ยะลา - รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่ยะลาระดมนักวิชาการ และผู้ทรงคุณวุฒิระดับชาติทุกสาขา ถกแนวทางแก้ไขปัญหาความไม่สงบ ร่วมกับผู้บริหาร ผู้นำหน่วยตำรวจในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
วันนี้ (7 มี.ค.) เวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุมยะลารวมใจ ชั้น 2 อาคารศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ถ.สุขยางค์ เขตเทศบาลนครยะลา อ.เมือง จ.ยะลา พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ปป 4) เป็นประธานเปิดการสัมมนาผู้บริหาร และผู้นำหน่วยตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้
โดยมี พล.ต.ท.พีระ พุ่มพิเชฎฐ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ไพฑูรย์ ชูชัยยะ ผู้บัญชาการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส สงขลา ผู้บังคับการตำรวจ ตชด. ภาค 4 หัวหน้าศูนย์ส่วนงานในสังกัด ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า ตำรวจทางหลวง ตำรวจน้ำ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง หน่วยบินตำรวจ ตำรวจรถไฟ และตำรวจตรวจพิสูจน์หลักฐาน ตั้งแต่ระดับสารวัตรขึ้นไป จำนวน 166 นาย
เพื่อประเมินผลการปฏิบัติงานในห้วงปีที่ผ่านมา พร้อมทั้งได้เชิญวิทยากร ผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้เชี่ยวชาญพิเศษระดับชาติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม ด้านการทหาร การเมือง การก่อการร้ายสากล กระบวนการยุติธรรม ด้านสิทธิมนุษยชน ประกอบด้วย รศ.ดร.สุรชาติ บำรุงสุข คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร.ต.อ.ดร.นิติภูมิ นวรัตน์ คอลัมน์นิสต์ด้านการต่างประเทศ ศ.ดร.อมรา พงศาพิชญ์ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ดร.ศรีสมภพ จิตต์ภิรมย์ศรี คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี
พล.อ.นิพันธ์ ทองเล็ก ที่ปรึกษากองทัพไทย พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผอ.รมน.ภาค 4 พล.ต.ท.อัมพร จารุจินดา อดีต ผบช.สนว. นายภานุ อุทัยรัตน์ รอง ปลัด มท./เลขาธิการ ศอ.บต. พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รอง ปลัดกระทรวงยุติธรรม พล.ต.สำเร็จ ศรีหร่าย ที่ปรึกษา กอ.รมน.ภาค 4 พล.ต.ต.ยงยุทธ เจริญวานิช รอง ผบช.ศชต. พล.ต.ต.ยุทธนา ตุงคะเสน รอง ผบช.ตชด. และ พล.ต.ต.สฤษฎ์ชัย เอนกเวียง รอง ผบช.สพฐ. ร่วมเป็นวิทยากรในการบรรยาย เพื่อร่วมหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เนื่องจากในห้วงที่ผ่านมาสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ได้ทวีความรุนแรง
พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ปป 4) กล่าวว่า ผลจากการสัมมนาในครั้งนี้ ถือเป็นการระดมความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญพิเศษ ผู้ทรงคุณวุฒิและนักวิชาการระดับสูงของชาติจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ องค์กรต่างๆ และผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อการปฏิบัติภารกิจของ ศปก.ตร.สน. และเพื่อเป็นการขับเคลื่อนนโยบายลงสู่ระดับปฏิบัติการให้เป็นไปในทิศทางที่ถูกต้อง เหมาะสมกับสถานการณ์ และเป็นไปในทิศทางเดียวกันต่อไป
ส่วนเหตุกรณียิงพระภิกษุสงฆ์ในพื้นที่ จ.ปัตตานี นั้น ตนเองได้เน้นย้ำให้ทางชุดสืบสวนเร่งงานสืบสวน เพื่อจับกุมผู้ที่ก่อเหตุแล้ว พร้อมทั้งยังได้สั่งเพิ่มมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัย มาตรการป้องกันเหตุร้าย ต่างๆ ที่จะต้องทำอย่างเข้มข้น ซึ่งในห้วงที่ผ่านมา การปฏิบัติงานร่วมกันของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ก็ทำงานร่วมกันดี ไม่มีปัญหาอะไร
พล.ต.อ.อดุลย์ ยังกล่าวอีกว่า ส่วนกรณีกลุ่มคนร้ายพุ่งเป้าก่อเหตุร้ายในชุมชนชาวไทยพุทธซึ่งในห้วงที่ผ่านมา ได้มีแผนร่วมกันกับฝ่ายปกครอง และหน่วยงานด้านความมั่นคงในพื้นที่ ซึ่งจะต้องมีความเข้มข้นขึ้นเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะในพื้นที่เขตเทศบาล เขตเมือง ตนเองได้มีการเน้นย้ำอยู่เสมอว่า จะต้องดูแลรักษาความปลอดภัยเป็นพิเศษ ส่วนคดีสำคัญๆ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ ไม่ว่าเหตุการณ์ปล้นอาวุธปืนที่ค่ายพระองค์ดำ ร้อย ร.15121 ฉก.นราธิวาส 38 ต.มะรือโบตก อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถออกหมายจับได้แล้ว และคาดว่าจะสามารถจับกุมตัวได้ในเร็วๆ นี้
ส่วนกรณีที่มีใบปลิวออกมาว่า กรณีเหตุยิงพระวัดศรีมหาโพธิ์ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานีขณะบิณฑบาต จนทำให้พระ มรณะ 1 รูป เจ็บอีก 2 รูป นั้น เกิดจากมีการลอบยิงโต๊ะอิหม่ามในพื้นที่อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เสียชีวิตไปก่อนหน้านี้ เรื่องดังกล่าวก็เป็นความพยายามของกลุ่มคนร้ายที่มีความต้องการสร้างความแตกแยกระหว่างพี่น้องชาวไทยพุทธ และชาวไทยมุสลิม ในพื้นที่
