ASTVผู้จัดการ :ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ เผยข้อมูลสถิติเหตุรุนแรงรอบ 7 ปี เกิดกว่า 7 ,000 เหตุการณ์ เสียชีวิต 4,200 บาดเจ็บ 7,773 คน ออกหมายจับผู้ก่อเหตุแล้วกว่า 8,000 ราย ด้านโจรใต้ก่อเหตุไม่หยุด ลอบวางระเบิดชุดคุ้มครองครู อส.ทพ.บาดเจ็บ 1 ขณะที่ทหาร-ตำรวจ สนธิกำลังปิดล้อมตรวจค้นบ้านต้องสงสัย 10 จุดในอ.กรงปินัง พบกระสุนปืน-แมกกาซีน ของคนร้ายฝังอยู่ใต้ดินในสวนยาง
วานนี้(16 ก.พ.) ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศชต.) อ.เมือง จ.ยะลา ได้เปิดเผยรายงานข้อมูลสถิติการก่อเหตุของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงว่า นับแต่ปี 2547 เป็นต้นมา ได้เกิดสถานการณ์ความไม่สงบขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จนถึงขณะนี้ (15 ก.พ.) มีเหตุเกิดแล้วถึง 7,499 เหตุ เฉลี่ยวันละ 2.8 เหตุ เฉพาะปี 2550 ภาพรวมทั้งปีเหตุเกิดมากที่สุด 2,475 เหตุ นอกนั้น เฉลี่ยปีละ กว่า 1,300 เหตุ
สำหรับปี 2554 นับแต่ ม.ค.-ก.พ. 2554 มีเหตุเกิด 77 เหตุ เฉลี่ยวันละ 1.9 เหตุ พบว่า มีความรุนแรงเพิ่มขึ้น หากเทียบกับห้วงเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมา
ส่วนผู้บาดเจ็บ-เสียชีวิต นับแต่ปี 2547-ก.พ. 2554 มีผู้บาดเจ็บรวม 7,773 คน เป็นประชาชน 5,212 คน เจ้าหน้าที่ทหาร และตำรวจอีกจำนวนหนึ่ง ผู้เสียชีวิตรวม 4,200 คน เป็นประชาชน 3,643 คน ครู เจ็บ 103 คน เสียชีวิต 111 คน ส่วนคนร้าย บาดเจ็บ 31 คน และเสียชีวิต 215 คน
ทั้งนี้ ตลอดเวลาที่ผ่านมา กลุ่มผู้ก่อเหตุ ยังคงดำรงเป้าหมายพยายามก่อเหตุอย่างต่อเนื่องทุกครั้งที่มีโอกาส โดยเป้าหมาย คือ การแบ่งแยกดินแดน ใช้ปฏิบัติการลอบทำร้ายต่อทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ และประชาชนผู้บริสุทธิ์ ไม่เลือกว่าจะเป็นผู้หญิง เด็ก นักเรียน แม้แต่คนชราก็ลงมือกระทำอย่างโหดเหี้ยม ไร้มนุษยธรรม โดยเฉพาะในระยะเวลาอันใกล้นี้ (มี.ค.54) จะมีการประชุมขององค์การการประชุมอิสลาม(OIC) กลุ่มผู้ก่อเหตุจึงมุ่งเร่งสร้างผลงานเพื่อยกระดับปัญหาสู่การพิจารณาของ OIC และลดความน่าเชื่อถือของอำนาจรัฐไทย
ดังนั้น ห้วงเดือน ม.ค.-ก.พ. 2554 จึงมักจะมีเหตุเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น อาทิ เหตุโจมตีฐานทหาร ร้อย ร.15121 ที่ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 19 ม.ค. 2554 ยึดปืนของทางราชการหลายกระบอก ทหารเสียชีวิตจำนวนหนึ่ง เหตุยิงและเผารถยนต์ราษฎร 3 ศพ ที่ อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี เมื่อ 10 ก.พ. 2554 และ เหตุระเบิดรถยนต์บริเวณย่านการค้า เกิดเพลิงไหม้อาคารเสียหายหลายคูหา มีผู้บาดเจ็บ 16 ราย ในเขตเทศบาลนครยะลา เมื่อ 13 ก.พ. 2554
ในรายงานยังได้ระบุอีกว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนถึงขณะนี้ เจ้าหน้าที่สามารถออกหมายจับผู้กระทำผิดถึง 8,385 หมาย
ขณะที่เหตุรุนแรงในจังหวัดชายแดนใต้ยังมีต่อเนื่อง เวลา 08.50 น. วานนี้ (16 ก.พ.) ได้เกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดชุดรักษาความปลอดภัยครู ที่ริมถนน หมู่ 4 บ.บือมัง ต.บือมัง อ.รามัน จ.ยะลา โดยอาสาสมัครทหารพราน ได้รับบาดเจ็บ 1 นาย คือ อาสาสมัครทหารพราน ประโยชน์ ขาวบริสุทธิ์ อายุ 32 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดได้รับบาดเจ็บที่บริเวณแขนเล็กน้อย
จากการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุของ เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ภ.จว.ยะลา พบเศษกล่องเหล็ก และเศษสะเก็ดระเบิดตกอยู่ รวมทั้งเศษวงจรออเล็กทรอนิกส์ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน เบื้องต้นเชื่อเป็นระเบิดชนิดแสวงเครื่องน้ำหนักประมาณ 3-5 กก. ที่บรรจุในกล่องเหล็ก ส่วนการจุดชนวนยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ
จากการสอบสวนทราบว่าในขณะที่ อส.ทพ.ประโยชน์ พร้อมกำลังอาสาสมัครทหารพราน ร้อย ทพ.4103 จำนวน 10 นาย เดินเท้าลาดตระเวนเพื่อดูแลรักษาความปลอดภัยเส้นทาง และรักษาความปลอดภัยครู เมื่อเดินมาถึงจุดเกิดเหตุ คนร้ายที่ได้นำระเบิดมาซุกเอาไว้จึงได้จุดชนวนขึ้น เป็นเหตุให้ อส.ทพ.ประโยชน์ ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เชื่อเป็นฝีมือของกลุ่มคนร้าย ที่ต้องการสร้างสถานการณ์ในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง
**ปิดล้อม10 จุดได้กระสุน-แมกกาซีนซุกใต้ดิน
ส่วนที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา พล.ต.ต.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ หัวหน้าชุดสืบสวนสอบสวนคดีพิเศษ ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.อ.คมกฤช รัตน์ฉายา ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 41 พ.ท.ภาส วงศ์สารภี ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจยะลาที่ 13 ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ทหารพราน 41 และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนคดีพิเศษ ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้กว่า 100 นาย เข้าปิดล้อมตรวจค้นในพื้นที่เป้าหมาย บริเวณหมู่ที่ 3 บ้านตะโล๊ะมานะ ต.ปุโรง อ.กรงปินัง จ.ยะลา กว่า 10 จุด
หลังแหล่งข่าวด้านความมั่นคงแจ้งว่า กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ที่มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุยิงถล่มฐานและปล้นปืน ที่ฐานปฏิบัติการ ร้อย ร.15121 หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาสที่ 38 บ้านมะรือโบตก อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ที่ ได้นำอาวุธปืนสงคราม มาซุกซ่อนอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งหลังการปิดล้อมตรวจค้นกว่า 5 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่พบกระสุนปืนคาร์บินกว่า 200 นัด แมกกาซีนปืนคาร์บิน 5 อัน ชุดพราน แบบทหารพราน และเป้สนามซุกซ่อนอยู่ในท่อพีวีซี แล้วฝังใต้ดิน ภายในสวนยางพารา หมู่ที่ 3 ต.ปุโรง
เจ้าหน้าที่จึงได้นำหลักฐานที่พบทั้งหมดมาให้เจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์ เพื่อทำการตรวจสอบหาลายนิ้วมือแฝง และ เก็บดีเอ็นเอ ไว้เป็นหลักฐานเพื่อทำการตรวจสอบหาข้อมูลในเชิงลึกต่อไป
นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ได้เชิญบุคคลต้องสงสัย ว่าอาจจะมีส่วนรู้เห็นกับสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ จำนวน 5 ราย ซึ่งเป็นชาวบ้านในพื้นที่ ส่งตัวไปเข้ากระบวนการซักถาม ที่หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 38 อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เพื่อขยายผลต่อไป
วานนี้(16 ก.พ.) ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศชต.) อ.เมือง จ.ยะลา ได้เปิดเผยรายงานข้อมูลสถิติการก่อเหตุของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงว่า นับแต่ปี 2547 เป็นต้นมา ได้เกิดสถานการณ์ความไม่สงบขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จนถึงขณะนี้ (15 ก.พ.) มีเหตุเกิดแล้วถึง 7,499 เหตุ เฉลี่ยวันละ 2.8 เหตุ เฉพาะปี 2550 ภาพรวมทั้งปีเหตุเกิดมากที่สุด 2,475 เหตุ นอกนั้น เฉลี่ยปีละ กว่า 1,300 เหตุ
สำหรับปี 2554 นับแต่ ม.ค.-ก.พ. 2554 มีเหตุเกิด 77 เหตุ เฉลี่ยวันละ 1.9 เหตุ พบว่า มีความรุนแรงเพิ่มขึ้น หากเทียบกับห้วงเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมา
ส่วนผู้บาดเจ็บ-เสียชีวิต นับแต่ปี 2547-ก.พ. 2554 มีผู้บาดเจ็บรวม 7,773 คน เป็นประชาชน 5,212 คน เจ้าหน้าที่ทหาร และตำรวจอีกจำนวนหนึ่ง ผู้เสียชีวิตรวม 4,200 คน เป็นประชาชน 3,643 คน ครู เจ็บ 103 คน เสียชีวิต 111 คน ส่วนคนร้าย บาดเจ็บ 31 คน และเสียชีวิต 215 คน
ทั้งนี้ ตลอดเวลาที่ผ่านมา กลุ่มผู้ก่อเหตุ ยังคงดำรงเป้าหมายพยายามก่อเหตุอย่างต่อเนื่องทุกครั้งที่มีโอกาส โดยเป้าหมาย คือ การแบ่งแยกดินแดน ใช้ปฏิบัติการลอบทำร้ายต่อทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ และประชาชนผู้บริสุทธิ์ ไม่เลือกว่าจะเป็นผู้หญิง เด็ก นักเรียน แม้แต่คนชราก็ลงมือกระทำอย่างโหดเหี้ยม ไร้มนุษยธรรม โดยเฉพาะในระยะเวลาอันใกล้นี้ (มี.ค.54) จะมีการประชุมขององค์การการประชุมอิสลาม(OIC) กลุ่มผู้ก่อเหตุจึงมุ่งเร่งสร้างผลงานเพื่อยกระดับปัญหาสู่การพิจารณาของ OIC และลดความน่าเชื่อถือของอำนาจรัฐไทย
ดังนั้น ห้วงเดือน ม.ค.-ก.พ. 2554 จึงมักจะมีเหตุเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น อาทิ เหตุโจมตีฐานทหาร ร้อย ร.15121 ที่ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 19 ม.ค. 2554 ยึดปืนของทางราชการหลายกระบอก ทหารเสียชีวิตจำนวนหนึ่ง เหตุยิงและเผารถยนต์ราษฎร 3 ศพ ที่ อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี เมื่อ 10 ก.พ. 2554 และ เหตุระเบิดรถยนต์บริเวณย่านการค้า เกิดเพลิงไหม้อาคารเสียหายหลายคูหา มีผู้บาดเจ็บ 16 ราย ในเขตเทศบาลนครยะลา เมื่อ 13 ก.พ. 2554
ในรายงานยังได้ระบุอีกว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนถึงขณะนี้ เจ้าหน้าที่สามารถออกหมายจับผู้กระทำผิดถึง 8,385 หมาย
ขณะที่เหตุรุนแรงในจังหวัดชายแดนใต้ยังมีต่อเนื่อง เวลา 08.50 น. วานนี้ (16 ก.พ.) ได้เกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดชุดรักษาความปลอดภัยครู ที่ริมถนน หมู่ 4 บ.บือมัง ต.บือมัง อ.รามัน จ.ยะลา โดยอาสาสมัครทหารพราน ได้รับบาดเจ็บ 1 นาย คือ อาสาสมัครทหารพราน ประโยชน์ ขาวบริสุทธิ์ อายุ 32 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดได้รับบาดเจ็บที่บริเวณแขนเล็กน้อย
จากการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุของ เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ภ.จว.ยะลา พบเศษกล่องเหล็ก และเศษสะเก็ดระเบิดตกอยู่ รวมทั้งเศษวงจรออเล็กทรอนิกส์ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน เบื้องต้นเชื่อเป็นระเบิดชนิดแสวงเครื่องน้ำหนักประมาณ 3-5 กก. ที่บรรจุในกล่องเหล็ก ส่วนการจุดชนวนยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ
จากการสอบสวนทราบว่าในขณะที่ อส.ทพ.ประโยชน์ พร้อมกำลังอาสาสมัครทหารพราน ร้อย ทพ.4103 จำนวน 10 นาย เดินเท้าลาดตระเวนเพื่อดูแลรักษาความปลอดภัยเส้นทาง และรักษาความปลอดภัยครู เมื่อเดินมาถึงจุดเกิดเหตุ คนร้ายที่ได้นำระเบิดมาซุกเอาไว้จึงได้จุดชนวนขึ้น เป็นเหตุให้ อส.ทพ.ประโยชน์ ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เชื่อเป็นฝีมือของกลุ่มคนร้าย ที่ต้องการสร้างสถานการณ์ในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง
**ปิดล้อม10 จุดได้กระสุน-แมกกาซีนซุกใต้ดิน
ส่วนที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา พล.ต.ต.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ หัวหน้าชุดสืบสวนสอบสวนคดีพิเศษ ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.อ.คมกฤช รัตน์ฉายา ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 41 พ.ท.ภาส วงศ์สารภี ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจยะลาที่ 13 ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ทหารพราน 41 และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนคดีพิเศษ ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้กว่า 100 นาย เข้าปิดล้อมตรวจค้นในพื้นที่เป้าหมาย บริเวณหมู่ที่ 3 บ้านตะโล๊ะมานะ ต.ปุโรง อ.กรงปินัง จ.ยะลา กว่า 10 จุด
หลังแหล่งข่าวด้านความมั่นคงแจ้งว่า กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ที่มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุยิงถล่มฐานและปล้นปืน ที่ฐานปฏิบัติการ ร้อย ร.15121 หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาสที่ 38 บ้านมะรือโบตก อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ที่ ได้นำอาวุธปืนสงคราม มาซุกซ่อนอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งหลังการปิดล้อมตรวจค้นกว่า 5 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่พบกระสุนปืนคาร์บินกว่า 200 นัด แมกกาซีนปืนคาร์บิน 5 อัน ชุดพราน แบบทหารพราน และเป้สนามซุกซ่อนอยู่ในท่อพีวีซี แล้วฝังใต้ดิน ภายในสวนยางพารา หมู่ที่ 3 ต.ปุโรง
เจ้าหน้าที่จึงได้นำหลักฐานที่พบทั้งหมดมาให้เจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์ เพื่อทำการตรวจสอบหาลายนิ้วมือแฝง และ เก็บดีเอ็นเอ ไว้เป็นหลักฐานเพื่อทำการตรวจสอบหาข้อมูลในเชิงลึกต่อไป
นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ได้เชิญบุคคลต้องสงสัย ว่าอาจจะมีส่วนรู้เห็นกับสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ จำนวน 5 ราย ซึ่งเป็นชาวบ้านในพื้นที่ ส่งตัวไปเข้ากระบวนการซักถาม ที่หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 38 อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เพื่อขยายผลต่อไป