ยะลา - โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เผยว่า กลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุยิงถล่มฐานปฏิบัติการ กองร้อยทหารราบที่ 15121 สังกัดหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาสที่ 38 บ้านมะรือโบตก คาดเป็นฝีมือของกลุ่มนายแวอาลี คอปเตอร์ วาจิ ซึ่งเคลื่อนไหวในบริเวณเทือกเขาบูโด
จากเหตุการณ์ที่มีกลุ่มกองกำลังไม่ต่ำกว่า 40 คน เข้าโจมตี และปะทะกับเจ้าหน้าที่ทหารที่ตั้งฐานปฏิบัติการ กองร้อยทหารราบที่ 15121 สังกัดหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาสที่ 38 บ้านมะรือโบตก หมู่ที่ 1 ต.มะรือโบตก อ.ระแงะ จ.นราธิวาส มีการปะทะกันประมาณ 30 นาที กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบจึงล่าถอยไป หลังเกิดเหตุพบผู้เสียชีวิต จำนวน 4 นายคือ 1.ร.อ.กฤช คัมภีรญาณ ผู้บังคับกองร้อยทหารราบที่ 15121 2.ส.อ.เทวรัตน์ เทวา 3.ส.อ.อับดุลเลาะ ดะหยี และ พลทหารประวิทย์ ชูกลิ่น และ มีผู้บาดเจ็บอีก 7 นาย และกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบยังได้งัดประตู และขโมยอาวุธปืนสงคราม เอ็ม.16 และอาวุธปืนพกสั้น ขนาด 11 ม.ม. ไปจำนวนกว่า 50 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนกว่า 4,000 นัด
วันนี้ (20 ม.ค.) พ.อ.บรรพต พูลเพียร โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 สน. กล่าวว่า ตนต้องขอแสดงความเสียใจกับญาติพี่น้องของทหารกล้า ที่ได้เสียสละที่ได้ทำการต่อสู้กับกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงปกป้องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้มีทหารสูญเสียชีวิต จำนวน 4 นาย และได้รับบาดเจ็บอีกหลายนาย ซึ่งกำลังนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นความพยายามที่จะแสดงศักยภาพของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง เป็นศักยภาพด้านการทหารที่ยังคงมีอยู่ในพื้นที่บางพื้นที่ของจังหวัดชายแดนภาคใต้
บางส่วนอาจจะวิเคราะห์ว่าเป็นการเกี่ยวพันกับการต่ออายุพระราชกำหนดบริหารราชการณ์ในสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือต่อ พ.ร.ก. ตนขอชี้แจงว่าไม่น่าจะเกี่ยวข้องกันเป็นเรื่องเฉพาะพื้นที่ เฉพาะอำเภอ เฉพาะจังหวัดที่ยังคงมีความพยายามที่จะก่อเหตุในรูปแบบนี้อยู่
สำหรับกลุ่มที่ก่อเหตุในครั้งนี้นั้น คาดว่าเป็นกลุ่มที่ปฏิบัติการอยู่ในพื้นที่ อ.เจาะไอร้อง และ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เป็นกลุ่มของนายแวอาลี คอปเตอร์ วาจิ ซึ่งมีสมาชิกกลุ่ม ประมาณ 30 คน เคลื่อนไหวในบริเวณเทือกเขาบูโด ซึ่งกลุ่มนี้เคยเคลื่อนไหวหลบซ่อนตัวบนเทือกเขาตะแว เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปค้นหาก็สามารถค้นพบที่พักชั่วคราว และคิดว่าหลังเกิดเหตุกลุ่มคนร้ายน่าจะเข้าไปหลบซ่อนตัวบนเทือกเขาบูโด บริเวณที่มีรอยต่อหลายๆ อำเภอของ จ.นราธิวาส และ จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นบริเวณกว้าง ฐานปฏิบัติการที่เกิดเหตุก็อยู่ติดกับเทือกเขาบูโด เช่นกัน คาดว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุรุ่นแรงได้รวมตัวกันลงมา ทางด้านหลังของฐานปฏิบัติการ
หลังเกิดเหตุแล้ว เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นกำลังตำรวจ ทหาร และ ฝ่ายปกครอง ได้ไล่ติดตามเพื่อที่จะจับกุมตัวผู้ที่ก่อเหตุในครั้งนี้ เพื่อมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งจะมีการปูพรมค้นหาในแต่ละหมู่บ้านทีละหลัง และตามรายหมู่บ้านตามเส้นทางหมายเลข 4058 ที่จะไป อ.ยี่งอ ซึ่งคาดว่ากลุ่มผู้ที่ก่อเหตุน่าจะมีการหลบซ่อนตัวอยู่ เพื่อทำการค้นหาเบาะแส วัตถุพยาน จะมีการค้นหากันอย่างต่อเนื่องใช้ระยะเวลา 5 - 7 วัน เป็นอย่างน้อย เพื่อที่จะติดตามกลุ่มผู้ที่ก่อเหตุมาให้ได้
สำหรับตัวเลขของอาวุธปืนของเจ้าหน้าที่ทหารที่กลุ่มคนร้ายได้นำไปด้วยนั้น อาวุธปืนที่ทางหน่วยมีความสนใจเป็นกรณีพิเศษ คือ อาวุธปืนเอ็ม 16 ประจำกาย ประมาณ 20 กว่ากระบอกที่คนร้ายได้นำไป แต่ก็ยังไม่สามารถที่จะยืนยันตัวเลขที่แน่นอนได้ในขณะนี้ ตนขอเรียนว่า ที่บางส่วนใช้คำว่าปล้นปืนนั้นก็ไม่น่าจะใกล้เคียงมากนัก เพราะว่ายุทธวิธีในการรบนั้น เมื่อฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดอ่อนกำลังลง หรือเกิดการสูญเสียขึ้นอีกฝ่ายก็จะหยิบฉวยอาวุธปืนที่พอหาได้ไปใช้ประโยชน์ต่อไปก็มักจะเป็นในรูปแบบนี้
ดังนั้น การใช้คำว่าเป็นการปล้นปืน ตนขอโต้แย้งในเรื่องนี้ส่วนอาวุธปืนอื่นๆ นั้น ตนก็อนุญาตในการทำการตรวจสอบว่าเป็นอาวุธปืนส่วนตัว ปืนพกสั้นอย่างไร
สำหรับการระวังป้องกันหน่วย และการระวังป้องกันตนเองนั้นได้มีการกำชับกับหน่วยที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อยู่ตลอดเวลา ตั้งแต่ทุกหน่วยจะเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อยู่แล้ว ซึ่งในพื้นที่แห่งนี้การทำงานจะต้องอยู่ในความไม่ประมาท ในเรื่องนี้ทุกคนทราบดี เหตุการณ์ในลักษณะนี้ว่างเว้นไม่ได้เกิดขึ้นมานานถึง 6 ปีมาแล้ว ตนเองเข้าใจว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุรุ่นแรงได้พยายามที่จะหาช่องว่างหาโอกาสที่จะรวมตัวกันก่อเหตุ
ขณะที่เกิดเหตุการณ์ก็ยอมรับว่า เป็นช่วงที่เจ้าหน้าที่ทหารบางส่วนกำลังรับประทานอาหารเย็นอาจจะมีการจัดเวรยามการเข้าเวรไม่เป็นไปตามเวลา ก็อาจจะเป็นช่องว่าง ที่กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงใช้เป็นช่องว่างในการก่อเหตุ
ส่วนการช่วยเหลือผู้ที่เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ผู้ที่เสียชีวิตไปแล้วนั้น มีนายทหาร นายสิบ และพลทหาร ทางราชการก็จะมีการดูแลครอบครัวอย่างเต็มที่ ตามสิทธิที่สมควรจะได้รับ ทุกส่วนราชการตั้งแต่สำนักนายกรัฐมนตรี กอ.รมน.ภาค 4 สน. ส่วนราชการที่เป็นต้นสังกัด รวมทั้งส่วนราชการอื่นๆ ก็จะได้ให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ สำหรับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจะมีการดูแลพยาบาลอย่างเต็มที่แล้ว ก็จะมีเงินชดเชย เงินค่าเยียวยาตามเกณฑ์ของแต่ละส่วนราชการต่อไป
