xs
xsm
sm
md
lg

จุฬาฯพบมาร์คดับไฟใต้ ผบ.ทบ.สั่งเข้มครู-พระ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - จุฬาราชมนตรี พบ“มาร์ค” ยอมรับไฟใต้รุนแรงขึ้น ดับไม่ง่าย เหตุสะสมปัญหามานาน แนะสร้างความเข้าใจประชาชน ยกระดับการศึกษาคนในพื้นที่ รับผู้นำศาสนากังวลหลังโต๊ะอิหม่ามถูกฆ่า พระสงฆ์ถูกลอบยิง ด้าน"ผบ.ทบ."สั่งปรับการทำงานดูแลครู-พระใหม่ให้รัดกุมมากขึ้น เผยกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบเตรียมระดมก่อเหตุเน้นเป้าหมายอ่อนแอ

ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เช้าวันนี้ (7 มี.ค.) นายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี พร้อมคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เข้าพบนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี โดยนายอาศิสกล่าวหลังการเข้าพบถึงสถานการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า เป็นเรื่องที่เราทุกคนมีความกังวล บรรดาผู้นำศาสนาก็มีการพูดคุยกัน และต้องแสดงความเสียใจกับความสูญเสียที่เกิดขึ้นกับทุกฝ่าย ก่อนหน้านั้นก็มีโต๊ะอิหม่ามถูกยิง และอยู่มาไม่กี่วันพระสงฆ์ก็ถูกยิง ซึ่งเป็นความพยายามที่จะทำให้เกิดความแตกแยกในหมู่ประชาชน และถือว่าเป็นเรื่องที่กระทบต่อความรู้สึกของทุกคนอย่างยิ่ง

นายอาศิส กล่าวว่า ปัญหาความไม่สงบที่เกิดขึ้นนั้น มันเป็นปัญหาเชิงความคิด และสะสมมาเป็นเวลายาวนาน ต้องใช้เวลาในการสร้างความเข้าใจ ซึ่งรัฐบาลก็พยายามอยู่ แต่การแก้ปัญหาด้วยความรุนแรงนั้นก็จะไม่จบ เหมือนปรากฏการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในโลกใบนี้ ทางที่ดีต้องพยายามสร้างความเข้าใจ ที่สำคัญต้องพยายามยกระดับการศึกษาของคนในพื้นที่ให้สูงขึ้น นี่คือการแก้ไขปัญหาอย่างถาวร ซึ่งถือเป็นภารกิจของรัฐบาล และเจ้าหน้าที่ที่จะต้องดูแล ส่วนบรรดาผู้นำศาสนา ก็คงเป็นฝ่ายที่ให้กำลังใจ ให้แนวคิดที่พยายามสร้างความเข้าใจ ในมิติที่เป็นคำสอนทางศาสนา

**ชี้รัฐบาลแก้ไฟใต้ถูกทางด้วย"สันติวิธี"

ต่อข้อถามว่า ส่วนตัวมองว่านโยบายรัฐบาลเดินมาถูกทางหรือยัง นายอาศิส กล่าวว่า จะบอกว่าไม่ถูกทางไม่ได้ เพราะเป็นการทำที่ต่อเนื่องกันมาและรัฐบาลก็แถลงอยู่ตลอดว่าจะใช้การแก้ปัญหาโดยสันติวิธี และแนวทางนี้ทุกคนก็คิดว่าถูกต้องสำหรับการแก้ไขปัญหา ซึ่งรัฐบาลก็แถลงอยู่ตลอด อยากให้ฝ่ายปฏิบัติดำเนินการไปในแนวทางนี้และเชื่อวันสักวันจะสำเร็จ แม้จะใช้เวลามากก็ตาม

ผู้สื่อข่าวถามว่า ส่วนตัวมองว่าปัญหามันรุนแรงขึ้นหรือเบาลง นายอาศิส กล่าวว่า ช่วงต้นปีดูเหมือนว่าจะรุนแรงมากขึ้น ซึ่งก็เป็นอย่างนี้มาตลอด รุนแรงแล้วก็เบาลงและก็รุนแรงขึ้นเป็นอย่างนี้มาหลายปีแล้ว
" ทุกคนหนักใจ ทั้งเจ้าหน้าที่และประชาชน เมื่อถามอีกว่า ขณะนี้ยังมีปัญหาเรื่องของการแบ่งแยกดินแดนอยู่อีกหรือไม่ นายอาศิส กล่าวว่า จะมีกี่มากน้อย ถ้าจะมีจริงมันก็คงมี แต่ไม่รู้จะเป็นเปอร์เซ็นต์ได้หรือไม่"

**ผบ.ทบ.เผยกลุ่มคนร้ายเตรียมป่วนอีก

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า เมื่อเราดำเนินการในเชิงรุกก็จะมีการตอบโต้กันเป็นเช่นนี้มาโดยตลอด ซึ่งเราจะต้องปรับมาตรการต่างๆ ให้รัดกุมขึ้น เนื่องจากเราอยู่ในที่แจ้งเราเปิดเผย เพราะเราเป็นทหาร เจ้าหน้าที่แต่งเครื่องแบบในการทำงาน แต่อีกฝ่ายใช้การปลอมปนกับประชาชนโดยรวม จึงค่อนข้างยากที่จะจำแนกออกว่าใครเป็นคนดีหรือร้าย

"ที่ผ่านมาผมก็ได้สั่งการมาโดยตลอด ซึ่งก็มีผลการปฏิบัติค่อนข้างดี โดยมีการจับกุมอาวุธยุทโธปกรณ์ได้จำนวนมาก ซึ่งขณะนี้เราก็ทราบข้อมูลทางด้านการข่าวมาว่า กลุ่มคนร้ายได้มีการเตรียมการและรวบรวมกำลังคนในการที่จะปฏิบัติต่อเจ้าหน้าที่เป็นหลักอีก"ผบ.ทบ.กล่าว และว่า

**สั่งเพิ่มมาตรการดูแลครู-พระให้รัดกุมขึ้น

อย่างไรก็ตาม เป้าหมายที่อ่อนแอ เช่น ครู พระ โรงเรียน เราต้องเพิ่มมาตราดูแลให้รัดกุมขึ้น จึงอยากขอร้องไปยังประชาชน พระ โรงเรียน ขอให้ความร่วมมือในการที่จะปฏิบัติตามกรอบในเรื่องของการดูแลของเจ้าหน้าที่ ฝ่ายทหาร ซึ่งบางพื้นที่อาจจะไม่เข้าใจและมองว่ามีทหารอยู่อาจจะทำให้เกิดอันตราย จนไม่อยากให้ทหารไปด้วย ซึ่งถือเป็นเรื่องที่อันตรายมาก

เมื่อถามว่าในส่วนของการดูแลความปลอดภัยของพระสงฆ์จะดำเนินการอย่างไร เนื่องจากกรมศาสนาระบุว่า จะไม่ได้พระออกบิณฑบาต พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นมานานแล้วว่าทางกรมศาสนาไม่อยากให้พระสงฆ์ออกมาบิณฑบาต โดยให้ถวายปัจจัยและให้พระสงฆ์อยู่ที่วัด ซึ่งตามข้อบัญญัติของศาสนาต้องบิณฑบาต

ดังนั้น การบิณฑบาตจะทำอย่างไรให้ปลอดภัย ซึ่งตนเคยให้วิธีการไว้ว่า 1.ให้พระออกมาและให้เจ้าหน้าที่ดูแล โดยให้ไปในพื้นที่ที่กำหนดและเจ้าหน้าที่สามารถดูแลพื้นที่ในภาพรวมได้ 2.นำประชาชนเคลื่อนที่มาหาพระ และไปอยู่ในจุดๆหนึ่งที่เป็นสถานที่ที่ปลอดภัย ซึ่งตอนนี้กำลังหารือในเรื่องอยู่
อย่างไรก็ตาม ตนไม่สามารถที่จะไปสั่งพระได้ เพราะเป็นเรื่องของศาสนา จึงขอให้เป็นการหารือกันระหว่างแม่ทัพ ผู้ว่าราชการจังหวัด พระสงฆ์ และกรมศาสนา ซึ่งเราก็พยายามทำให้ดีที่สุด

**ยิงถล่มอดีต ตร.ดับหลาน1ขวบสาหัส

ต่อมาเวลา 17.50 น.พ.ต.ท.ไพสิฐ แก้วจรัส รอง ผกก.ป.สภ.ปะนาเระ จ.ปัตตานีได้รับแจ้งมีเหตุยิงกันบนถนนสายปะนาเระ-สายบุรี ม.1 บ้านบางมะรวด ต.บ้านกลาง นำกำลังไปที่เกิดเหตุ ไปถึงพบรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโอเปิ้ล ทะเบียน ก 6349 ปัตตานี ตกข้างทางสภาพถูกยิงบริเวณกระจกหน้าและตัวรถหลายแห่ง ภายในรถพบผู้เสียชีวิตคาพวงมาลัย ทราบชื่อ ด.ต.สุพล กล่อมพล อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31/1 ม.2 ต.ปะนาเระ อ.ปะนาเระ สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. หลายแห่ง

นอกจากนี้ ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บถูกนำส่ง โรงพยาบาลปะนาเระ ชื่อ ด.ญ.บุญธิสา มาลายานนท์ อายุ 1 ปี 2 เดือน ถูกยิงเข้าแขนขวาอาการสาหัส แพทย์ต้องส่งต่อไปโรงพยาบาลปัตตานี ในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนขนาด 9 มม.ตกเกลื่อนถนนจำนวน 17 ปลอก

สอบสวนทราบว่า ผู้ตายเป็นอดีตตำรวจ สภ.ปะนาเระ ได้เออรี่มาแล้ว 6 ปี ก่อนเกิดเหตุขณะขับรถยนต์ไปรับหลานที่บ้านและกำลังเดินทางกลับบ้านพักของตนเองซึ่งอยู่ในเขตเทศบาลปะนาเระ มาถึงที่เกิดเหตุถูกคนร้ายคาดว่าประมาณ 2 คนอาวุธปืน 2 กระบอกดักรออยู่ข้างทาง เมื่อผู้ตายขับมาถึงคนร้ายจึงวิ่งออกมาถล่มยิงจนเสียชีวิตทันที ส่วนหลานสาวอาการสาหัส สาเหตุเจ้าหน้าที่เชื่อเป็นฝีมือโจรใต้สร้างสถานการณ์
กำลังโหลดความคิดเห็น