ตาก- ชาวบ้านวาเล่ย์เคอร์ฟิวกะเหรี่ยงอพยพ ห้ามออกนอกที่พักหลัง 18.00 น. และก่อเหตุทะเลาะวิวาท ย้ำผู้ให้ที่พักอาศัยต้องคอยควบคุมเข้มงวด หากฝ่าฝืนจับส่งดำเนินคดีทันที
วันนี้ (22 ม.ค.)ที่วัดวาเล่ย์เหนือ บ้านวาเล่ย์เหนือ หมู่ที่ 3 ตำบลวาเล่ย์ อ.พบพระ จ.ตาก นายเสมือน ทองแท่ง ผู้ใหญ่บ้านวาเล่ย์เหนือ ได้ประชุมชาวบ้านที่ให้ผู้อพยพหนีภัยจากการสู้รบระหว่างทหารกะเหรี่ยงดีเคบีเอกับฝ่ายทหารรัฐบาลพม่า เข้าอาศัยอยู่ในพื้นที่ดิน หรือที่อยู่อาศัยของตัวเอง เพื่อทำความเข้าใจกันร่วมกัน
โดยระบุว่า นับแต่เดือนพฤศจิกายนปี 2553 เป็นต้นมา ที่เกิดสถานการณ์การสู้รบขึ้นในฝั่งพม่า ส่งผลกระทบต่อราษฎรบ้านวาเล่ย์เหนือ เพราะมีผู้อพยพหนีภัยจากการสู้รบเข้ามาอาศัยอยู่กับคนรู้จักในหมู่บ้าน และผู้อพยพบางกลุ่มเข้ามาสร้างปัญหาขโมยทรัพย์สินของชาวบ้าน รวมทั้งการดื่มสุรา ของมึนเมาและเกิดการทะเลาะวิวาทกัน
ดังนั้นจึงต้องออกกฎกติกาหมู่บ้านว่า จากนี้ไปให้เจ้าของบ้านคนไทย หรือเจ้าของที่ดิน ต้องคอยควบคุมดูแลไม่ให้ผู้อพยพหนีภัยจากการสู้รบชาวกะเหรี่ยง-พม่า ก่อปัญหาทะเลาะวิวาท ดื่มสุรา และนำจักรยายนต์ หรือยานพาหนะต่างๆ ที่นำมาจากฝั่งพม่าออกจากที่พักหลังเวลา 18.00 น. หากฝ่าฝืนจะดำเนินการยึดยานพาหนะ และหากเข้าข่ายผิดกฎหมายจะดำเนินคดีด้วย โดยชาวบ้านที่เข้าร่วมประชุมเห็นด้วย และลงนามร่วมกันแล้ว
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับสถานการณ์การสู้รบระหว่างทหารรัฐบาลพม่า กับกะเหรี่ยงดีเคบีเอบริเวณตรงข้ามบ้านเงาไฝ่ ตำบลช่องแคบ อ.พบพระนั้น ทหารพม่าเริ่มใช้อาวุธหนักยิงเป็นช่วงๆ ส่วนบริเวณทางการพม่ายังคงปิดท่าข้ามขนส่งสินค้าบริเวณริมแม่น้ำเมย ทั้งทางด้านทิศเหนือ และทิศใต้ ของสะพานมิตรภาพไทย-พม่า ข้ามระหว่างนครแม่สอดกับจังหวัดเมียวดี