อุบลราชธานี- กลุ่มชาวบ้านสมัชชาคนจนกว่า 1,000 คน ร่วมทำพิธีพราหมณ์ขับไล่สิ่งชั่วร้ายและเบิกตาจังหวัด รัฐบาลให้เห็นปัญหาของคนจน หลุดจากการครอบงำของ กฟผ.ยันยังชุมนุมต่อ พร้อมขยายพื้นที่ตามจำนวนผู้ชุมนุมที่เข้ามาร่วมมากขึ้น แต่เป็นไปด้วยความสงบไม่รุนแรง
เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (18 ม.ค.) ชาวบ้านสมัชชาคนจนเขื่อนปากมูล ซึ่งยึดสนามหญ้าหน้าศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ใช้เรียกร้องให้รัฐบาลปฏิบัติตามข้อสรุปของคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาเขื่อนปากมูลเป็นวันที่ 6 ทำพิธีพราหมณ์ขับไล่สิ่งชั่วร้ายในศาลากลาง
ทั้งนี้ เพราะชาวบ้านเชื่อว่า ข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุมไม่คืบหน้า มาจากจังหวัด และรัฐบาลถูกครอบงำจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย จึงทำพิธีขับไล่และเบิกตารัฐบาลให้รู้ข้อเท็จจริง แล้วลงมาแก้ปัญหาให้กับชาวบ้านสมัชชาคนจน
หลังเสร็จพิธีพรามหณ์ กลุ่มชาวบ้านประมาณ 1,000 คน ได้ตั้งแถวเดินรอบอาคารศาลากลาง โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจและอาสาสมัครคอยสังเกตความเคลื่อนไหวอยู่หลังแผงเหล็ก ซึ่งนำมากั้นไม่ให้ผู้ชุมนุมเข้ามาภายใน หลังเดินวนครบ 1 รอบ กลุ่มผู้ชุมนุมมาหยุดยืนประชิดแนวรั้วเหล็ก ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังมายืนประจันหน้าในระยะใกล้
ต่อจากนั้นแกนนำผู้ชุมนุมได้ประกาศเจตนารมณ์ โดยระบุว่า ชาวบ้านจะยกระดับชุมนุมกดดันรัฐบาล เพื่อให้สนใจข้อเรียกร้องของชาวบ้าน ส่วนการชุมนุมที่ดำเนินอยู่ ผู้ชุมนุมจะเข้ายึดพื้นที่เพิ่มตามจำนวนผู้ชุมนุมที่มากขึ้น แต่จะชุมนุมอย่างสงบ เพื่อรอคำตอบจากรัฐบาล
หลังจากนั้น กลุ่มผู้ชุมนุมทั้งหมดได้ร่วมร้องเพลงสมัชชาคนจนก่อนสลายตัว โดยไม่มีเหตุการณ์รุนแรงใดๆ
ด้าน นายทองปน ไชยคำ แกนนำชาวบ้านปากมูล ระบุว่า ตามที่ชาวบ้านส่งตัวแทนไปหารือกับจังหวัด ให้ส่งข้อเสนอของชาวบ้านที่มาชุมนุมถึงรัฐบาล ปรากฏว่าไม่ได้รับความสนใจ ผู้ชุมนุมได้หารือจะยกระดับการกดดันจังหวัดและรัฐบาลเพิ่มขึ้น ส่วนจะด้วยวิธีใดจะมีการหารือในกลุ่มแกนนำอีกครั้งหนึ่ง แต่ยืนยันว่า จะเคลื่อนไหวอย่างสงบไม่สร้างความรุนแรงใดๆ