“เทพเทือก” เผยกองทัพบกเตรียมปรับปรุงการวางกำลังดูแลประชาชนและตัวเองในพื้นที่ภาคใต้ให้ดีขึ้นหลังเกิดเหตุถี่ กำชับตั้งด่านเข้ม พร้อมเพิ่มขีดความสามารถด่านการข่าว ยันไม่ใช่ความรุนแรงเข้าปราบปราม
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงการก่อความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ว่าเริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้น ล่าสุดมีการกราดยิงประชาชนในพื้นที่ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย และบาดเจ็บจำนวนหนึ่งนั้นว่า เมื่อวันที่ 3 ก.พ.ที่ผ่านมาได้หารือกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. และ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ เสนาธิการทหารบก ทางกองทัพบกพยายามที่จะปรับปรุงการวางกำลัง การดูแลเจ้าหน้าที่ การกวดขันเจ้าหน้าที่พยายามที่จะปรับให้ดีที่สุดเพื่อที่จะให้มีขีดความสามารถในการคุ้มครองป้องกันชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนได้ และดูแลตัวเองได้ด้วย
“ผมได้ปรึกษากันเมื่อวานว่า มันมีปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่เป็นประจำ คือเวลาเจ้าหน้าที่ตั้งด่านตามถนนต่างๆ เข้มงวดในการตรวจ ประชาชนก็บอกว่าไม่สะดวก ทำให้เจ้าหน้าที่รู้สึกลำบาก พอเข้มงวดมากๆ ก็ขอผ่อนคลาย พอขอผ่อนคลายมากผู้ร้ายก็แทรกซึมได้ ทำให้เป็นปัญหา ผมได้บอกไปว่าในสถานการณ์ที่เป็นแบบนี้ จำเป็นแล้วที่ทุกด่านต้องเข้มงวด กวดขัน หากเกิดเหตุจะได้สกัดได้ ถ้ามีปัญหาก็ต้องกราบขออภัยและชี้แจงต่อประชาชนว่า เพื่อให้เกิดความปลอดภัย เพื่อให้เกดความสงบจำเป็นที่จะต้องมีมาตรการที่จะต้องกระทบต่อความสะดวกสบายของประชาชนบ้าง”
เมื่อถามว่าการก่อเหตุหลายนครั้งที่ผ่านมาทำเป็นลักษณะกองโจร ต้องใช้งานทางด้านการข่าวให้มากขึ้น นายสุเทพกล่าวว่า พยายามปรับปรุงเพิ่มขีดความสามารถในเรื่องการข่าว ในเรื่องการปฏิบัติ ไม่ใช่ลักษณะที่เป็นสงครามระหว่างชาติ เป็นเรื่องที่เกิดภายในประเทศ จึงเป็นเรื่องลำบากที่เวลาจะแยกคนร้ายและประชาชนออกจากกัน ก็ต้องใช้ความระวัดสะวังเป็นพิเศษในการทำงาน
ส่วนการที่กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบมุ่งโจมตีคนไทยพุทธ เพราะต้องการให้เกิดความแตกแยกระหว่างศาสนานั้น นายสุเทพกล่าวว่า ปัญหาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่ใช่เรื่องของศาสนา แต่คนพยายามที่จะโยงเอาศาสนาเข้ามาเกี่ยว เพราะเวลาการปลุกปั่นอ้างบทบัญญัติทางศาสนาและอ้างเรื่องศาสนามานั้นจะทำให้คนจำนวนหนึ่งคล้อยตามได้ง่าย แต่ได้เห็นว่าบรรดาผู้นำทางศาสนาไม่ว่าชาวพุทธหรือมุสลิมมีสติดี พยายามที่จะร่วมกันอย่างดี บางพื้นที่ที่ตนลงไป โต๊ะครู โต๊ะอิหม่าม กับพระครู มีการนั่งปรึกษาที่จะหาทางแก้ไขเหตุการณ์ ไม่ต้องการให้ฝ่ายใดเอาศาสนามาเป็นเครื่องมือในการแบ่งแยกคนไทย
ผู้สื่อข่าวถามว่านโยบายของ ผบ.ทบ.ที่ออกมาระบุว่าจะไม่ใช้ความรุนแรงถูกต้องหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า เรื่องที่ ผบ.ทบ.บอกกับประชาชนไปเป็นเรื่องที่ถูกต้อง รัฐบาลจะดำเนินการทุกอย่างในกรอบของกฎหมายเท่านั้น ไม่ใช้วิธีการใดที่อยู่นอกเหนือที่กฎหมายอนุญาต กรณีที่เกิดเหตุการณ์ขึ้นเป็นหน้าที่ของตำรวจและเจ้าหน้าที่บ้านเมืองที่จะช่วยกันจับกุมเอาคนร้ายมาดำเนินคดี วันนี้ถ้าไปติดตามการดำเนินคดีจะพบว่าตำรวจในศูนย์ปฏิบัติการภาคใต้ ทำหน้าที่ได้ดีมากดำเนินคดีได้มากขึ้น อาศัยหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ มาช่วยประกอบ ทั้งกระทรวงยุติธรรมและสตช.ก็ร่วมมือกันดี ส่วนที่จะไปตอบโต้อย่างรุนแรงเหมือนในอดีตนั้นจะยิ่งทำให้ปัญหาขยายตัวรุนแรง ทำให้เกิดความผิดพลาดมากขึ้น ตรงนี้เราไม่ทำ รัฐบาลเองก็ต้องพยายามเพิ่มขีดความสามารถของเจ้าหน้าที่ให้มากขึ้น เพื่อให้สถานการณ์เบาลง
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีการเสนอให้ผู้นำชุมชนดูแลกันเอง นายสุเทพกล่าวว่า เรื่องการมีส่วนร่วมของประชาชนในการเข้าไปช่วยดูแลเพื่อป้องกัน สถานการณ์เป็นเรื่องที่ดำเนินการอยู่แล้ว
