ตาก - ชาวบ้านชายแดนพบพระ ลงมติผ่านเวทีประชาคม ไล่กะเหรี่ยงอพยพพ้นหมู่บ้าน ระบุทำคนในชุมชนเดือดร้อน แถมก่อเหตุขโมยทรัพย์สินทุกคืน ราษฎรไทยบ้านวาเล่ย์
วันนี้ (17 ม.ค.) ที่วัดวาเล่ย์เหนือ บ้านวาเล่ย์เหนือ หมู่ที่ 3 ตำบลวาเล่ย์ อำเภอพบพระ จ.ตาก ราษฎรไทยจำนวนกว่า 100 คน ได้เดินทางมาร่วมทำประชาคมหมู่บ้าน โดยมี ร.ท.เฉลิม บุญพรมวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) วาเล่ย์, เจ้าหน้าที่ทหารจากกองร้อยทหารราบที่ 1743 ฐานปฏิบัติการบ้านวาเล่ย์ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4
ราษฎรไทยส่วนใหญ่เห็นว่า ต้องการให้ผู้อพยพที่อาศัยอยู่อย่างอิสระในหมู่บ้านวาเล่ย์เหนือ ออกจากหมู่บ้านไป เนื่องจากผู้อพยพหนีภัยจากการสู้รบได้เข้ามาสร้างความเดือดร้อนให้กับราษฎรไทย และมีการขโมยทรัพย์สิน ซึ่งทางชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) สามารถจับกุมได้เกือบทุกคืน
นายก อบต.วาเลย์ ได้กล่าวกับผู้เข้าร่วมทำประชาคมว่า ปัญหาการสู้รบตามแนวชายแดนไทย-พม่า ได้สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านมานาน และต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ทหาร, เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทุกคน ที่ช่วยกันดูแลในหมู่บ้าน
สำหรับผู้อพยพดังกล่าวมีประมาณ 1,000 คน ได้หนีภัยสงครามจากการสู้รบระหว่างทหารรัฐบาลพม่า กับกองกำลังกะเหรี่ยงพุทธ ดีเคบีเอ-กองกำลังสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยงอิสระ เคเอ็นยู หรือ กะเหรี่ยงคริสต์ บริเวณค่ายวาเล่ย์ ตรงข้ามหมู่บ้านวาเล่ยเหนือ บ้านวาเล่ย์ใต้ โดยเข้ามาอยู่อย่างอิสระ กระจัดกระจายไปทั่วตามแนวชายแดน
วันนี้ (17 ม.ค.) ที่วัดวาเล่ย์เหนือ บ้านวาเล่ย์เหนือ หมู่ที่ 3 ตำบลวาเล่ย์ อำเภอพบพระ จ.ตาก ราษฎรไทยจำนวนกว่า 100 คน ได้เดินทางมาร่วมทำประชาคมหมู่บ้าน โดยมี ร.ท.เฉลิม บุญพรมวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) วาเล่ย์, เจ้าหน้าที่ทหารจากกองร้อยทหารราบที่ 1743 ฐานปฏิบัติการบ้านวาเล่ย์ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4
ราษฎรไทยส่วนใหญ่เห็นว่า ต้องการให้ผู้อพยพที่อาศัยอยู่อย่างอิสระในหมู่บ้านวาเล่ย์เหนือ ออกจากหมู่บ้านไป เนื่องจากผู้อพยพหนีภัยจากการสู้รบได้เข้ามาสร้างความเดือดร้อนให้กับราษฎรไทย และมีการขโมยทรัพย์สิน ซึ่งทางชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) สามารถจับกุมได้เกือบทุกคืน
นายก อบต.วาเลย์ ได้กล่าวกับผู้เข้าร่วมทำประชาคมว่า ปัญหาการสู้รบตามแนวชายแดนไทย-พม่า ได้สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านมานาน และต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ทหาร, เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทุกคน ที่ช่วยกันดูแลในหมู่บ้าน
สำหรับผู้อพยพดังกล่าวมีประมาณ 1,000 คน ได้หนีภัยสงครามจากการสู้รบระหว่างทหารรัฐบาลพม่า กับกองกำลังกะเหรี่ยงพุทธ ดีเคบีเอ-กองกำลังสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยงอิสระ เคเอ็นยู หรือ กะเหรี่ยงคริสต์ บริเวณค่ายวาเล่ย์ ตรงข้ามหมู่บ้านวาเล่ยเหนือ บ้านวาเล่ย์ใต้ โดยเข้ามาอยู่อย่างอิสระ กระจัดกระจายไปทั่วตามแนวชายแดน