อุทธรณ์ยืนประหารชีวิต “สมคิด พุ่มพวง” ฆาตกรซาดิสต์หมอนวด

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนประหารชีวิต “สมคิด พุ่มพวง” หรือฉายา “แจ็ก เดอะริปเปอร์เมืองไทย” เป็นจำเลยฐานฆ่าผู้อื่น ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ต่อเนื่อง 5 คดี

ที่ห้องพิจารณา 708 ศาลอาญา เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (24 ส.ค.) ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีหมายเลขดำ อ.3232/2548 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 7 เป็นโจทก์ฟ้องนายสมคิด พุ่มพวง อายุ 43 ปี ฉายา “แจ็ก เดอะริปเปอร์เมืองไทย” เป็นจำเลยฐานฆ่าผู้อื่น ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 92, 288, 344, 357

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 20-21 มิ.ย. 2548 จำเลยพบกับ น.ส.สมปอง พิมพรภิรมย์ อายุ 25 ปี อาชีพหมอนวดแผนโบราณที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ก่อนจะชักชวนกันไปเปิดห้องพักหมายเลข 211 อาคารปิยะแมนชั่น ต.ชุมเห็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ต่อมาเมื่อ น.ส.สมปองนอนหลับ จำเลยใช้มือบีบคอจน น.ส.สมปองเสียชีวิต พร้อมลักเอาสร้อยคอทองคำ แหวน กระเป๋าถือ โทรศัพท์มือถือ และทรัพย์สินอื่นๆ มูลค่ากว่า 12,200 บาทหลบหนีไป จำเลยให้การปฏิเสธ คดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 12 ก.พ. 2553 พิพากษาลงโทษจำเลยฐานฆ่าผู้อื่นให้ประหารชีวิต ฐานลักทรัพย์จำคุก 1 ปี คำให้การเป็นประโยชน์อยู่บ้าง ลดโทษให้หนึ่งในสาม คงลงโทษจำคุกตลอดชีวิต และให้ชดใช้เงินจำนวน 10,000 บาท แก่ญาติผู้เสียชีวิต

ศาลอุทธรณ์พิเคราะห์แล้วเห็นว่า โจทก์มี พ.ต.ท.ฉลอง เกิดโมลี พนักงานสอบสวนเบิกความเป็นพยานว่า เจ้าหน้าที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบลายนิ้วมือแฝงของจำเลยที่ขวดเบียร์ และที่โต๊ะภายในห้องพักดังกล่าว เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าตรงกับลายนิ้วมือของจำเลย และประกอบกับคำรับสารภาพในชั้นสอบสวนว่าอยู่ในห้องที่เกิดเหตุ และบีบคอผู้ตายจนเสียชีวิต สอดคล้องกับผลชันสูตรศพของแพทย์นิติเวชที่พบว่าผู้ตายเสียชีวิตมาแล้ว 6 ชั่วโมง และมีรอยกดแดงที่บริเวณลำคอ นอกจากนี้ยังพบว่า แก้วน้ำในห้องพักมีสารที่เป็นส่วนส่วนผสมของยาแก้หวัดอยู่ ฤทธิ์ทำให้เกิดอาการง่วง ตรงกับคำให้การของน้องชายผู้ตายที่ให้การว่าก่อนออกจากบ้านผู้ตายมีอาการเป็นไข้หวัดอยู่

นอกจากนี้ยังได้ความจากแม่บ้านประจำอาคารปิยะแมนชั่นว่า เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. 2548 เห็นจักรยานยนต์มาส่งจำเลยกับผู้ตาย จากนั้นได้ติดต่อเช่าห้องพักเลขที่ 211 ที่ปิยะแมนชั่น ซึ่งตรงกับจากภาพกล้องวงจรปิดของแมนชั่นที่พบว่าจำเลยกับผู้ตายมาด้วยกัน จากนั้นพยานก็ไม่เห็นคนอื่นเข้าไปในห้องพักดังกล่าวอีก ส่วนสามีของผู้ตายให้การว่า ก่อนเกิดเหตุจำเลยได้มาขอใช้บริการจากผู้ตายและพาผู้ตายออกไปข้างนอก ก่อนที่ผู้ตายจะเสียชีวิต เห็นว่าแม้คดีจะไม่มีประจักษ์พยานเห็นจำเลยฆ่าผู้ตาย แต่พยานแวดล้อมทั้งหมดให้การสอดคล้องต้องกัน ยากที่จะเป็นการแต่งเรื่องขึ้นมา ส่วนที่มีพยานบางปากให้การคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับเรื่องเวลา แต่ไม่กระทบกับสาระสำคัญในคดี จึงไม่มีผลสืบเนื่องที่จะยกผลประโยชน์ให้กับจำเลย ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาศาลอุทธรณ์เห็นด้วยพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น

สำหรับ นายสมคิด พุ่มพวง หรือ “แจ็ก เดอะริปเปอร์เมืองไทย” เนื่องจากเป็นฆาตกรต่อเนื่องก่อเหตุทั้งสิ้น 5 คดี ประกอบด้วย

เมื่อวันที่ 21 ก.พ. 2555 ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาประหารชีวิต คดีที่นายสมคิดก่อเหตุฆ่า น.ส.วารุณี พิมพะบุตร อายุ 25 ปี นักร้องสาว “แสงตะวันคาเฟ่” ในห้องพักโรงแรมพลอยพาเลซ จ.มุกดาหาร แต่คำให้การเป็นประโยชน์อยู่บ้าง ศาลจึงลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต

คดีต่อมาเมื่อวันที่ 2 มี.ค. 2553 ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้โทษจากที่ศาลชั้นต้นให้ประหารชีวิต ให้เหลือโทษจำคุกตลอดชีวิต ในคดีบีบรัดคอ น.ส.ผ่องพรรณ ทรัพย์ชัย หมอนวดแผนโบราณจนเสียชีวิต เหตุเกิดที่ จ.ลำปาง

เมื่อวันที่ 21 มี.ค. 2554 ศาลอาญาให้จำคุกตลอดชีวิต คดีฆ่านางพัชรีย์ อมตนิรันดร์ นักร้องคาเฟ่ ที่ถูกทำร้ายจนขาดอากาศหายใจ ที่ จ.ตรัง

และคดีสุดท้ายเมื่อวันที่ 28 เม.ย. 2554 ศาลอาญาพิพากษาจำคุกตลอดชีวิต คดีฆ่า น.ส.พรตะวัน ปังคะบุตร อายุ 37 ปี ที่ จ.อุดรธานี