อุบลราชธานี - กลุ่มชาวบ้านสมัชชาคนจน ซึ่งปักหลักชุมนุมหน้าศาลากลางอุบลฯ เป็นวันที่ 22 พังแนวกั้นชั้นในหวังเข้าไปสังเกตการประชุมทางไกลผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ระหว่างนายกรัฐมนตรีกับหัวหน้าส่วนราชการ ทำให้เกิดการผลักดันกับเจ้าหน้าที่ ก่อนพากันสลายตัวหลังไม่สามารถเข้าไปได้ แกนนำชาวบ้านเผยต้องการให้ผู้ว่าราชการจังหวัด นำปัญหาของชาวบ้านไปพูดในที่ประชุมกับนายกฯ ไม่หวังก่อความรุนแรงแต่อย่างใด
วันนี้ (4 ก.พ.) ผู้สื่อข่าว จ.อุบลราชธานี รายงานว่า ระหว่างนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีกำลังประชุมทางไกลผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เพื่อสอบถามความคืบหน้าโครงการส่งเสริมการปลูกยางพาราในภาคอีสาน และการจ่ายเงินชดเชยการสร้างเขื่อนราษีไศล โดยมีหน่วยงานราชการประชุมร่วมกันครั้งนี้ 3 จังหวัด คือ จ.หนองคาย สุรินทร์ และอุบลราชธานี
กลุ่มผู้ชุมนุมสมัชชาคนจนเขื่อนปากมูล ที่ปักหลักชุมนุมเป็นวันที่ 22 บริเวณสนามฟุตบอลหน้าศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ประมาณ 500 คน ได้พังแผงกั้นที่เป็นราวเหล็ก ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจและอาสาสมัคร นำมาตั้งไว้ตั้งแต่มีการชุมนุมวันแรก เข้าประชิดตัวอาคารศาลากลางที่อยู่ห่างจากรั้วประมาณ 10 เมตร และกลุ่มชาวบ้านพยายามจะเข้าไปในศาลากลางตรงบริเวณบันไดทางขึ้นด้านหน้า
แต่ถูกกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและอาสาสมัครสามารถสกัดไว้ได้ เนื่องจากบันไดทางขึ้นเล็กและแคบ หลังชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ผลักดันกันอยู่บริเวณบันไดทางขึ้นนานประมาณ 2-3 นาที กลุ่มผู้ชุมนุมไม่สามารถเข้าไปในตัวอาคารศาลากลางที่กำลังมีการประชุมกันอยู่ได้
ประกอบกับเจ้าหน้าที่ใช้เครื่องขยายเสียงแจ้งให้ผู้ชุมนุมทราบว่า หากใครบุกรุกเข้าในตัวอาคารจะถูกจับกุมดำเนินคดีทันที ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมมายืนรวมกันบริเวณสวนหย่อมหน้าศาลากลาง และร่วมกันร้องเพลงมาร์ซสมัชชาคนจน สลับกับเสียงประกาศของเจ้าหน้าที่ขอให้ชาวบ้านถอนกลับไปชุมนุมในจุดเดิม ซึ่งอยู่ห่างจากตัวอาคารศาลากลางประมาณ 50 เมตร
กระทั่งเวลาผ่านไปประมาณ 20 นาที การประชุมทางไกลผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ระหว่างนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กับส่วนราชการจบลง กลุ่มชาวบ้านสมัชชาคนจนก็ได้พากันถอยกลับไปชุมนุมอยู่ในจุดเดิม โดยไม่มีเหตุการณ์รุนแรงบานปลายเกิดขึ้นอีก
สำหรับการเข้ามากดดันเจ้าหน้าที่ครั้งนี้ นางสมปอง เวียงจันทร์ แกนนำชาวบ้านสมัชชาคนจนระบุว่า ไม่ต้องการก่อความรุนแรง แต่ต้องการเข้าไปสังเกตการณ์ประชุม และขอให้นายสุรพล สายพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี นำเรื่องการชุมนุมของชาวบ้านที่อยู่หน้าศาลากลางเข้าไปพูดคุยหารือในการประชุมทางไกลกับนายกรัฐมนตรี
เพื่อเร่งให้เกิดการแก้ปัญหาให้ชาวบ้านเร็วขึ้นเท่านั้น เมื่อไม่สามารถเข้าไปแจ้งกับนายสุรพลได้ กลุ่มผู้ชุมนุมก็จะปักหลักชุมนุมกันต่อไป จนกว่าปัญหาจะได้รับการเยียวยาแก้ไขในที่สุด