กระบี่ - สมาพันธ์กรรมการอิสลามประจำจังหวัด 15 จังหวัดภาคใต้ แถลงการณ์ประณามอดีตเลขาธิการคณะกรรมการอิสลามกลางแห่งประเทศไทย พร้อมขอให้ยุติการดำเนินคดีต่อจุฬาราชมนตรี หวั่นสร้างความแตกแยกบานปลาย หากยังไม่ยุติจะดำเนินการตอบโต้
เวลา 13.00 น.วันนี้ (20 ม.ค.) ที่ห้องประชุมสำนักงานคณะกรรมการอิสลาม ประจำจังหวัดกระบี่ ต.ไสไทย อ.เมือง จ.กระบี่ นายกริยา กิจจารักษ์ ประธานสมาพันธ์กรรมการอิสลามประจำจังหวัด 15 จังหวัดภาคใต้ ได้เป็นประธาน ในการประชุมสมาชิกสมาพันธ์กรรมการอิสลาม 15 จังหวัดภาคใต้ เพื่อปรึกษาหารือกรณีปัญหาความขัดแย้งภายในองค์กรคณะกรรมการอิสลามแห่งประเทศไทย
กรณีนายพิเชษฐ สถิรชวาล อดีตเลขาธิการคณะกรรมการอิสลามกลางแห่งประเทศไทย แจ้งความดำนินคดีต่อนายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬารารชมนตรี และคณะกรรมการอิสลามแห่งประเทศไทย จำนวน 43 คน ในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์และซ่องโจร ก่อให้เกิดความเสียหายต่อองค์กรและผู้นำศาสนาอิสลามในปัจจุบัน โดยมีตัวแทนคณะกรรมการทั้ง 15 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ พัทลุง ตรัง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และนครศรีธรรมราช รวมจำนวน 75 คน เข้าร่วมประชุมและร่วมแถลงการณ์ประนามการกระทำของนายพิเชษฐ
นายกริยา กิจจารักษ์ ประธานสมาพันธ์กรรมการอิสลามประจำจังหวัด 15 จังหวัดภาคใต้ กล่าวว่า ในการประชุมครั้งนี้สืบเนื่องจากกรณีที่เป็นข่าวทางสื่อมวลชนว่า นายพิเชษฐ สถิรชวาล อดีตเลขาธิการคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย ได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อกองปราบปราม ให้ดำเนินคดีต่อนายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี และคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย รวม 43 ท่าน ในข้อหาลักทรัพย์และซ่องโจร
สมาพันธ์กรรมการอิสลามประจำจังหวัด 15 จังหวัดภาคใต้ จึงได้มีการประชุมหารือกันจึงได้มีมติร่วมกันว่า การกระทำดังกล่าวของนายพิเชษฐ สถิรชวาล เป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องอย่างยิ่ง เป็นการกระทำที่ขัดต่อบทบัญญัติอิสลาม และไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ดังนั้น ในนามของสมาพันธ์ฯ จึงได้ออกแถลงการณ์ร่วมกัน เพื่อต้องการชี้แจงให้พี่น้องชาวมุสลิม ทราบว่าการกระทำของนายของนายพิเชษฐในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นว่าขาดวุฒิภาวะ และไม่ควรทำหน้าที่อยู่ในองค์กรมุสลิมต่อไป และคณะกรรมการมีมติให้นายพิเชษฐและพวกดำเนินการถอนแจ้งความร้องทุกข์ต่อท่านจุฬาราชมนตรี และคณะ และให้ยุติการกระทำใดๆ ทุกกรณี และให้กลับมาปฏิบัติตามหลักการศาสนาอิสลามอย่างเคร่งครัด หากนายพิเชษฐยังไม่ปฏิบัติตามหลังการดังกล่าว สมาพันธ์กรรมการอิสลามประจำจังหวัด 15 จังหวัดภาคใต้ จะดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติของนายพิเชษฐตามกฎหมายต่อไป
เวลา 13.00 น.วันนี้ (20 ม.ค.) ที่ห้องประชุมสำนักงานคณะกรรมการอิสลาม ประจำจังหวัดกระบี่ ต.ไสไทย อ.เมือง จ.กระบี่ นายกริยา กิจจารักษ์ ประธานสมาพันธ์กรรมการอิสลามประจำจังหวัด 15 จังหวัดภาคใต้ ได้เป็นประธาน ในการประชุมสมาชิกสมาพันธ์กรรมการอิสลาม 15 จังหวัดภาคใต้ เพื่อปรึกษาหารือกรณีปัญหาความขัดแย้งภายในองค์กรคณะกรรมการอิสลามแห่งประเทศไทย
กรณีนายพิเชษฐ สถิรชวาล อดีตเลขาธิการคณะกรรมการอิสลามกลางแห่งประเทศไทย แจ้งความดำนินคดีต่อนายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬารารชมนตรี และคณะกรรมการอิสลามแห่งประเทศไทย จำนวน 43 คน ในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์และซ่องโจร ก่อให้เกิดความเสียหายต่อองค์กรและผู้นำศาสนาอิสลามในปัจจุบัน โดยมีตัวแทนคณะกรรมการทั้ง 15 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ พัทลุง ตรัง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และนครศรีธรรมราช รวมจำนวน 75 คน เข้าร่วมประชุมและร่วมแถลงการณ์ประนามการกระทำของนายพิเชษฐ
นายกริยา กิจจารักษ์ ประธานสมาพันธ์กรรมการอิสลามประจำจังหวัด 15 จังหวัดภาคใต้ กล่าวว่า ในการประชุมครั้งนี้สืบเนื่องจากกรณีที่เป็นข่าวทางสื่อมวลชนว่า นายพิเชษฐ สถิรชวาล อดีตเลขาธิการคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย ได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อกองปราบปราม ให้ดำเนินคดีต่อนายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี และคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย รวม 43 ท่าน ในข้อหาลักทรัพย์และซ่องโจร
สมาพันธ์กรรมการอิสลามประจำจังหวัด 15 จังหวัดภาคใต้ จึงได้มีการประชุมหารือกันจึงได้มีมติร่วมกันว่า การกระทำดังกล่าวของนายพิเชษฐ สถิรชวาล เป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องอย่างยิ่ง เป็นการกระทำที่ขัดต่อบทบัญญัติอิสลาม และไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ดังนั้น ในนามของสมาพันธ์ฯ จึงได้ออกแถลงการณ์ร่วมกัน เพื่อต้องการชี้แจงให้พี่น้องชาวมุสลิม ทราบว่าการกระทำของนายของนายพิเชษฐในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นว่าขาดวุฒิภาวะ และไม่ควรทำหน้าที่อยู่ในองค์กรมุสลิมต่อไป และคณะกรรมการมีมติให้นายพิเชษฐและพวกดำเนินการถอนแจ้งความร้องทุกข์ต่อท่านจุฬาราชมนตรี และคณะ และให้ยุติการกระทำใดๆ ทุกกรณี และให้กลับมาปฏิบัติตามหลักการศาสนาอิสลามอย่างเคร่งครัด หากนายพิเชษฐยังไม่ปฏิบัติตามหลังการดังกล่าว สมาพันธ์กรรมการอิสลามประจำจังหวัด 15 จังหวัดภาคใต้ จะดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติของนายพิเชษฐตามกฎหมายต่อไป
