ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - “เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสังคมและองค์กรชุมชนภาคใต้” ร่อนจดหมายเปิดผนึกเรียกร้องให้รัฐบาลแก้เร่งแก้ไขปัญหาประชาชน และสนับสนุนข้อเรียกร้องของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม โดยได้แนบรายชื่อนักวิชาการเป็นบัญชีหางว่าวรวม 151 คนไว้ได้
ผศ.ดร.ณฐพงศ์ จิตรนิรัตน์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ ในฐานะผู้ประสานงานเครือข่ายนักวิชาการเพื่อสังคมและองค์กรชุมชนภาคใต้ ได้ส่งจดหมายเปิดผนึกลงวันที่ 21 ก.พ.2554 ไปยังสื่อมวลชนต่างๆ ในพื้นที่ภาคใต้ เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาประชาชน และสนับสนุนข้อเรียกร้องของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม โดยในท้ายจดหมายเปิดผนึกดังกล่าวได้มีการแนบบัญชีรายชื่อนักวิชาการในเครือข่ายจากสถาบันการศึกษาทั่วภาคใต้รวม 151 คนไว้ได้
โดยเนื้อหาของจดหมายเปิดผนึกดังกล่าว ระบุว่า ตามที่ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) ซึ่งเป็นขบวนการขององค์กรเกษตรกรและคนจนเมือง ที่ได้รับผลกระทบอันจากนโยบายการพัฒนาประเทศ อันประกอบด้วย เครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทย, เครือข่ายสลัม 4 ภาค, สมัชชาคนจนกรณีเขื่อนปากมูล และเครือข่ายชุมชนเพื่อการปฏิรูปสังคมและการเมือง ชมรมประมงพื้นบ้านจังหวัดตรัง กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้พิบูลมังสาหาร อุบลราชธานี กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากโรงไฟฟ้าชีวมวลและคัดค้านโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ อุบลราชธานี ได้ชุมนุมเรียกร้องให้มีการปฏิรูปที่ดิน การปฏิรูปการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมและสิทธิความเป็นมนุษย์ และการยอมรับสิทธิชุมชนในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ เพื่อสร้างความเป็นธรรมในสังคมนั้น
เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสังคมและองค์กรชุมชนภาคใต้ เห็นว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นล้วนเป็นผลพวงมาจากการพัฒนาที่บิดเบี้ยว ไม่สอดคล้องกับวิถีชีวิตและความต้องการของชุมชนท้องถิ่น อันนำมาซึ่งความเหลื่อมล้ำ ความไม่ยุติธรรมและไม่เท่าเทียมในสังคม
เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสังคมและองค์กรชุมชนภาคใต้ จึงมีความเห็นและเสนอแนะ ดังนี้
1.เรียกร้องให้รัฐบาลได้แสดงความจริงใจในการแก้ไขปัญหา ตามข้อเรียกร้องของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) ในประเด็นเรื่องการปฏิรูปที่ดิน การปฏิรูปการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ การยอมรับสิทธิชุมชนในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมและสิทธิความเป็นมนุษย์ เพื่อแสดงให้เห็นถึงเจตนารมณ์อันมุ่งมั่นของรัฐบาลที่จะยึดประชาชนเป็นศูนย์กลางในการพัฒนา ตามที่ได้ประกาศนโยบายการปฏิรูปสังคม
2.รัฐบาลจะต้องให้ความสำคัญกับปัญหาและข้อเรียกร้องของภาคประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากการพัฒนาอย่างเร่งด่วน เพราะการแก้ไขปัญหาประชาชนเป็นหัวใจและรากฐานสำคัญของการปฏิรูปสังคมไทย
3.การชุมนุมเรียกร้องของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) เป็นการชุมนุมเรียกร้องตามสิทธิในรัฐธรรมนูญ ที่จะต้องได้รับการคุ้มครองและดูแลจากรัฐบาลโดยไม่บิดเบือนเจตนารมณ์ในการชุมชนเป็นประเด็นความขัดแย้งทางการเมือง
อนึ่ง เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสังคมและองค์กรชุมชนภาคใต้ จะประสานงานกับนักวิชาการจากสถาบันการศึกษาต่างๆ เพื่อร่วมกันผลักดัน การแก้ไขปัญหาเหล่านี้ในเชิงนโยบายและปัญหารูปธรรมเฉพาะหน้า ตามที่ได้มีการศึกษาและมีผลทางวิชาการรองรับ ต่อไป
ผศ.ดร.ณฐพงศ์ จิตรนิรัตน์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ ในฐานะผู้ประสานงานเครือข่ายนักวิชาการเพื่อสังคมและองค์กรชุมชนภาคใต้ ได้ส่งจดหมายเปิดผนึกลงวันที่ 21 ก.พ.2554 ไปยังสื่อมวลชนต่างๆ ในพื้นที่ภาคใต้ เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาประชาชน และสนับสนุนข้อเรียกร้องของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม โดยในท้ายจดหมายเปิดผนึกดังกล่าวได้มีการแนบบัญชีรายชื่อนักวิชาการในเครือข่ายจากสถาบันการศึกษาทั่วภาคใต้รวม 151 คนไว้ได้
โดยเนื้อหาของจดหมายเปิดผนึกดังกล่าว ระบุว่า ตามที่ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) ซึ่งเป็นขบวนการขององค์กรเกษตรกรและคนจนเมือง ที่ได้รับผลกระทบอันจากนโยบายการพัฒนาประเทศ อันประกอบด้วย เครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทย, เครือข่ายสลัม 4 ภาค, สมัชชาคนจนกรณีเขื่อนปากมูล และเครือข่ายชุมชนเพื่อการปฏิรูปสังคมและการเมือง ชมรมประมงพื้นบ้านจังหวัดตรัง กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้พิบูลมังสาหาร อุบลราชธานี กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากโรงไฟฟ้าชีวมวลและคัดค้านโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ อุบลราชธานี ได้ชุมนุมเรียกร้องให้มีการปฏิรูปที่ดิน การปฏิรูปการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมและสิทธิความเป็นมนุษย์ และการยอมรับสิทธิชุมชนในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ เพื่อสร้างความเป็นธรรมในสังคมนั้น
เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสังคมและองค์กรชุมชนภาคใต้ เห็นว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นล้วนเป็นผลพวงมาจากการพัฒนาที่บิดเบี้ยว ไม่สอดคล้องกับวิถีชีวิตและความต้องการของชุมชนท้องถิ่น อันนำมาซึ่งความเหลื่อมล้ำ ความไม่ยุติธรรมและไม่เท่าเทียมในสังคม
เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสังคมและองค์กรชุมชนภาคใต้ จึงมีความเห็นและเสนอแนะ ดังนี้
1.เรียกร้องให้รัฐบาลได้แสดงความจริงใจในการแก้ไขปัญหา ตามข้อเรียกร้องของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) ในประเด็นเรื่องการปฏิรูปที่ดิน การปฏิรูปการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ การยอมรับสิทธิชุมชนในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมและสิทธิความเป็นมนุษย์ เพื่อแสดงให้เห็นถึงเจตนารมณ์อันมุ่งมั่นของรัฐบาลที่จะยึดประชาชนเป็นศูนย์กลางในการพัฒนา ตามที่ได้ประกาศนโยบายการปฏิรูปสังคม
2.รัฐบาลจะต้องให้ความสำคัญกับปัญหาและข้อเรียกร้องของภาคประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากการพัฒนาอย่างเร่งด่วน เพราะการแก้ไขปัญหาประชาชนเป็นหัวใจและรากฐานสำคัญของการปฏิรูปสังคมไทย
3.การชุมนุมเรียกร้องของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) เป็นการชุมนุมเรียกร้องตามสิทธิในรัฐธรรมนูญ ที่จะต้องได้รับการคุ้มครองและดูแลจากรัฐบาลโดยไม่บิดเบือนเจตนารมณ์ในการชุมชนเป็นประเด็นความขัดแย้งทางการเมือง
อนึ่ง เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสังคมและองค์กรชุมชนภาคใต้ จะประสานงานกับนักวิชาการจากสถาบันการศึกษาต่างๆ เพื่อร่วมกันผลักดัน การแก้ไขปัญหาเหล่านี้ในเชิงนโยบายและปัญหารูปธรรมเฉพาะหน้า ตามที่ได้มีการศึกษาและมีผลทางวิชาการรองรับ ต่อไป