xs
xsm
sm
md
lg

ก.พาณิชย์ หนุนการค้า การลงทุน ชายแดนไทย-พม่า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ระนอง- กระทรวงพาณิชย์ จัดงานมหกรรมค้าชายแดนไทย-พม่า ดึงผู้ประกอบการและนักลงทุนไทย-พม่าร่วมเจรจาการค้าที่ระนอง หวังหนุนให้เกิดการค้าการลงทุนระหว่างกันเพิ่มขึ้น

วันนี้ (28 เม.ย.) นางสาวผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ รองอธิบดีกรม การค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เป็นตัวแทนประเทศไทย และ นายขิ่น วิน ประธานหอการค้าจังหวัดเกาะสอง เป็นตัวแทนประเทศพม่า ร่วมประชุมส่งเสริมความสัมพันธ์ความร่วมมือทางการค้าไทย - พม่า ภายใต้งานมหกรรมการค้าชายแดนไทย-พม่า ครั้งที่ 1 โดยมีผู้ประกอบการและนักลงทุนทั้งชาวไทยและชาวพม่า ร่วมเจรจาการค้า ณ โรงแรมทินิดี จังหวัดระนอง

รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ประเทศไทย และ พม่า เป็นเพื่อนบ้านที่มีความใกล้ชิดกันทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม ประกอบกับสภาพภูมิศาสตร์มีพื้นที่จังหวัดชายแดนของไทย 10 จังหวัดที่ติดต่อกับประเทศพม่า ทั้งสองประเทศจึงมีความสัมพันธ์กัน รวมทั้งความร่วมมือภายใต้กรอบ BIMSTEC กรอบความร่วมมือ GMS กรอบยุทธศาสตร์ ACMECS โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ASEAN ที่กำลังก้าวสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ในปี พ.ศ.2558 ประเทศในอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ

รวมทั้งไทย และ พม่า จะมีการลักษณะการค้าขายระหว่างกันโดยไม่มีภาษีศุลกากร ซึ่งจะมีความเสรีมากขึ้น นอกจากนี้ โครงการท่าเรือน้ำลึกทวาย เมื่อก่อสร้างเสร็จก็จะสามารถเชื่อมต่อจากฝั่งตะวันตกของประเทศไทยข้ามไปยังฝั่งตะวันออกจนถึงประเทศเวียดนามได้ จะสามารถสร้างความคึกคักให้กับการค้าการลงทุนของทั้งสองประเทศ

ในช่วงต้นปี 2554 ไทยและพม่ามีมูลค่าการค้าระหว่างกันรวม 22,906 ล้านบาท แบ่งเป็นการส่งออก 9,963 ล้านบาท และนำเข้า 12,943 ล้านบาท สินค้าที่ส่งออก ได้แก่ น้ำมันดีเซล เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รถยนต์และส่วนประกอบ

สำหรับสินค้าที่นำเข้าจากพม่า ได้แก่ ก๊าซธรรมชาติ สัตว์น้ำ ผลิตจากไม้ สินแร่ ทางด้านการลงทุนในประเทศพม่า ประเทศไทยถือเป็นประเทศที่ลงทุนเป็นอันดับต้นๆ ทั้งด้านก๊าซธรรมชาติ น้ำมัน ไฟฟ้า สินค้าเกษตร และประมง รวมถึงโครงการก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกทวายด้วย

รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวอีกว่า การจัดกิจกรรมส่งเสริมความสัมพันธ์ความร่วมมือทางการค้าไทย-พม่า ภายใต้มหกรรมการค้าชายแดนไทย-พม่า ครั้งที่ 1 ที่จังหวัดระนอง ในครั้งนี้จะสามารถส่งเสริมให้ผู้ประกอบการและนักลงทุน ทั้งชาวไทยและชาวพม่าได้มีโอกาสพบปะ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ซึ่งจะนำไปสู่การจับคู่เจรจาธุรกิจกันอย่างต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น