พิพากษาประหาร “สมคิด พุ่มพวง” ฆาตกรต่อเนื่อง “แจ็ก เดอะริปเปอร์ เมืองไทย” ฆ่าหมอนวดแผนโบราณสำนวนที่ 5 รับสารภาพชั้นสอบสวน มีเหตุลดโทษเหลือคุกตลอดชีวิต
วันนี้ (28 เม.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ห้องพิจารณา 804 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ ด.3231/2548 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 6 เป็นโจทก์ฟ้องนายสมคิด พุ่มพวง หรือนายชูชาติ ชาญชัย หรือนายชูชาติ กิ่งแก้ว หรือนายชาติ กิ่งแก้ว หรือนายวิชัย พรหมพันธ์ ฆาตกรต่อเนื่องสาวหมอนวด ฉายา “แจ็ก เดอะ ริปเปอร์ เมืองไทย” เป็นจำเลยในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และลักทรัพย์ในเวลากลางคืนหรือรับของโจร ตามประมวลกฎหมายอาญา 288, 335, 357, 91, 92
โดยคดีนี้โจทก์ฟ้องเมื่อวันที่ 21 ก.ย.48 ระบุความผิดจำเลยสรุปว่า เมื่อระหว่างวันที่ 17-19 มิ.ย.48 เวลากลางวัน และกลางคืนต่อเนื่อง จำเลยได้บังอาจใช้มือบีบคอ น.ส.พรตะวัน ปังคะบุตร อาชีพหมอนวดแผนโบราณผู้ตายโดยมีเจตนาฆ่า และได้ลักเอาโทรศัพท์มือถือ 1 รายการของผู้ตาย เหตุเกิดที่ ต.หมากแข้ง อ.เมืองอุดรธานี จ.อุดรธานี
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานนำสืบทั้งสองฝ่ายแล้วเห็นว่า โจทก์มีพนักงานต้อนรับโรงแรมเจริญศรี แกรนด์รอยัล จ.อุดรธานี และพนักงานคาราโอเกะที่ให้บริการภายในโรงแรม รวม 4 ปาก ต่างให้การสอดคล้องกันว่า ระหว่าง 17-19 มิ.ย.48 เห็นจำเลยมาเปิดห้องใช้บริการ โดยเดินทางมาพร้อมกับผู้ตาย ซึ่งจำเลยใช้ชื่อนายชูชาติ ชาญชัย และเมื่อวันที่ 17 มิ.ย.48 เวลา 17.00 น. จำเลยโทรสั่งอาหารมารับประทานที่ห้องพัก และเมื่อนำอาหารมาส่งเวลา 19.00 น. พบจำเลยเป็นผู้เปิดประตูห้อง และมีผู้ตายอยู่ในห้องพักด้วย กระทั่งเวลา 23.00 น. จำเลยและผู้ตายมาใช้บริการที่ห้องคาราโอเกะจนเวลา 01.00 น. มาเรียกเก็บค่าบริการ จำเลยให้เรียกเก็บพร้อมค่าห้องพักในวันที่จะเช็กเอาต์ นอกจากนี้ โจทก์ยังมีพนักงานสอบสวนเบิกความประกอบรายงานคำรับสารภาพของจำเลยในชั้นสอบสวนด้วย
ขณะที่จำเลยนำสืบอ้างว่าช่วงเวลาเกิดเหตุพบผู้ตายเพื่อเจรจาเรื่องหนี้สิน โดยจำเลยและผู้ตายได้พบกับเจ้าหนี้ที่โรงแรมซึ่งพักอยู่ห้องถัดไป แต่ปรากฏว่าเจรจาเรื่องหนี้สินกันไม่ได้
ศาลเห็นว่าแม้โจทก์ไม่มีพยานเห็นเหตุการณ์ที่จำเลยฆ่าผู้ตาย แต่มีพนักงานโรงแรม 4 คน ที่เห็นจำเลยและผู้ตายเดินทางมาพักที่โรงแรม ซึ่งสอดคล้องกับที่จำเลยยอมรับว่าได้เข้าพักที่โรงแรม และได้พบผู้ตายซึ่งได้เดินทางมาด้วยกันตั้งแต่ จ.หนองคาย มายัง จ.อุดรธานี ขณะที่จำเลยรับสารภาพในชั้นสอบสวนด้วย พร้อมนำชี้ที่เกิดเหตุและแสดงวิธีการฆ่าผู้ตายประกอบกับเหตุการณ์ที่เกิดมีรายละเอียดมากและเกิดในหลายช่วงเวลา หลายสถานที่ จึงยากจะแต่งเรื่องและพนักงานโรงแรมก็ไม่มีเหตุโกรธเคืองกับจำเลยมาก่อนเชื่อว่าเบิกความไปตามที่ได้พบเห็นเหตุการณ์ และภายหลังเกิดเหตุจำเลยได้ออกจากโรงแรมไปอย่างเร่งรีบโดยไม่ชำระค่าห้องพัก และค่าบริการอื่นๆ จึงเชื่อว่ามีพฤติการณ์ที่พยายามจะปกปิดความผิดของตัวเอง ขณะที่จำเลยยังได้นำโทรศัพท์ของผู้ตายไปจำนำด้วยตามคำเบิกความของเจ้าของร้านพยานโจทก์
พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามมาตรา 288 และ 334 อันเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรม ให้ประหารชีวิต ฐานฆ่าผู้อื่น ฯ และจำคุกเป็นเวลา 3 ปี ฐานลักทรัพย์โดยให้เพิ่มโทษอีก 1 ใน 3 จึงจำคุกฐานลักทรัพย์เป็นเวลา 4 ปี จำเลยให้การรับสารภาพชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา จึงมีเหตุบรรเทาโทษ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลยฐานฆ่าผู้อื่น ฯ ไว้ตลอดชีวิต และจำคุก 2 ปี 8 เดือนฐานลักทรัพย์ แต่เมื่อรวมลงโทษทุกกรรมแล้วให้จำคุกตลอดชีวิต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีนี้ที่ศาลพิพากษานายสมคิดฐานฆ่าผู้อื่นนั้นเป็นสำนวนที่ 5 แล้ว ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 21 ส.ค.52 ศาลอาญา มีคำพิพากษาประหารชีวิต คดีดำที่ อ.3223/2548 ที่นายสมคิดก่อเหตุฆ่า น.ส.วารุณี พิมพะบุตร อายุ 25 ปี นักร้องสาว “แสงตะวันคาเฟ่” ในห้องพักโรงแรมพลอยพาเลซ จ.มุกดาหาร แต่คำให้การเป็นประโยชน์อยู่บ้าง ศาลจึงลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต
เมื่อวันที่ 12 ก.พ.53 พิพากษาประหารชีวิต นายสมคิด คดีดำที่ อ. 3232/2548 ก่อเหตุฆ่า น.ส.สมปอง พิมพรภิรมย์ อายุ 25 ปี อาชีพหมอนวดแผนโบราณที่โรงแรมปิยะแมนชั่น จ.บุรีรัมย์ ในปี 2548 แต่คำให้การเป็นประโยชน์อยู่บ้าง ศาลจึงลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต
เมื่อวันที่ 2 มี.ค.53 ศาลพิพากษาประหารชีวิต กรณีที่ใช้กำลังประทุษร้ายบีบรัดคอ น.ส. ผ่องพรรณ ทรัพย์ชัย หมอนวดแผนโบราณจนเสียชีวิต เหตุเกิดที่ จ.ลำปาง เมื่อปี 2548
และเมื่อวันที่ 21 มี.ค.54 ศาล ให้จำคุกตลอดชีวิตและจำคุก 2 ปี ฐานลักทรัพย์นางพัชรีย์ อมตนิรันดร์ นักร้องคาเฟ่ ที่ถูกทำร้ายจนขาดอากาศหายใจ ที่ จ.ตรัง เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.48