ชุมพร - จังหวัดชุมพร อ่วมน้ำท่วม 7 อำเภอ ราษฎรเดือดร้อนกว่า 37,000 คน ทรัพย์สิน พื้นที่การเกษตร สิ่งสาธารณูปโภคเสียหาย 30 ล้าน ส่วนนักศีกษา 6 คน พร้อมเด็กชายวัย 9 ขวบ ยังติดอยู่บนเกาะแกลบ ไร้อาหาร ไฟฟ้า ต้องขึ้นมะพร้าวกินประทังชีวิต รอคลื่นลมสงบให้เจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปช่วยเหลือ
จากกรณีฝนตกหนักติดต่อกันนานหลายวันในพื้นที่ จ.ชุมพร มีน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร มีพื้นที่การเกษตร และสิ่งสาธารณูปโภคได้รับความเสียหายจำนวนมากนั้น เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 28 มีนาคม 2554 นายพินิจ เจริญพานิช ผวจ.ชุมพร ในฐานะ ผอ.ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม จ.ชุมพร สรุปได้รับรายงานสรุปสถานการณ์พื้นที่ประสบปัญหาอุทกภัย ในพื้นที่ รวม 7 อำเภอ
ประกอบด้วย อ.เมือง อ.ปะทิว อ.สวี อ.ทุ่งตะโก อ.หลังสวน อ.ละแม อ.พะโต๊ะ และ 1 เทศบาลเมือง รวม 38 ตำบล 334 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 37,065 คน จำนวน 12,635 ครัวเรือน มีที่อยู่อาศัย สถานที่ราชการ พื้นที่การเกษตร ถนน สะพาน สิ่งสาธารณูปโภค ประเมินมูลค่าความเสียหายเบื้องต้น กว่า 30 ล้านบาท
อำเภอที่ได้รับความเสียหายหนักสุด คือ อ.หลังสวน ราษฎรเดือดร้อน 15,309 คน 5,570 ครัวเรือน บ้านพังเสียหาย 6 หลัง และพื้นที่การเกษตร ถนน สะพาน สิ่งสาธารณูปโภค เสียหายจำนวนมาก รวมมูลค่าประมาณ 12,550,000 บาท อ.ปะทิว มีราษฎรเดือดร้อน 89,000 คน 3,200 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตร 400 ไร่ ถนน 117 สาย รวมมูลค่าความเสียหาย 7,100,000 บาท อ.ทุ่งตะโก พื้นที่การเกษตรเสียหาย 492 ไร่ ถนน 35 สาย ฝายน้ำล้น 2 แห่ง ราษฎรเดือดร้อน 146 คน 42 ครัวเรือน รวมมูลค่า 4,984,000 บาท และ อ.พะโต๊ะ ราษฎรเดือดร้อน 7,240 คน 2,000 ครัวเรือน บ้านพังเสียหาย 13 หลัง ถนน 10 สาย สะพาน 2 แห่ง รวมค่าเสียหาย 4,900,000 บาท
ส่วนการช่วยเหลือ นายธนา ศรีแว่นแก้ว อายุ 21 ปี นักศึกษาคณะสารสนเทศศาสตร์ ปี 4 มหาวิทยาลัยศรีปทุม พร้อมเพื่อนๆ รวม 6 คน และเด็กชายอายุ 9 ปี 1 คน ได้เดินทางมาท่องเที่ยวและว่าจ้างเรือประมงชายฝั่งไปส่งเพื่อเที่ยวพักผ่อนอยู่บนเกาะแกลบ ซึ่งเป็นเกาะขนาดเล็กห่างจากฝั่งทะเลอ่าวไทยด้านบ้านบ่อคา ต.ด่านสวี อ.สวี จ.ชุมพร ประมาณ 10 กิโลเมตร ตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม ที่ผ่านมา และเรือประมงที่ไปส่งได้เดินทางกลับเข้าฝั่งไปก่อน และกำหนดจะไปรับกลุ่มนักศึกษาดังกล่าวกลับเข้าฝั่งในวันที่ 25 มีนาคม แต่ปรากฏว่า เกิดฝนตกหนักมีคลื่นลมแรง เรือประมงไม่สามารถออกไปรับได้ ทำให้ติดอยู่บนเกาะดังกล่าว 3 วันแล้ว โดยไม่มีอาหารและแสงสว่างในช่วงกลางคืน ได้ใช้เต็นท์และเพิงพักบนเกาะเป็นที่กำบังหลบฝนและลมมรสุม และขอให้หน่วยงานเกี่ยวข้องเข้าไปช่วยเหลือเป็นการด่วนนั้น
เมื่อเวลา 14.30 น.วันเดียวกัน นายมีศักดิ์ ภัคดีคง ประมง จ.ชุมพร พร้อมเจ้าหน้าที่เรือตรวจการณ์ศูนย์ป้องกันและปราบปรามประมงทะเลภาคใต้ตอนบน จ.ชุมพร ได้เดินทางไปที่ บ้านบ่อคา หมู่ 3 ต.ด่านสวี อ.สวี จ.ชุมพร แต่ปรากฏว่าสภาพอากาศยังไม่เอื้ออำนวยท้องฟ้ามืดครึ้ม มีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ทะเลมีคลื่นลมแรง คลื่นสูง 2-3 เมตร ยังไม่สามารถนำเรือออกไปช่วยเหลือนักศึกษาที่ติดอยู่บนเกาะดังกล่าวได้ ต้องรอให้คลื่นลมอ่อนกำลังลงกว่านี้ และพร้อมที่จะออกไปให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนทันที
ด้าน นายธนา ศรีแว่นแก้ว นักศึกษาที่ติดอยู่บนเกาะแกลบ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์มือถือว่า ได้ติดอยู่บนเกาะมา 3 วันแล้ว ช่วงเวลากลางคืนจะมืดสนิท เพราะไม่มีไฟฟ้า และแบตเตอรี่มือถือที่ใช้ก็กำลังจะหมด ต่อไปจะไม่สามารถติดต่อสื่อสารกับผู้ใดได้อีก แต่บนเกาะยังพอหาน้ำฝนดื่มได้ ส่วนอาหารขณะนี้พวกตนได้ปืนขึ้นต้นมะพร้าวเพื่อนำเอาลูกมะพร้าวมาผ่ากินเนื้อและน้ำประทังชีวิตไปก่อนจนกว่าจะมีเจ้าหน้าที่นำเรือเข้ามาช่วยเหลือ และขอฝากบอกไปทางบ้านไม่ต้องเป็นห่วงพวกตนอยู่บนเกาะปลอดภัยดี
ส่วนเรือประมงชายฝั่งที่ถูกคลื่นซัดจมลงก้นทะเลจำนวน 8 ลำ บริเวณปากอ่าวบ้านบ่อคา ต.ด่านสวี อ.สวี เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้เจ้าของเรือ และหน่วยงานเกี่ยวข้อง ก็ยังไม่สามารถกู้เรือที่จมทั้งหมดขึ้นมาบนฝั่งได้ด้วยเช่นกัน
จากกรณีฝนตกหนักติดต่อกันนานหลายวันในพื้นที่ จ.ชุมพร มีน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร มีพื้นที่การเกษตร และสิ่งสาธารณูปโภคได้รับความเสียหายจำนวนมากนั้น เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 28 มีนาคม 2554 นายพินิจ เจริญพานิช ผวจ.ชุมพร ในฐานะ ผอ.ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม จ.ชุมพร สรุปได้รับรายงานสรุปสถานการณ์พื้นที่ประสบปัญหาอุทกภัย ในพื้นที่ รวม 7 อำเภอ
ประกอบด้วย อ.เมือง อ.ปะทิว อ.สวี อ.ทุ่งตะโก อ.หลังสวน อ.ละแม อ.พะโต๊ะ และ 1 เทศบาลเมือง รวม 38 ตำบล 334 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 37,065 คน จำนวน 12,635 ครัวเรือน มีที่อยู่อาศัย สถานที่ราชการ พื้นที่การเกษตร ถนน สะพาน สิ่งสาธารณูปโภค ประเมินมูลค่าความเสียหายเบื้องต้น กว่า 30 ล้านบาท
อำเภอที่ได้รับความเสียหายหนักสุด คือ อ.หลังสวน ราษฎรเดือดร้อน 15,309 คน 5,570 ครัวเรือน บ้านพังเสียหาย 6 หลัง และพื้นที่การเกษตร ถนน สะพาน สิ่งสาธารณูปโภค เสียหายจำนวนมาก รวมมูลค่าประมาณ 12,550,000 บาท อ.ปะทิว มีราษฎรเดือดร้อน 89,000 คน 3,200 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตร 400 ไร่ ถนน 117 สาย รวมมูลค่าความเสียหาย 7,100,000 บาท อ.ทุ่งตะโก พื้นที่การเกษตรเสียหาย 492 ไร่ ถนน 35 สาย ฝายน้ำล้น 2 แห่ง ราษฎรเดือดร้อน 146 คน 42 ครัวเรือน รวมมูลค่า 4,984,000 บาท และ อ.พะโต๊ะ ราษฎรเดือดร้อน 7,240 คน 2,000 ครัวเรือน บ้านพังเสียหาย 13 หลัง ถนน 10 สาย สะพาน 2 แห่ง รวมค่าเสียหาย 4,900,000 บาท
ส่วนการช่วยเหลือ นายธนา ศรีแว่นแก้ว อายุ 21 ปี นักศึกษาคณะสารสนเทศศาสตร์ ปี 4 มหาวิทยาลัยศรีปทุม พร้อมเพื่อนๆ รวม 6 คน และเด็กชายอายุ 9 ปี 1 คน ได้เดินทางมาท่องเที่ยวและว่าจ้างเรือประมงชายฝั่งไปส่งเพื่อเที่ยวพักผ่อนอยู่บนเกาะแกลบ ซึ่งเป็นเกาะขนาดเล็กห่างจากฝั่งทะเลอ่าวไทยด้านบ้านบ่อคา ต.ด่านสวี อ.สวี จ.ชุมพร ประมาณ 10 กิโลเมตร ตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม ที่ผ่านมา และเรือประมงที่ไปส่งได้เดินทางกลับเข้าฝั่งไปก่อน และกำหนดจะไปรับกลุ่มนักศึกษาดังกล่าวกลับเข้าฝั่งในวันที่ 25 มีนาคม แต่ปรากฏว่า เกิดฝนตกหนักมีคลื่นลมแรง เรือประมงไม่สามารถออกไปรับได้ ทำให้ติดอยู่บนเกาะดังกล่าว 3 วันแล้ว โดยไม่มีอาหารและแสงสว่างในช่วงกลางคืน ได้ใช้เต็นท์และเพิงพักบนเกาะเป็นที่กำบังหลบฝนและลมมรสุม และขอให้หน่วยงานเกี่ยวข้องเข้าไปช่วยเหลือเป็นการด่วนนั้น
เมื่อเวลา 14.30 น.วันเดียวกัน นายมีศักดิ์ ภัคดีคง ประมง จ.ชุมพร พร้อมเจ้าหน้าที่เรือตรวจการณ์ศูนย์ป้องกันและปราบปรามประมงทะเลภาคใต้ตอนบน จ.ชุมพร ได้เดินทางไปที่ บ้านบ่อคา หมู่ 3 ต.ด่านสวี อ.สวี จ.ชุมพร แต่ปรากฏว่าสภาพอากาศยังไม่เอื้ออำนวยท้องฟ้ามืดครึ้ม มีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ทะเลมีคลื่นลมแรง คลื่นสูง 2-3 เมตร ยังไม่สามารถนำเรือออกไปช่วยเหลือนักศึกษาที่ติดอยู่บนเกาะดังกล่าวได้ ต้องรอให้คลื่นลมอ่อนกำลังลงกว่านี้ และพร้อมที่จะออกไปให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนทันที
ด้าน นายธนา ศรีแว่นแก้ว นักศึกษาที่ติดอยู่บนเกาะแกลบ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์มือถือว่า ได้ติดอยู่บนเกาะมา 3 วันแล้ว ช่วงเวลากลางคืนจะมืดสนิท เพราะไม่มีไฟฟ้า และแบตเตอรี่มือถือที่ใช้ก็กำลังจะหมด ต่อไปจะไม่สามารถติดต่อสื่อสารกับผู้ใดได้อีก แต่บนเกาะยังพอหาน้ำฝนดื่มได้ ส่วนอาหารขณะนี้พวกตนได้ปืนขึ้นต้นมะพร้าวเพื่อนำเอาลูกมะพร้าวมาผ่ากินเนื้อและน้ำประทังชีวิตไปก่อนจนกว่าจะมีเจ้าหน้าที่นำเรือเข้ามาช่วยเหลือ และขอฝากบอกไปทางบ้านไม่ต้องเป็นห่วงพวกตนอยู่บนเกาะปลอดภัยดี
ส่วนเรือประมงชายฝั่งที่ถูกคลื่นซัดจมลงก้นทะเลจำนวน 8 ลำ บริเวณปากอ่าวบ้านบ่อคา ต.ด่านสวี อ.สวี เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้เจ้าของเรือ และหน่วยงานเกี่ยวข้อง ก็ยังไม่สามารถกู้เรือที่จมทั้งหมดขึ้นมาบนฝั่งได้ด้วยเช่นกัน
