กก.กลางอิสลามฯ จ่อฟ้องกลับ “พิเชษฐ” แจ้งความเท็จ ซัดทำชาวมุสลิมเจ็บปวด

ส.ส.กทม.ประชาธิปัตย์ ในฐานะกรรมการกลางอิสลามฯ ซัด “พิเชษฐ” แจ้งความเล่นจุฬาราชมนตรี พร้อม 43 กรรมการกลาง หวังดิสเครดิต หลังส่งญาติชิงตำแหน่งแต่ไม่ได้ ชี้กระทบจิตใจชาวมุสลิมรุนแรง จ่อฟ้องกลับฐานแจ้งความเท็จ

วันนี้ (17 ม.ค.) นายสมัย เจริญช่าง ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายพิเชษฐ สถิรชวาล อดีตเลขาธิการคณะกรรมการอิสลามกลาง ส่งทนายดำเนินคดีต่อนายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี และคณะกรรรมการกลางอีก 43 รายในข้อหาลักทรัพย์ และช่องโจร ว่า นายพิเชษฐ ได้แจ้งความต่อกองปราบปรามใน 2 ข้อหา เพื่อดิสเครดิตในการคัดเลือกจุฬาราชมนตรี เนื่องจากได้เสนอญาติของนายพิเชษฐเข้ามาชิงตำแหน่งแต่ไม่ได้รับการคัดเลือก นอกจากนี้ยังมีเรื่องตำแหน่งเลขาคณะกรรมการฯ ทั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงไปแล้ว แต่นายพิเชษฐไม่ยอมรับ และพยายามส่งเรื่องไปให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตีความ ซึ่งตามข้อเท็จจริงไม่สามารถทำได้ ที่สามารถทำได้ต้องเป็นหน่วยราชการเท่านั้น ขณะนี้ได้สร้างความเสียหายไปยังต่างประเทศ เพราะคณะกรรมการอิสลามกลางถือเป็นองค์กรที่รับรองผลิตภัณฑ์ฮาลาล โดยจุฬาราชมนตรีเป็นผู้ลงนาม จึงไม่ทราบว่าเจตนารมณ์ลึกๆ แล้วนายพิเชษฐต้องการอะไร เพราะเรื่องนี้ทำให้เสื่อมเสียถึงคณะกรรมการฯ และกระทบจิตใจของพี่น้องชาวมุสลิม ข้อหาดังกล่าวถือว่าร้ายแรงที่ไปกล่าวหาผู้นำมุสลิม ซึ่งนายพิเชษฐอาจจะไม่เข้าใจเพราะเพิ่งมาเป็นมุสลิมตอนหลัง เพราะครอบครัวไม่ได้เป็นมุสลิมมาก่อน จึงไม่ตระหนักถึงสิ่งที่กล่าวหาว่าสร้างความเจ็บปวดให้ชาวมุสลิม

นายสมัยกล่าวต่อว่า ส่วน 2 ข้อหาดังกล่าวนั้น ตนไม่เข้าใจว่าไปแจ้งข้อหาได้อย่างไร โดยเฉพาะข้อหาซ่องโจร ทั้งที่การประชุมทุกครั้งจะมีจุฬาราชมนตรี ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ได้รับการโปรดเกล้าฯ และเป็นประธานในการประชุมทุกครั้ง จะเป็นซ่องโจรได้อย่างไร นอกจากการจ่ายเบี้ยประชุม ส่วนข้อหาลักทรัพย์เข้าใจว่าพยายามจะยัดเยียดข้อหาว่าจ่ายเบี้ยประชุมโดย ไม่ชอบ อย่างไรก็ตาม ทางคณะกรรมการกลางจะดำเนินคดีต่อพิเชษฐ ทั้งทางแพ่งและอาญา โดยเฉพาะข้อหาหมิ่นประมาทแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน