ลูกเรือประมงเหยื่อโจรโซมาเลียถึงระนอง-เผยเหมือนตายแล้วเกิดใหม่

ระนอง - ลูกเรือประมงเรือพรานทะเล 11 จำนวน 44 คน เดินทางถึงระนอง หลังถูกโจรโซมาเลียปล้น ระบุเหมือนตายแล้วเกิดใหม่

เมื่อเวลา 12.30 น.วันนี้ (15 มี.ค.) เรือรบหลวงล่องลมของทัพเรือภาคที่ 3 ได้นำเรือประมงพรานทะเล 11 พร้อมลูกเรือจำนวน 44 คน เป็นคนไทย 7 คน และสัญชาติพม่า 37 คน ที่ถูกโจรสลัดโซมาเลียปล้น เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2553 และได้รับการช่วยเหลือจากทหารเรือประเทศอินเดีย ได้เดินทางเข้าเทียบท่าที่ท่าเรือระนอง ต.ปากน้ำ อ.มือง จ.ระนอง มีนาวาเอก เคารพ แหลมคม ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานประมงชายแดนทางทะเลไทย-พม่า (ศปชล.ทพ.) นายส่องแสง ปทะวานิช เจ้าของเรือประมงพรานทะเล และญาติพี่น้องของลูกเรือคอยให้การต้อนรับ ซึ่งทันทีลูกเรือขึ้นฝั่งทาง ผอ.ศปชล.ทพ.ได้คล้องพวงมาลัยให้กับไต้ก๋งเรือเพื่อต้อนรับ

จากนั้นได้นำลูกเรือไปตรวจสุขภาพเบื้องต้นโดยเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลระนอง ซึ่งบางคนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยตามใบหน้า และแขนขา และทำทะเบียนประวัติบุคลโดยเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองระนอง

นายคณิต ต่อประดิษฐ์ อายุ 51 ปี หรือ ไต๋จบ ไต้ก๋งเรือพรานทะเล 11 กล่าวว่า ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่ได้ช่วยเหลือจนได้กลับประเทศ ทั้งกองทัพเรือ สถานกงสุล สถานทูต รู้สึกดีใจน้ำตาไหลเหมือนกับตายแล้วเกิดใหม่ ขณะที่ถูกโจรสลัดควบคุมตัวรู้สึกลำบากมากไม่มีอาหารกินต้องอดอยาก ต้องรักษาดูแลตัวเองไม่ให้เจ็บป่วย ซึ่งตอนที่ทหารเรืออินเดียเข้าช่วยเหลือมีการยิงปะทะกันคิดในใจว่าไม่รอดแล้ว

นายโพธิ์ชัย พร้อมบัวป่า ไต้ก๋งเรือพรานทะเล 14 กล่าวว่า ตนเองก็คิดว่าไม่รอดแล้วเช่นกันเพราะในระหว่างที่มีการเข้าจับกุมโจรสลัดเรือรบทหารอินเดียมีการยิงต่อสู้กับโจรสลัด โจรสลัดได้เอาลูกเรือไปยืนที่หัวเรือเพื่อเป็นตัวประกัน จนเรือถูกยิงจมทะเล ส่วนลูกเรือได้รับการช่วยเหลือไว้ได้ 20 คน โจรสลัดถูกจับกุม 15 คน

นายส่องแสง ปทะวานิช เจ้าของเรือพรานทะเล กล่าวว่า เรือพรานทะเลจำนำวน 3 ลำ คือหมายเลข 11, 12 และ 14 อกจากจังหวัดระนอง เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2553 โดยมีลูกเรือพรานทะเล จำนวน 26 คน พรานทะเล 12 จำนวน 25 คน และพรานทะเลจำนวน 26 คน เพื่อเดินทางไปทำประมงที่ประเทศ DJIBOUTI เนื่องจากได้รับสัมปทานการทำประมงที่นั่น ซึ่งอยู่ติดกับประเทศโซมาเลีย ต่อมาเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2553 ตอนเช้าเจ้าหน้าที่ของบริษัทได้รับการติดต่อจากทางเรือว่าถูกโจรสลัดโซมาเลียใช้เรือเร็วพร้อมอาวุธเข้ายึดเรือ ขณะที่เรืออยู่บริเวณตะวันตกของหมู่เกาะ LAKSHAWEEP ของอินเดีย และอยู่ห่างจาก โซมาเลีย ประมาณ 1,200 ไมล์

นายส่องแสง กล่าวต่อว่า หลังจากยึดเรือทั้ง 3 ลำ ได้แล้ว โจรสลัดได้บังคับเรือให้เดินทางไป โซมาเลีย ซึ่งใช้เวลาถึง 5 วัน ระหว่างเดินทางบริษัทได้รับการติดต่อทางโทรศัพท์จากเรือเป็นครั้งคราว และเรือได้ทอดสมออยู่นอกชายฝั่งเมือง GARAGAAD ประเทศโซมาเลีย ระหว่างที่เรือถูกจับกุมบริษัทพยายามติดต่อผ่านทาง ประเทศ DJIBOUTI ซึ่งใช้เวลานานและไม่ได้ผล ต่อมาบริษัทได้จัดชุดเจรจาต่อรองกับทางโจรสลัด เนื่องจากจำนวนเรือมีถึง 3 ลำ และผู้ควบคุมเรือก็ต่างกลุ่มกัน จึงค่อนข้างลำบากในการเจรจา และทราบว่ามีการนำเรือทั้ง 3 ลำไปปล้นเรืออื่น

ต่อมาเมื่อวันที่ 18 มกราคม 2554 โจรสลัดได้มีการนำเรือพรานทะเล 14 พร้อมอาวุธและโจรสลัดจำนวน 25-27 คน ลงเรือ บังคับให้เรือออกไปยึดเรือสินค้าในทะเลโดยใช้เรือพรานทะเล เป็นเรือแม่ และเมื่อวันที่ 28 ม.ค.54 ได้พบกับเรือของทหารเรืออินเดียและมีการยิงต่อสู้กัน เรือพรานทะเลไฟลุกไหม้ ลูกเรือพร้อมโจรสลัดกระโดดลงน้ำ ต่อมาลูกเรือได้รับการช่วยเหลือจากทหารเรืออินเดีย จำนวน 20 คน จับโจรสลัดได้ 15 คน ส่วนลูกเรือทั้ง 20 คน ทหารเรืออินเดียนำไปที่เมืองมุมไบ โดยมีสถานกงสุลไทย ณ เมืองมุมไบ และผู้ช่วยทูตทหารที่ประจำอยู่กรุงนิวเดลี ได้ประสานงานกับทางทหารเรืออินเดีย

นายส่องแสง กล่าวต่ออีกว่า วันที่ 6 ก.พ.54 ตนได้รับโทรศัพท์ผ่านดาวเทียมจากเรือพรานทะเล 11 ว่า ทหารอินเดียกำลังยิงต่อสู้กับโจรสลัดโซมาเลีย จนโจรยอมแพ้และโยนอาวุธทิ้งน้ำ เรือถูกยิงหลายแห่ง โดยสามารถช่วยลูกเรือไว้ได้ 24 คน จับโจรสลัดได้ 28 คน รวมลูกเรือที่ทหารเรืออินเดียช่วยเหลือได้ จำนวน 44 คน เป็นคนไทย 7 คน พม่า 37 คน สำหรับเรือพรานทะเล 12 ยังถูกโจรสลัดควบคุมไว้พร้อมลูกเรือ 18 คน เป็นคนไทย 4 คน พม่า 14 คน และได้รับการติดต่อจากโจรสลัดขอเรียกค่าไถ่เรือ 2 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งกำลังมีการเจรจาต่อรองกันอยู่ ส่วนความเสียหายมีไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาท

นาวาเอก เคารพ แหลมคม กล่าวว่า กองทัพเรือมีความห่วงใยกองเรือประมงของไทยที่ออกไปทำประมงนอกน่านน้ำ ซึ่งเคยส่งเรือรบไปคุ้มครองช่วยเหลือเรือประมงไทยที่ถูกโจรสลัดโซมาเลียปล้นยึดเรือมาแล้ว ส่วนเรือประมงพรานทะเล 12 ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังหาทางช่วยเหลือต่อไป

สำหรับลูกเรือประมงชาวไทยที่เดินทางมากับเรือพรานทะเล 11 จำนวน 7 คน ประกอบด้วย นายคณิน ต่อประดิษฐ์ นายกิตติศักดิ์ ต่อประดิษฐ์ นายมนัสชัย มีประเสริฐ นายโพธิ์ชัย พร้อมบัวป่า นายศิรภพ วานนท์ และนายจำนง นามแสง และที่ถูกโจรสลัดควบคุมตัวอยู่กับเรือพรานทะเล 12 จำนวน 4 คน ทราบเพียงชื่อเล่น คือ ไต๋ชาญ นายต้น นายใจ และนายทูล