่าย และอาจจะส่งผลให้เกิดการเทขายอย่างถล่มทลายก็ได้เช่นเดียวกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น