รองนายกฯ มั่นคง รับกลุ้มใจปัญหาไฟใต้ แนะทุกฝ่ายทำความเข้าใจชาวบ้านกรณีตั้งด่าน ยันความสัมพันธ์ในพื้นที่ดีขึ้น ไม่เชื่อบึ้มยะลาเพราะไม่พอใจตำรวจรีดไถ วอนถ้ามีข่าวให้ส่งมา ยันแก้ปัญหาถูกทางแล้วแต่ต้องใช้เวลา
วันนี้ (22 ก.พ.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ยอมรับว่ากลุ้มใจ ซึ่งจะขอให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ทั้งฝ่ายพลเรือน ตำรวจและทหารไปปรับกระบวนการ โดยเพิ่มความถี่ในการปิดล้อม หรือตรวจค้นให้แข็งแรงมากขึ้น ตนเข้าใจว่าเจ้าหน้าที่ทำงานลำบากเพราะเมื่อตั้งด่านตรวจค้นมาก ประชาชนก็เดินทางไม่สะดวกและเกิดความหงุดหงิด เมื่อตรวจค้นหย่อนยานก็เป็นช่องว่างให้คนร้ายก่อเหตุ ดังนั้น ทุกฝ่ายทั้งอาสาสมัครฝ่ายพลเรือน ฝ่ายปกครอง ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ต้องทำความเข้าใจกับประชาชนให้ชัดเจนถึงความจำเป็นในการเนินการของเจ้าหน้าที่
เมื่อถามว่า แสดงว่ายังมีเจ้าหน้าที่บางหน่วยงานยังไม่ให้ความร่วมมือเท่าที่ควร นายสุเทพกล่าวว่า ไม่ใช่อย่างนั้น แต่จำเป็นต้องเพิ่มมาตรการการดูแลปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนให้มากขึ้น หากเกิดเหตุขึ้นในป่าเขาเป็นหน้าที่ของตำรวจ ทหาร แต่ถ้าเกิดในเมืองทุกฝ่ายสามารถช่วยเหลือตำรวจทหารได้อีกทางหนึ่ง เพราะหากปล่อยให้ตำรวจ ทหาร ทำฝ่ายเดียวก็ดูแลไม่หมด เมื่อถามถึงความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าหน้าที่กับประชาชนดีขึ้นหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ดีและจะดีขึ้นเรื่อยๆ แต่เรื่องคนร้ายที่ต้องดูกันให้เข้มงวด เมื่อถามฝ่ายข่าวได้รายงานหรือไม่ว่าเหตุระเบิดในพื้นที่ จ.ยะลา สืบเนื่องมาจากประชาชนไม่พอใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจบางคนที่ตั้งด่านรีดไถ รองนายกฯ กล่าวว่า ตนไม่เชื่อว่าเป็นอย่างนั้น และถ้าเกิดเหตุอย่างที่กล่าวมาประชาชนคงแจ้งและร้องเรียนนักการเมืองของแต่ละพรรค รวมทั้งรัฐมนตรี ที่ลงพื้นที่พบปะประชาชนและรับฟังปัญหาให้ได้ทราบ ซึ่งตนยังไม่เคยเห็นว่ามีกรณีเช่นนี้
เมื่อถามย้ำว่า มีกระแสข่าวว่าตำรวจทางหลวงบางคนที่ไปรีดไถพ่อค้ายางและขนส่งสินค้าเกษตร นายสุเทพกล่าวว่า ถ้าเกิดกรณีเช่นนั้นจริงให้ช่วยรายงานให้ทราบ และเชื่อว่า ผบช.ก. เอาจริงกับเรื่องนี้อยู่แล้ว ถามว่าจนถึงขณะนี้รัฐบาลยังยืนยันหรือไม่ว่าแนวทางการแก้ปัญหาความไม่สงบในภาคใต้เดินมาถูกทางแล้ว นายสุเทพกล่าวว่า ทิศทางที่ทำถูกต้องแล้ว แต่มาตรการและกระบวนการในการดำเนินการต้องให้เข้มแข็ง ส่วนที่ผู้ก่อความไม่สงบพัฒนาฝีมือไปมากขึ้นนั้น นายสุเทพกล่าวว่า คงไม่ต้องไปสงสัยเพราะเขาเป็นคนร้ายและตั้งใจทำเรื่องเหล่านี้ เมื่อเขาพัฒนาเราก็ต้องพัฒนาให้รับมือได้และให้ดีขึ้นกว่านี้
เมื่อถามถึงความคืบหน้าการสืบหาคนร้ายโจมตีฐานปฏิบัติการ ร.15121 ฉก.นราธิวาสที่ 38 อ.ระแงะ จ.นราธิวาส นายสุเทพกล่าวว่า ตนไม่ขอพูดหรือลงลึกในรายละเอียดเรื่องนี้ ต่อข้อถามว่า ก่อนหน้านี้นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่ามีการเรียกตัวผู้ต้องสงสัยมาให้ปากคำ นายสุเทพกล่าวว่า ต้องไปถามนายปณิธาน เพราะตนไม่ชอบพูดอะไรที่เป็นปัญหา เมื่อถามย้ำว่า ทำไมรัฐบาลยังเข้าไม่ถึงต้นเหตุปัญหาที่แท้จริง รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ก็รู้และทราบสาเหตุของปัญหาว่าเป็นอย่างไร แต่การแก้ปัญหาต้องใช้เวลา ต่อข้อถามว่า รัฐบาลเข้าข้างตัวเองเกินไปหรือไม่ที่ระบุว่าทราบปัญหา นายสุเทพกล่าวว่า ไม่ใช้ ตนเป็นคนที่ยอมรับความจริง ไม่เข้าข้างใครความจริงเป็นอย่างไรก็ต้องว่าไปอย่างนั้น ส่วนการทำงานจะให้กำลังใจและสนับสนุนเจ้าหน้าที่ต่อไป รวมทั้งชี้แนะในสิ่งที่ควรจะบอกก็ต้องบอก เมื่อถามกรณีที่เจ้าหน้าที่ที่บาดเจ็บบางคนระบุปฏิบัติการดึงมวลชนโดยนำมา ฝึกอบรมในค่ายทหาร เป็นการเปิดช่องทางให้ผู้ก่อความไม่สงบรู้ช่องทางภายในค่ายทหารได้ง่าย นายสุเทพกล่าวว่า ตนไม่วิจารณ์ แต่ที่ตั้งของทหารและกองกำลังไม่ใช่ที่ที่จะอนุญาตให้ใครเข้าไป