xs
xsm
sm
md
lg

อุทธรณ์แก้โทษประหาร “สมคิด” เหลือคุกตลอดชีวิตคดีฆ่าหมอนวดสาวลำปาง

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

นายสมคิด พุ่มพวง หรือที่รู้จักกันในนาม “แจ็ก เดอะ ริปเปอร์” เมืองไทย ฆาตกรต่อเนื่อง อายุ 42 ปี ชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้โทษประหาร “สมคิด พุ่มพวง” ฆาตกรต่อเนื่องฆ่าหมอนวดแผนโบราณเมืองลำปาง เหลือจำคุกตลอดชีวิต ชี้สารภาพชั้นจับกุมมีเหตุบรรเทาโทษ

วันนี้ (27 ธ.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ห้องพิจารณา 909 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีหมายเลขดำ 3184/2548 หมายเลขแดง อ.770/2553 ที่พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ฟ้องสมคิด พุ่มพวง หรือที่รู้จักกันในนาม “แจ็ก เดอะ ริปเปอร์” เมืองไทย ฆาตกรต่อเนื่อง อายุ 46 ปี ชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นจำเลยในความผิด ฐานฆ่าผู้อื่นและลักทรัพย์

คดีนี้โจทก์ฟ้องและนำสืบว่า เมื่อวันที่ 3 มิ.ย. 2548 จำเลยได้ใช้กำลังประทุษร้ายบีบรัดคอ น.ส.ผ่องพรรณ ทรัพย์ชัย ใช้กำลังประทุษร้ายหมอนวดแผนโบราณจนเสียชีวิต สมดังเจตนา ภายในห้องพักเลขที่ 604 โรงแรมเวียงละคอน ต.สวนดอก อ.เมือง จ.ลำปาง แล้วจำเลยมีเจตนาทุจริต ลักเอาทรัพย์สินของผู้ตายมีแหวนทอง ต่างหู โทรศัพท์ มูลค่ารวมกว่า 5,000 บาทก่อนหลบหนีไป ต่อมาตำรวจจับกุมจำเลยได้ จำเลยรับสารภาพชั้นสอบสวน แต่ปฏิเสธในชั้นศาลว่าถูกตำรวจกลั่นแกล้งจับกุม

ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 2 ม.ค. 2553 เห็นว่าโจทก์มีพยานเป็นเพื่อนหมอนวดแผนโบราณของผู้ตายเห็นเบิกความว่าขณะนั่งอยู่ที่โรงแรมเห็นผู้ตายนั่งดื่มสุรากับจำเลย ผู้ตายบอกพยานว่าจะไปหลับนอนกับจำเลย 3 วัน 2 คืน ได้ค่าตัว 5,000 บาท อีกปากเป็นพนักงานโรงแรมเบิกความว่าเห็นจำเลยพาผู้ตายมาเปิดห้องที่โรงแรมเวียงนคร และเปิดห้องพักหมายเลข 604 สั่งอาหาร สุรา ไปดื่มกิน และยังมีพนักงานรับซื้อโทรศัพท์มือถือเบิกความยืนยันว่าจำเลยนำโทรศัพท์ของผู้ตายไปขายในราคา 1,000 บาท เห็นว่าพยานโจทก์ทุกปากไม่มีเหตุโกรธเคืองกับจำเลยมาก่อนทั้งยังคำเบิกความได้สอดคล้องต้องกันโดยรู้เห็นอยู่ใกล้ชิดเหตุการณ์จดจำใบหน้าจำเลยชัดเจน คำให้การจำเลยเลื่อนลอยไม่สามารถหักล้างได้เชื่อว่าจำเลยเป็นคนร้ายฆ่าผู้ตายจริง พิพากษาว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้องเป็นกรรมเดียวผิดหลายบท ให้ลงโทษบทหนักคือ ลงโทษประหารชีวิต คำรับสารภาพไม่เป็นประโยชน์ ประกอบกับพฤติการณ์จำเลยกระทำการประทุษร้ายอย่างต่อเนื่องใน 5 เดือน เมื่อถูกจับกุมก็ไม่สำนึก กลับไปก่อเหตุส่งผลร้ายต่อสังคม จึงไม่มีเหตุลดโทษ และให้คืนทรัพย์แก่ญาติผู้ตาย ต่อมาจำเลยยื่นอุทธรณ์ขอให้ศาลกลับคำพิพากษายกฟ้อง

ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือกันแล้วเห็นว่าคดีนี้แม้โจทก์ไม่มีประจักษ์พยานแต่มีพยานแวดล้อมแน่นหนารับฟังได้ว่าจำเลยเป็นคนร้ายฆ่าผู้ตายจริง ประกอบกับจำเลยให้การรับสารภาพในชั้นจับกุมว่าใช้สายรัดที่นอนรัดคอผู้ตายจนเสียชีวิตเนื่องจากไม่พอใจที่ผู้ตายทวงถามค่าบริการทางเพศ และจำเลยยังนำชี้ที่เกิดเหตุโดยละเอียด ทั้งโจทก์ยังมีหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์เป็นลายนิ้วมือของจำเลยที่กระป๋องน้ำอัดลมและใบเสร็จค่าอาหารที่พบในห้องพักที่เกิดเหตุ ที่จำเลยอุทธรณ์อ้างถิ่นที่อยู่แบบเลื่อนลอยนั้นฟังไม่ขึ้น แต่คดีนี้จำเลยให้การรับสารภาพในชั้นจับกุมเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาอยู่บ้างมีเหตุบรรเทาโทษที่ศาลชั้นต้นลงโทษประหารชีวิตจำเลยนั้นศาลอุทธรณ์ไม่เห็นพ้องด้วยเห็นควรให้ลดโทษจำเลยหนึ่งในสามคงเหลือจำคุกตลอดชีวิต

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากคดีนี้นายสมคิดก่อคดีฆ่าหมอนวด และหญิงบริการอีก 3 คดี โดย ศาลได้มีคำพิพากษาประหารชีวิต นายสมคิด ในคดีฆ่า น.ส.วารุณี พิมพะบุตร อายุ 25 ปี นักร้องสาว “แสงตะวันคาเฟ่” ในห้องพักโรงแรมพลอยพาเลซ จ.มุกดาหาร และพิพากษาจำคุกตลอดชีวิต นายสมคิดในคดีฆ่า น.ส.สมปอง พิมพรภิรมย์ อายุ 25 ปี อาชีพหมอนวดแผนโบราณที่โรงแรมปิยะแมนชั่น ใน จ.บุรีรัมย์ โดยพฤติการณ์ของทุกคดีนายสมคิดก่อเหตุคล้ายกัน เริ่มจากเข้าตีสนิทผู้ตาย แล้วชักชวนไปหลับนอนในโรงแรมเมื่อสบโอกาสจึงบีบคอฆ่าชิงทรัพย์
กำลังโหลดความคิดเห็น