นครศรีธรรมราช - “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” และคณะรัฐมนตรี ลิ้มรสความเดือดร้อนแสนสาหัสของภัยธรรมชาติที่พี่น้องชาวนครศรีธรรมราช ได้รับในรอบ 30 ปี พาคณะร่อนหนีน้ำที่สนามบินตรัง และนั่งรถเข้าเยี่ยมชาวบ้านแหลมตะลุมพุก ที่ถูกคลื่นซัดบ้านพังเสียหายจำนวน 650 ครัวเรือน เสียชีวิต 8 ราย และเยี่ยมชาวบ้าน อ.ท่าศาลา ซึ่งวันนี้สถานการณ์ก็ยังเลวร้าย มีชาวบ้านและคนงานเหมืองแร่นับร้อยชีวิตติดอยู่บนภูเขา ซ้ำร้ายภูเขากรุงชิงถล่มในหมู่บ้าน มีผู้ติดอยู่จำนวนมาก และยังไม่ทราบชะตากรรม ซึ่งเบื้องต้นมีการประเมินความเสียหายประมาณ 1,000 ล้านบาท ลั่นจะมีการเยียวยาช่วยเหลือ 5,000 บาท เหมือนครั้งก่อนแม้ว่าจะมีปัญหาล่าช้า และยังจ่ายไม่หมดก็ตาม
วันนี้ (30 มี.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ประกอบด้วย นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, นายชำนิ ศักดิเศรษฐ์, นายวิทยา แก้วภราดัย ประธานวิปรัฐบาล ได้เดินทางมาเยี่ยมราษฎรผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราชจำนวน 2 จุด
โดยจุดแรก คณะนายกรัฐมนตรีซึ่งมีกำหนดเดินทางโดยทางเครื่องบินมาลงที่สนามบินสุราษฎร์ธานี ปรากฏว่า ท้องฟ้าปิดไม่สามารถบินลงได้ จึงเปลี่ยนไปลงที่สนามบิน จ.ตรัง แทน จากนั้นได้นั่งรถยนต์จาก จ.ตรัง เดินทางมาเยี่ยมราษฎรผู้ประสบภัยน้ำท่วมจุดแรกที่บริเวณวัดแหลมตะลุมพุก ม.3 ต.แหลมตะลุมพุก อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช มี นายธีระ มินทราศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช, พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 และหัวหน้าส่วนราชการต่างๆ ให้การต้อนรับ และนายอภิสิทธิ์ ได้มอบถุงยังชีพให้กับราษฎรชาว ต.แหลมตะลุมพุก จำนวน 650 ครัวเรือน
นายประยุทธ ฐานะวัฒนา กำนันตำบลแหลมตะลุมพุก และราษฎรชาว ต.แหลมตะลุมพุก จำนวน 650 ครัวเรือน ทั้ง 3 หมู่บ้านให้การต้อนรับ และยื่นหนังสือของชาว ต.แหลมตะลุมพุก 3 หมู่บ้าน 650 ครัวเรือน เพื่อขอที่ทำกินเพื่อเป็นที่อยู่อาศัย จำนวน 150 ไร่ บริเวณพื้นที่ป่าชายเลนเขตป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามถนนอีกฟากหนึ่ง เนื่องจากที่อยู่อาศัยเดิมของราษฎรชาว ต.แหลมตะลุมพุก ถูกคลื่นซัดกินเข้ามาพื้นที่แล้วถึง 25 เมตร ทำให้อยู่อาศัยกันลำบากมาก ซึ่ง นายอภิสิทธิ์ รับปากว่า จะไปปรึกษาหารือกับกระทรวงที่เกี่ยวข้องในเรื่องข้อกฎหมายว่าสามารถทำได้มากน้อยเพียงใด
นายธีระ มินทราศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้กล่าวสรุปสถานการณ์น้ำท่วมใน จ.นครศรีธรรมราช ว่า ท่วมหมดทั้ง 23 อำเภอ โดยเฉพาะล่าสุดยังมีฝนตกหนักและน้ำท่วมหนักในหลายพื้นที่ของ จ.นครศรีธรรมราช ในขณะนี้ มีราษฎรที่ประสบภัย 161 ตำบล 1,366 หมู่บ้าน 96,714 ครัวเรือน, บ้านพังเสียหาย 114 หลัง พื้นที่การเกษตรเสียหาย 163,969 ไร่ ถนนและสะพานขาดเสียหายจำนวนมาก รวมมูลค่าความเสียหายในขณะนี้ประมาณ 1,000 ล้านบาท โดยเฉพาะที่ ต.แหลมตะลุมพุก ราษฎรเดือดร้อนถูกคลื่นซัดบ้านพังเสียหายจำนวน 650 ครัวเรือน เสียชีวิต 8 ราย
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวกับประชาชนที่มาต้อนรับว่า วันนี้เกือบเดินทางมาเยี่ยมพี่น้องประชาชนไม่ได้ เนื่องจากสภาพอากาศปิด เครื่องบินไม่สามารถบินลงที่สุราษฎร์ธานีได้ จึงเปลี่ยนไปลงที่ตรังแทน แล้วนั่งรถยนต์เดินทางมาเยี่ยมพี่น้องประชาชนชาว ต.แหลมตะลุมพุก เป็นจุดแรกก่อน ตนมีความเป็นห่วงพี่น้องชาวนครศรีธรรมราช และชาวภาคใต้ ที่กำลังประสบภัยน้ำท่วมดินถล่มอยู่ในขณะนี้
โดยเฉพาะพี่น้องชาว อ.เขาพนม จ.กระบี่ ที่ทราบว่า เกิดภูเขาถล่มใส่หมู่บ้าน คาดว่า มีผู้เสียชีวิตประมาณ 20-30 คน และสูญหายอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายรวมทั้งส่งกำลังทหารเข้าไปในพื้นที่เพื่อช่วยเหลือเป็นการด่วนแล้ว
“หลายพื้นที่ที่ประสบภัยพิบัติในขณะนี้ เพราะไม่เคยเจอปัญหาภัยพิบัติแบบนี้มาก่อน จึงรับมือไม่ทัน เพราะฉะนั้นจึงขอเตือนให้พี่น้องประชาชนได้ระมัดระวัง ติดตามสถานการณ์ดินฟ้าอากาศตลอดเวลาอย่าประมาท ให้ทุกคนระมัดระวังและร่วมมือกับเจ้าหน้าที่อย่างเต็มที่เพื่อลดการสูญเสียให้มากที่สุด” นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อและว่า
สำหรับเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัย 5,000 บาทนั้น ทางรัฐบาลก็ยังให้การช่วยเหลือเหมือนเดิม แต่ปัญหารอบที่แล้วหลายพื้นที่เงินช่วยเหลือยังจ่ายไม่ได้ เพราะมีบางพื้นที่โดยเฉพาะที่นครศรีธรรมราช ยังมีตัวเลขที่เกินความเป็นจริง ซึ่งต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียด จึงทำให้ล่าช้า คนที่เดือดร้อนจริงๆ เดือดร้อนหนักก็พลอยไม่ได้รับไปด้วย คราวนี้ตนก็อยากให้ราษฎรผู้ประสบภัยน้ำท่วมดินถล่มจริงๆ แจ้งรายชื่อขอความช่วยเหลือกันเข้ามา เพื่อจะได้ช่วยเหลือไปตามหลักเกณฑ์ ที่สำคัญ เงินงบประมาณมีจำนวนจำกัด เงินสำรองฉุกเฉินก็ใกล้จะหมดแล้วจึงต้องตรวจสอบอย่างละเอียด
นายอำเภอท่าศาลาร่ำไห้ รายงานหนักสุดในรอบ 30 ปี
ต่อมา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้เดินทางด้วยรถยนต์ไปยังศาลาประชาคม อ.ท่าศาลา เพื่อพบปะกับประชาชน โดยมีสีหน้าเคร่งเครียด ต่อมา นายเสรี ทวีพันธ์ นายอำเภอท่าศาลาได้กล่าวรายงานด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ มีน้ำตาคลอถึงความเดือดร้อนของชาว อ.ท่าศาลา โดยนายกรัฐมนตรีได้กล่าวตอบถึงการเยี่ยมเยียนและสาเหตุที่ต้องเดินทางมาช้า
หลังจากนั้น ได้มอบสิ่งของช่วยเหลือก่อนเดินทางต่อไปยังโรงพยาบาลท่าศาลา โดยมี นพ.กิตติ รัตนสมบัติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลท่าศาลา นำตรวจสอบพื้นที่เสียหาย หลังจากนั้น จึงเดินทางกลับด้วยรถยนต์ อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เฮลิคอปเตอร์จากกองทัพภาคที่ 4 ได้บินมารอรับนายกรัฐมนตรี แต่ปรากฏว่า ไม่สามารถบินขึ้นได้ เนื่องจากอากาศยังปิดอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับฝนที่ตกลงอย่างหนักตลอดเวลา
เร่งช่วยคนงานเหมืองแร่-ชาวบ้านติดบนภูเขากว่าร้อยชีวิต
นายเดชา กังสนันท์ ปลัดจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยถึงการช่วยเหลือคนงานเหมืองแร่พี แอนด์ เอส แบไรท์ไมนิ่ง จำนวน 20 คน และราษฎรจำนวน 9 หมู่บ้านที่ติดอยู่บนภูเขาไม้ไผ่ ม.8 ต.กรุงชิง อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช รวมจำนวนกว่า 100 ชีวิต เนื่องจากไม่สามารถลงมาจากภูเขาได้ เพราะทางขาดหลายจุดบนภูเขา แม้จะพยายามใช้ ฮ.กองทัพภาคที่ 4 บินขึ้นไปช่วยเหลือแต่ไม่สามารถขึ้นบินได้ เพราะท้องฟ้าปิดเป็นเวลาหลายวันแล้ว
เรื่องนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้สั่งการให้จัดชุดเฉพาะกิจจำนวน 8 คนเดินเท้าขึ้นไปบนภูเขามี นายสุเทพ แก้วประดิษฐ์ เป็นหัวหน้าชุดและชาวบ้านในพื้นที่ร่วมด้วย นำอุปกรณ์เครื่องมือ และเสบียงอาหารแห้งจำนวนหนึ่ง รวมทั้งวิทยุสื่อสารขึ้นไปบนยอดเขาดังกล่าว ทำเป็นสนามวิทยุเพื่อประสานงานกับทางเจ้าหน้าที่ข้างล่างในการให้การช่วยเหลือนำคนงานเหมืองแร่ และชาวบ้านที่ติดบนภูเขาลงมาอย่างปลอดภัยต่อไป โดยต้องเร่งรีบดำเนินการโดยเร็วภายในวันพรุ่งนี้แม้ฝนจะตกหนักก็ตาม
ภูเขากรุงชิงถล่มทับชาวบ้าน ยังไม่รู้ชะตากรรม
เมื่อเวลา 16.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ข่ายวิทยุสื่อสารทุกข่ายในพื้นที่นครศรีธรรมราช ได้แจ้งเหตุภูเขาถล่มในพื้นที่ ม.2 บ้านหวายช่อ ต.กรุงชิง อ.นบพิตำ อย่างหนัก โดยที่จุดดังกล่าวยังถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ซึ่งมีรายงานว่า ได้ทับบ้านเรือนไปหลายหลังมีคนติดอยู่หลายคนล้วนแล้วแต่ยังไม่ทราบชะตากรรม โดยที่เจ้าหน้าที่ต้องพยายามไต่ลวดสลิง และเชือกขนาดใหญ่ ข้ามกระแสน้ำเชี่ยวกรากเข้าไปเป็นช่วงๆ อย่างยากลำบาก
ปศุสัตว์เมืองคอนเร่งขนหญ้าแห้ง-เวชภัณฑ์ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม
ในขณะที่สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ระดมขนหญ้าแห้งประมาณวันละ20,000 กก.ไปช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ต่างๆ อย่างเร่งด่วน นอกจากนี้ยังได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช จัดหาอาหารสัตว์และเวชภัณฑ์เพิ่มเติมอีกส่วนหนึ่ง ส่งไปช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยน้ำท่วมในหลายพื้นที่เช่นกัน แต่อาจจะไม่ทั่วถึง
จึงขอให้เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ หากมีกรณีผลกระทบขาดแคลนอาหารสัตว์ หรือสัตว์เจ็บป่วย ขอให้แจ้งขอรับการช่วยเหลือผ่านสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดนครศรีธรรมราชหมายเลข 075-356254 เพื่อจะได้ให้ความช่วยเหลือต่อไป
จระเข้ยังลอยคอโผล่หลายจุดต่อเนื่อง
ส่วนความเคลื่อนไหวของจระเข้นั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ข่ายวิทยุสื่อสารของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งการเตือนและเฝ้าระวังในหลายจุด เนื่องจากมีรายงานการพบจระเข้ออกเพ่นพ่านจำนวนมากเช่น ต.ท่าซัก ต.ท่าไร่ ต.นาทราย ต.นาเคียน ต.ปากพูน โดยแต่ละจุดพบ 1-3 ตัว