ยะลา - หน่วยข่าวความมั่นคงจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตะลึงหลังพบภาพกลุ่มเยาวชนหญิงมุสลิม ฝึกการใช้อาวุธสงครามในต่างประเทศ เตรียมเข้ามาก่อเหตุในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
จากกรณีที่ แพทย์หญิงคุณหญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ออกมาระบุว่า กลุ่มคนร้ายที่โจมตีฐานปฎิบัติการ ร้อย ร.15121 ฉก.นราธิวาส 38 ที่ผ่านมา โดยพยานหลักฐานที่ได้สามารถเก็บมาตรวจสอบได้จากจุดเกิดเหตุ และการทำงานร่วมกันทั้งฝ่ายตำรวจและทหารในพื้นที่ ก็ได้ข้อมูลที่ออกมาตรงกัน ก็คือ กระสุนปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ รวมทั้งดีเอ็นเอจากวัตถุพยานในที่เกิดเหตุทั้งหมด ขณะนี้ได้วัตถุพยานมากกว่า 50-60 คน ประเด็นที่สำคัญ เจ้าหน้าที่พบว่า ดีเอ็นเอของคนร้ายที่ก่อเหตุ เป็นแนวร่วมรุ่นใหม่ เป็นกลุ่มใหม่ เนื่องจากเป็นดีเอ็นเอที่ไม่ตรงกับฐานข้อมูลเดิมที่มีอยู่
ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว ล่าสุด วันนี้ (18 ก.พ.) หน่วยข่าวความมั่นคงที่เกาะติดสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้พบภาพเยาวชนสตรีมุสลิมอายุประมาณ 17-20 ปี ที่มีการฝึกใช้อาวุธปืนสงครามในท่าเตรียมพร้อม โดยเจ้าหน้าที่ได้ภาพดังกล่าวจากการบุกตรวจค้นพื้นที่ และได้แจกจ่ายภาพดังกล่าวไปตามหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ เพื่อให้ตรวจสอบและติดตามหาความเคลื่อนไหวของกลุ่มเยาวชนสตรีมุสลิมในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
หน่วยข่าวในพื้นที่ ยังพบเบาะแสความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบระดับแกนนำ ได้ปลุกระดมเยาวชนสตรีมุสลิมใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะกลุ่มสตรีมุสลิมที่มีความรู้สึก ว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากเหตุความไม่สงบในพื้นที่ เช่น ญาติพี่น้องเสียชีวิตจากเหตุความไม่สงบ โดยแกนนำก่อความไม่สงบได้บิดเบือนข้อมูล ว่า เป็นการกระทำของฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐ และปลุกระดมให้กลุ่มสตรีเหล่านี้เข้ามาร่วมกับขบวนการ เพื่อส่งไปฝึกการใช้อาวุธปืนสงครามให้ในต่างประเทศ เพื่อกลับมาก่อเหตุกับเจ้าหน้าที่ภาครัฐ ซึ่งที่ผ่านมา มีรายงานว่า มีการส่งไปฝึกเยาวชนสตรีมุสลิมแล้วจำนวนหลายรุ่น โดยจะไปในรูปแบบของการออกไปศึกษานอกประเทศ หรือออกไปประกอบอาชีพแต่แท้จริงแล้ว ได้มีการนัดแนะรวมกลุ่มกันในประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อเข้าฝึกอบรมการก่อการร้าย
ประกอบกับเหตุการณ์ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เคยมีการก่อเหตุซุ่มยิงจุดตรวจในพื้นที่ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส และพื้นที่ จ.ปัตตานี กลุ่มคนร้ายได้แต่งกายคล้ายสตรีมุสลิมเข้ามาก่อเหตุหลายครั้ง จึงมีความเป็นไปได้สูงว่า กลุ่มที่มาก่อเหตุอาจะเป็นกลุ่มเยาวชนสตรีมุสลิม ที่ผ่านการฝึกมาจากต่างประเทศจริง ขอให้ทุกหน่วยระมัดระวังคนร้ายที่มักแต่งกายคล้ายสตรีมุสลิมเป็นพิเศษ โดยเฉพาะจุดตรวจจุดสกัดเพิ่มความระมัดระวัง และเพิ่มความเข้มในการรักษาความปลอดภัยด้วย