xs
xsm
sm
md
lg

"พาณิชย์"ตั้งเป้าค้าชายแดนปี54โต10%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-“พาณิชย์”ปิดยอดการค้าชายแดนปี 2553 มูลค่ารวม 7.78 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.74% เป็นยอดส่งออก 4.86 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.88% เผยอาฟตา เศรษฐกิจเพื่อนบ้านโต เป็นปัจจัยหนุน ส่วนปีนี้ตั้งเป้าค้าขาย 8.6 แสนล้าน เพิ่มขึ้น 10.5% เหตุเศรษฐกิจเพื่อนบ้านยังโตต่อเนื่อง จับตาปัจจัยเสี่ยง พม่าปิดด่าน ปัญหาชายแดนกัมพูชา
นางสาวผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า การค้าชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งปี 2553 (ม.ค.-ธ.ค.) มีมูลค่ารวม 778,070 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.74% เป็นการส่งออกมูลค่า 486,495 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.88% และนำเข้ามูลค่า 291,475 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.8% โดยไทยเป็นฝ่ายได้ดุลการค้ามูลค่า 194,920 ล้านบาท
ปัจจัยที่ส่งผลให้การค้าชายแดนปี 2553 เพิ่มสูงขึ้น เป็นผลมาจากการที่ไทยและอาเซียนได้มีการเปิดเขตการค้าเสรีอาเซียน (อาฟตา) ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2553 มีการลดภาษีสินค้ากว่า 8,300 รายการเหลือ 0% และเศรษฐกิจประเทศเพื่อนบ้านมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในระดับสูง 5-7% เป็นผลให้มีความต้องการสินค้าเพิ่มขึ้น ทำให้การค้าไทยกับประเทศเพื่อนบ้านในช่วงครึ่งปีแรกขยายตัวสูงขึ้น
ส่วนในช่วงครึ่งปีหลัง การค้าชายแดนแม้จะชะลอตัวลงบ้าง จากการแข็งค่าของเงินบาท ทำให้การค้าชายแดนที่ส่วนใหญ่ทำการค้าด้วยเงินบาท มีผลให้ราคาสินค้าของไทยสูงขึ้น ขณะที่จีนและเวียดนาม ซึ่งเป็นคู่แข่ง โดยจีนได้กดค่าเงินหยวนต่ำกว่าความเป็นจริง เวียดนามลดค่าเงินด่องลง 10% ส่งผลให้สินค้าไทยแข่งขันได้ลดลง แม้คุณภาพจะดีกว่า และยังมีปัญหาการปิดด่านเมียวดีของพม่าตรงข้ามด่านแม่สอด จ.ตาก ซึ่งเป็นด่านที่มีสัดส่วนการส่งออกไปพม่าสูงถึง 60% รวมถึงการเกิดอุทกภัยในพื้นที่ชายแดนใต้ ที่ส่งผลต่อการค้าชายแดนกับมาเลเซีย แต่ก็ไม่ได้ทำให้การค้าในภาพรวมชะลอตัวลง
นางสาวผ่องพรรณกล่าวว่า สำหรับปี 2554 คาดว่าการค้าชายแดนจะยังคงขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะมีมูลค่า 860,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.5% โดยการค้ากับมาเลเซียมีมูลค่า 547,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% พม่า 148,600 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.8% สปป.ลาว 104,600 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% และกัมพูชา 59,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8%
โดยปัจจัยที่จะช่วยสนับสนุนการค้าชายแดนในปี 2554 ได้แก่ เศรษฐกิจประเทศเพื่อนบ้านมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นจากปี 2553 ได้แก่ กัมพูชา 6% สปป.ลาว 7.5% พม่า 5.5% และมาเลเซีย 5% ซึ่งส่งผลให้ประเทศเพื่อนบ้านมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น ขณะที่พม่าหลังจากมีการเลือกตั้งแล้ว รัฐบาลมีท่าทีผ่อนคลายกฎระเบียบที่เข้มงวดทางด้านการค้าลง พร้อมส่งเสริมการลงทุนและการบริโภคของประชาชน มีผลต่อการนำเข้าสินค้าเพิ่มขึ้น และสปป.ลาว มีการก่อสร้างเขื่อนไชยะบุลี ซึ่งจะมีการนำเข้าวัสดุก่อสร้างและน้ำมันเชื้อเพลิงจากไทยเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม ในปี 2554 ยังมีปัจจัยเสี่ยงที่จะกระทบต่อการค้าชายแดน ได้แก่ การปิดด่านเมียวดี ตั้งแต่วันที่ 18 ก.ค.2553 ที่ขณะนี้ยังไม่มีการเปิดทำการ และการสู้รบของชนกลุ่มน้อย DKBA กับทหารรัฐบาลพม่า ที่จะส่งผลกระทบต่อการค้าชายแดน ทางด้านกัมพูชา มีผลกระทบจากปัญหาการเมืองบริเวณชายแดน ทำให้เวียดนามใช้ประโยชน์แย่งชิงส่วนแบ่งตลาดจากไทยเพิ่มมากขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น